กปร.7 มี.ค.-มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ ร่วมกับกรมป่าไม้ สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ขยายผลเครือข่ายจัดการดิน น้ำ ป่า ตามแนวพระราชดำริ
มูลนิธิอุทกพัฒน์ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย กรมป่าไม้ โดยนายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้และสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย (อบจ.)โดยนายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การพัฒนาและขยายผลเครือข่ายการจัดการทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า ตามแนวพระราชดำริ” เพื่อเทิดด้วยทำ น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้และเพื่อสนับสนุนให้เกิดการดำเนินงานอย่างมีส่วนร่วมและเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น ทั้งในแผนระดับชุมชน ระดับจังหวัด และระดับประเทศ เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ และภาคประชาชน อันจะนำไปสู่เครือข่ายการบริหารจัดการทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า ที่มั่นคงและยั่งยืน
ดร.สุเมธ กล่าวว่า มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯได้ดำเนินงานพัฒนาเครือข่ายการจัดการน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ พบตัวอย่างความสำเร็จของการจัดการทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า ในระดับชุมชนจำนวนมาก แต่ละชุมชนมีความรู้และประสบการณ์ที่เป็นแบบอย่างความสำเร็จ จากการน้อมนำแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากร ดิน น้ำป่า มาประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม ตามสภาพภูมิสังคม และได้คัดเลือกตัวอย่างชุมชนที่ประสบความสำเร็จ 60 ชุมชนแกนนำ ขยายผลได้ 932 หมู่บ้าน ร่วมดำเนินงานเป็นเครือข่ายการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ ร่วมกันพัฒนา และบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน โดยนำแนวพระราชดำริ กรอบคิด กรอบงาน และ หลักการทรงงาน เช่น การพึ่งตนเอง การคิดให้เชื่อมโยงกัน ใช้ธรรมชาติแก้ธรรมชาติ ทำงานที่เหมาะสมกับพื้นที่ หรือภูมิสังคม ลงมือทำและสร้างตัวอย่างความสำเร็จ สามารถขยายผลความสำเร็จสู่ชุมชนอื่นๆ เกิดเป็น “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ” ปัจจุบัน มีอยู่ 13 แห่ง กระจายอยู่ทุกภาคของประเทศไทย และมี 9 แห่ง จากแกนนำ 28 ชุมชน ที่ได้ร่วมดำเนินงานกับกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ในโอกาสเดียวกันนี้ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เป็นประธานร่วมในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ พร้อมมอบนโยบายการจัดการทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า อย่างมีส่วนร่วม ว่า รัฐบาลทุ่มเทเต็มที่ โดยใช้องค์ความรู้ทั้งจากชุมชนท้องถิ่นและด้านวิชาการ มาร่างเป็นกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวกับดินน้ำป่า เพื่อให้เกิดความยั่งยืน และสนับสนุนให้เกิดการปฏิบัติงานร่วมกันในโครงการพัฒนาและขยายผลการดำเนินงานตามแนวพระราชดำริ ด้านการจัดการทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ท้องถิ่น เครือข่ายและชุมชนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ /สนับสนุนและแลกเปลี่ยนข้อมูลสารสนเทศด้านต่างๆ
สำหรับการบริหารจัดการทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า ตามแนวพระราชดำริ และ สนับสนุนงานวิจัย พัฒนา และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีร่วมกัน ในการฟื้นฟู และอนุรักษ์ทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า ตามแนวพระราชดำริ ให้เป็นตัวอย่างความสำเร็จ สำหรับขยายผลสู่การปฏิบัติจริงในพื้นที่ของประชาชน หรือ ชุมชน สู่ท้องถิ่น อย่างยั่งยืนสืบไป.-สำนักข่าวไทย