รัฐสภา 9 มี.ค.-“สุรพงษ์” ยอมรับรู้สึกกังวลผลการถอดถอน หลังสนช.ไม่อนุญาตให้เพิ่มพยานหลักฐาน เผยอยากชี้แจงแถลงเปิดคดีและปิดคดี ก่อนรัฐธรรมนูญใหม่มีผลบังคับใช้ เพื่ออยากให้สังคมเห็นว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการออกหนังสือเดินทาง “ทักษิณ”
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไม่อนุญาตให้เพิ่มเติมพยานเอกสารที่ขอเพิ่มทั้ง 5 รายการ ในคดีถูกถอดถอนจากตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กรณีใช้อำนาจหน้าที่ออกหนังสือเดินทางธรรมดาให้นายทักษิณ ชินวัตร โดยมิชอบ ว่า ตอนแรกที่ตัดสินใจมาชี้แจงเพราะคิดว่าสนช.จะพิจารณาด้วยความเป็นธรรม แต่เมื่อผลออกมาเป็นเช่นนี้ ก็ยอมรับว่ากังวลถึงผลการลงมติถอดถอนที่แม้จะชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบอย่างไร ผลลัพธ์ไม่น่าจะแตกต่างกัน อย่างไรก็ตามยังอยากมาชี้แจงทั้งในวันแถลงเปิดคดีและปิดคดี เพื่อให้สังคมได้เห็นว่าข้อกล่าวหาของป.ป.ช.ไม่น่าเชื่อถืออย่างไร และมีหลักฐานชัดว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการออกหนังสือเดินทางให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่เป็นเรื่องของข้าราชการประจำที่ดำเนินการ ดังนั้นจึงอยากให้รัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งไม่มีมาตราเรื่องการถอดถอน อย่าเพิ่งมีผลบังคับใช้ เพราะจะได้แถลงความจริงให้ประชาชนรับทราบ
“ใจผมยังไม่อยากให้รัฐธรรมนูญออกมาตอนนี้ อยากให้พิสูจน์ความจริง สังคมจะได้เห็นประจักษ์ว่าผมได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ เหมือนกับเอาหลักฐานมาแฉกันเลย เพราะเรื่องนี้ข้าราชการ ผู้หลักผู้ใหญ่ของกระทรวงต่างให้ข้อมูลมา”นายสุรพงษ์ กล่าว
สำหรับกรณีที่ร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญวิธีพิจารณาคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะไม่นับอายุความของนักการเมืองที่หนีคดีนั้น นายสุรพงษ์ กล่าวว่า กฎหมายใดก็ตาม ควรต้องมีบทบัญญัติที่เท่าเทียมกันทั้งนักการเมือง ข้าราชการ และประชาชน เพื่อให้เกิดความเสมอภาคและเป็นธรรม ไม่ควรยกเว้นให้ผู้หนึ่งผู้ใด หากทำเช่นนี้ได้ ความสามัคคีปรองดองจึงจะเกิดขึ้น และกรณีของข้าราชการประจำ หากทำผิด ควรจะมีบทบัญญัติที่รุนแรงกว่านักการเมืองด้วยซ้ำ เพราะอยู่นาน นักการเมืองมาแล้วก็ไป.-สำนักข่าวไทย