กรมป่าไม้-สคทช.​เร่งแก้ปัญหาซื้อขายที่ดิน คทช.ในป่าสงวนฯ

กรุงเทพฯ​ 12 มี.ค.​ – อธิบดี​กรม​ป่าไม้ ​หารือผู้อำนวยการ​ สคทช.​ เดินหน้า แก้ปัญหาซื้อขายที่ดินโครงการ ​คทช. ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ วางแนวทางปฏิบัติป้องกันการเปลี่ยน​มือสู่นายทุน​ หรือคนไม่ตรงคุณ​สมบัติ​ ออกหนังสือด่วนแจ้งผู้​ว่าราชการ​จังหวัด​ และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ตรวจสอบ​ ย้ำหากตรวจพบกระทำผิด เจอเพิกถอนการครอบ​ครองแน่นอน


นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ และนางรวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ร่วมกันหารือเกี่ยวกับมาตรการ​ป้องกัน​การ​ซื้อ​ขาย​ที่ดินในโครงการ​จัดที่ดิน​ทำกินให้ชุมชน​ตามนโยบาย​รัฐบาล​ (คทช.) โดยมี พล.ต.ต.วัชรินทร์​ พูสิทธ​์​ ผู้​บังคับการ​ปราบปราม​การกระทำ​ความผิด​เกี่ยวกับ​ทรัพยากร​ธรรมชาติ​และ​สิ่ง​แวดล้อม​ (บก.​ปทส.) หารือ​ด้วย

อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า​ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่กรมป่าไม้นำไปดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่มีราษฎรถือครองทำกินมาอย่างต่อเนื่อง อยู่ในลุ่มน้ำชั้นที่ 3 4 และ 5 ซึ่งสำรวจไว้ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 ปรากฎร่องรอยการทำประโยชน์ในภาพถ่ายทางอากาศสี Ortho Photo ปี 2545 โดยการอนุญาตตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำพื้นที่ไปดำเนินการจัดที่ดินตามแนวทางที่ คทช. กำหนดให้ราษฎรได้อยู่อาศัยทำกินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย


ที่ผ่านมาได้ขับเคลื่อนนโยบายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามแนวทาง​ของ​คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช. ที่​ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อขับเคลื่อนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน รวม 4 คณะ ประกอบด้วย 1) คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธาน อธิบดีกรมป่าไม้เป็นเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ในการจัดหาที่ดินของรัฐที่เหมาะสม เช่น ป่าสงวนแห่งชาติ ที่ราชพัสดุ ที่สาธารณะประโยชน์ เป็นต้น นำมาดำเนินจัดการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน

2) คณะอนุกรรมการจัดที่ดินมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน อธิบดีกรมที่ดินเป็นเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่กำหนดหลักเกณฑ์การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนหรือที่อยู่อาศัยในลักษณะแปลงรวม 3) คณะอนุกรรมการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ในการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาดและพัฒนาสาธารณูปโภคให้แก่ชุมชน 4) คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด​(คทช.จังหวัด) มีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน หัวหน้าสำนักงานจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด และสหกรณ์จังหวัดเป็นเลขานุการร่วม มีอำนาจหน้าที่ขับเคลื่อนการจัดที่ดิน ทำกินให้ชุมชนในระดับจังหวัด ทั้งในด้านการจัดหาที่ดิน การจัดที่ดิน การพัฒนาอาชีพ การพัฒนาสาธารณูปโภค โดยดำเนินการร่วมกับคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้​คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดินได้กำหนดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเป็นพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน 699 พื้นที่ 65 จังหวัด เนื้อที่ 4.07 ล้านไร่ พร้อมกันนี้ จังหวัดได้ยื่นขออนุญาตเพื่อนำพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติไปดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน 3.67 ล้านไร่ ขณะที่คณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติซึ่งมีปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานได้เห็นชอบในหลักการในการอนุญาตให้ผู้ว่าราชการการจังหวัดนำพื้นที่ไปดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนทั้ง 3.67 ล้านไร่แล้ว โดยกรมป่าไม้ได้ออกหนังสืออนุญาตให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติไปดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนแล้ว 2.99 ล้านไร่ และคณะอนุกรรมการจัดที่ดินได้ดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติให้แก่ราษฎรแล้ว 85,335 ราย 107,454 แปลง เนื้อที่ 602,501 ไร่


ล่าสุด​กรมป่าไม้ได้มีหนังสือด่วนที่สุดแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดและสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ให้ดำเนินการใน 3 แนวทางสำคัญ คือ 1) เร่งรัดดำเนินการในขั้นตอนการจัดที่ดินให้เสร็จสิ้น เพื่อป้องกันและควบคุมมิให้มีการซื้อขายเปลี่ยนมือ โดยให้ทำการตรวจสอบคัดกรองผู้ที่จะได้รับการจัดที่ดินตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว 2) กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจติดตามการใช้ประโยชน์ที่ดินของผู้ได้รับการจัดที่ดินอย่างสม่ำเสมอ

3) แจ้งผู้ปกครองท้องที่ ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ช่วยกันสอดส่องดูแล มิให้ มีการซื้อขายโอนสิทธิ์เปลี่ยนมือ หากตรวจพบมีการกระทำผิดเงื่อนไข ข้อกำหนดการใช้ที่ดิน ให้แจ้ง คทช.​จังหวัด พิจารณายกเลิกเพิกถอนการจัดที่ดินของราษฎรรายนั้นๆ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผู้​อำนวยการ​ สคทช.​ กล่าว​ว่า​ การ​จัด​ที่ดิน​ทำกินให้ชุมชน​ในโครงการ​ คทช.​ จัดให้​ราษฎร​ที่​มีคุณสมบัติ​ตามที่กำหนด​ รายละไม่เกิน​ 20​ ไร่​ ยืนยัน​ว่า​ ที่ดินคทช.​ ไม่สามารถ​ซื้อ​ขาย​เปลี่ยน​มือได้​ แต่สามารถ​ตกทอดสิทธิ​การ​ใช้​ประโยชน์​ในที่ดินสู่ทายาทได้​

จาก​นี้ไปจะร่ว​มมือกับกรมป่าไม้​ รวมถึง​ทางจังหวัด​ในการติดตามการใช้ประโยชน์​ที่​ดินและการรุกพื้นที่​ป่าสงวน​แห่งชาติ​เพิ่ม​เติม​โดยการขอความร่วมมือ​จาก​ GISTDA​ ในการใช้เทคโนโลยีภาพ​ถ่าย​ดาวเทียม​ความละเอียดสูงในการ​ตรวจสอบ​ทั่ว​ประเทศ​ โดยจะบูรณาการระหว่างหน่วยงานเพื่อนำเข้าข้อมูลรูปแปลง ที่ดินที่ได้รับอนุญาตแล้วตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 กลุ่มที่ 1 – 3 รวมเนื้อที่กว่า 7.32 ล้านไร่ ในระบบติดตามการใช้ประโยชน์พื้นที่จัดที่ดิน คทช. (SPHERE) เพื่อให้การกำกับติดตามการใช้ประโยชน์พื้นที่มีความครอบคลุมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ผู้​บังคับการ ​บก.​ปทส.​ กล่าว​ถึง​การ​ดำเนินคดีต่อผู้บุกรุก​ครอบครองที่ดินคทช.​ และป่าสงวนแห่งชาติ​ในจังหว​ัดฉะเชิงเทรา​ รวมทั้ง​พื้นที่​ป่าสงวน​แห่งชาติ​ในจังหวัดจันทบุรี​ ซึ่ง​มีข้อมูล​จากการสืบสวน​เบื้องต้น​ว่า​ เป็น​กลุ่ม​ทุน​ที่บุกรุก​ครอบครองพื้น​ที่​เพื่อ​ทำสวน​ทุเรียน​ โดยเมื่อกรมป่าไม้​ร้องทุกข์​แจ้ง​ความ​ดำเนิน​คดี​ต่อ บก.ปทส.​ แล้ว​จะต้อง​สอบ​สวนขยาย​ผล​หาผู้กระทำ​ความผิด​ให้​ได้.​ -512​ – สำนักข่าว​ไทย​

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

“อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]

จับตาประชุม JBC วันที่ 2 หลังกัมพูชายื่นศาลโลก

กัมพูชา 15 มิ.ย.-ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 2 เริ่มขึ้นแล้ว ที่กรุงพนมเปญ หลังวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยมีการประชุมวงเล็กก่อน จากนั้นอาจมีการแถลงร่วมกัน ต้องจับตาว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ รวมถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย หลังกัมพูชายื่นศาลโลก.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” พรุ่งนี้

ทำเนียบ 15 มิ.ย.-รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบฯ ต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” Miss World 2025 ร่วมโชว์พลังหญิง นำเสนอวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์ให้กับประเทศไทยในทุกมิติ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2568) รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ให้การต้อนรับ “โอปอล” นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World คนแรกของประเทศไทย ที่เพิ่งคว้ามงกุฎระดับโลกในการประกวด Miss World ประจำปี 2025 ที่ประเทศอินเดีย มีกำหนดการเข้าพบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเวลา 10.00 น. การพบปะกันในครั้งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังของสตรีไทย ที่สามารถสร้างชื่อเสียงและแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในประเด็นสิทธิสตรี การศึกษา และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายรัฐบาลในปัจจุบัน การเข้าเยี่ยมคารวะของ Miss World 2025 ยังเป็นการส่งสารเชิงบวกต่อประชาคมโลกว่า ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านความเท่าเทียมทางเพศอีกด้วย […]