สนพ.คาดราคาน้ำมันหน้าปั๊ม-แอลพีจีปีหน้าทรงตัว

กรุงเทพฯ 19 ธ.ค. – สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) คาดราคาน้ำมันขายปลีกหน้าปั๊มและแอลพีจีจะทรงตัวกับปัจจุบัน  ยอมรับแผนก๊าซฯ และไฟฟ้าพลาดเป้าหมาย เตรียมแผนสำรองอาจประกาศรับซื้อไฟฟ้าเอกชนเพิ่มขึ้น


ราคาพลังงานปี 2560 จะผันแปรตามทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลก  นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สนพ. คาดว่าในส่วนของราคาขายปลีกน้ำมันและก๊าซหุงต้ม หรือแอลพีจี จะใกล้เคียงกับปัจจุบัน  ซึ่งในส่วนของน้ำมันคาดจะมีราคาบวกลบขึ้นลงได้ 1-2 บาท/ลิตร  โดย สนพ.ใช้สมมติฐานเดียวกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คือ ราคาน้ำมันดิบดูไบจะอยู่ที่ประมาณ 42-52 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล  ขณะที่กลุ่มวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันของกลุ่ม ปตท. หรือ PRISM ประเมินราคาอยู่ที่ 50-55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่วนแอลพีจีปีหน้าคาดราคา 400 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน  ด้านราคาเอ็นจีวี กลุ่ม ปตท.คาดปีหน้าอยู่ที่ประมาณ 7.5 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามดูว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันทั้งโอเปกและนอกโอเปกจะลดกำลังผลิตตามที่ตกลงได้ หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดที่มีแนวโน้มจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในปีหน้า  ส่วนค่าไฟฟ้าและเอ็นจีวี ยอมรับว่าต้นทุนจะขยับขึ้น เพราะราคาก๊าซธรรมชาติในประเทศสะท้อนต้นทุนราคาน้ำมันเตาย้อนหลัง 6-12 เดือน ซึ่งที่ผ่านมาราคาน้ำมับดูไบต้นปีอยู่ที่ประมาณกว่า 30 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ในขณะนี้ขึ้นมาอยู่ที่กว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าราคาเอ็นจีวี เดือนธันวาคมเริ่มจาก 16 ธันวาคมก็จะขยับขึ้นจาก 65 สตางค์/กิโลกรัม โดยปรับขึ้นมาอยู่ที่ 12.54 บาท/กิโลกรัม


ทั้งนี้ สนพ.ได้แถลงการประเมินผลการดำเนินงานตามนโยบายและตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งพบว่าแผนผลิตไฟฟ้าระยะยาว (พีดีพี 2015 ปี 2558-2579 ) และแผนบริหารจัดการก๊าซฯ ไม่เป็นไปตามแผน เนื่องจากโรงไฟฟ้าถ่านหินและการเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมในประเทศล่าช้า ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เกินเป้าหมายถึง 463 เมกะวัตต์ โดยมีกำลังผลิตถึง 2,142 เมกะวัตต์  ซึ่งกรณีแผนก๊าซฯ กพช.ได้มีการอนุมัติให้ลงทุนนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีมาทดแทนก๊าซในประเทศเพิ่มขึ้น ขณะที่การส่งเสริมการแข่งขันเพื่อประโยชน์ของประชาชนก็ทำได้มากขึ้น เช่น การเปิดเสรีนำเข้าแอลพีจีปี 2560 การปล่อยลอยตัวราคาเอ็นจีวีและแอลพีจีแบบมีกลไกกำกับดูแล  และการปรับลดอัตราสำรองของน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูปจากร้อยละ 6 เหลือร้อยละ 1

นายทวารัฐ กล่าวด้วยว่า ในแผนพีดีพี 2015 คาดว่าจะต้องมีการปรับปรุงใหม่ โดยกระทรวงฯ กำลังติดตามสถานการณ์ว่าโรงไฟฟ้าโรงใดจะล่าช้าและจะสร้างได้เมื่อใด  เช่น โรงไฟฟ้าถ่านหิน ไอพีพี 600 เมกะวัตต์ ของบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด,  โรงไฟฟ้าไอพีพีของ กลุ่มกัลฟ์เอ็นเนอร์ยี, โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่และเทพา ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ ยังคงตั้งเป้าหมายต้องการกระจายเชื้อเพลิงให้มากที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงทั้งด้านการพึ่งพาเชื้อเพลิงตัวใดตัวหนึ่งมากเกินไป และลดผลกระทบด้านราคาก๊าซแอลเอ็นจีที่ผันผวน โดยตามแผนพีดีพีเดิมต้องการเพิ่มสัดส่วนถ่านหินจากร้อยละ 19 เป็นร้อยละ 23 และก๊าซธรรมชาติลดสัดส่วนจากร้อยละ 67 เป็นร้อยละ 37 แต่หากโรงไฟฟ้าถ่านหินเกิดขึ้นไม่เป็นตามแผนสัดส่วนเหล่านี้ก็ต้องเปลี่ยนแปลงไป

ขณะเดียวกันกระทรวงฯ เตรียมแผนรองรับหลายแนวทาง เช่น การขยายกำลังผลิตของโรงไฟฟ้าเดิม, การจัดหากำลังผลิตไฟฟ้าใหม่ ซึ่งจะเป็นของ กฟผ. หรือภาคเอกชนในรูปแบบไอพีพี หรือเอสพีพี ก็ต้องมาวิเคราะห์และขึ้นอยู่กับนโยบาย, การรับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ จากขณะนี้ตามแผนมีสัดส่วนจะรับซื้อร้อยละ 20 อย่างไรก็ตาม ทางทฤษฎีสามารถเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 25 และซื้อแต่ละประเทศไม่เกินร้อยละ 13 โดยในส่วนของ สปป.ลาวมีข้อตกลงรับซื้อ (เอ็มโอยู) อยู่ที่ 9,000 เมกะวัตต์ ยังไม่ถึงเพดานร้อยละ 13 นอกจากนี้ อาจเพิ่มเรื่องการรับซื้อพลังงานหมุนเวียนจากปัจจุบันหากไม่รวมพลังงาน ตามแผนจะรับซื้อรวม 16,000 เมกะวัตต์ รวมทั้งกระทรวงฯ จะเน้นย้ำเรื่องแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมอยู่ที่ประมาณร้อยละ 30


“การนำเข้าแอลเอ็นจี มาผลิตไฟฟ้า แม้ว่าจะช่วยทำให้มีเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า ปริมาณอาจไม่ขาดแคลนเพราะในตลาดโลกมีมากขึ้น  แต่ปัญหา คือ แอลเอ็นจีมีราคาผันผวนกระทบค่าไฟฟ้า การกระจายความเสี่ยง พึ่งพาหลากหลายเชื้อเพลิง จึงน่าจะเป็นทางออกดีที่สุดสำหรับประเทศ” นายทวารัฐ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง

เร่งประสานอินเตอร์โพลขอหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ”

ตำรวจเตรียมออกหมายจับเครือข่าย “หมอบุญ” ฉ้อโกง ลอต 2 รวมทั้งเร่งประสานอินเตอร์โพล ออกหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ” กลับมาดำเนินคดี