กรุงเทพฯ 21 ต.ค. ไปรษณีย์ไทยลั่นเชื่อมโลกการสื่อสาร ลุยแพลตฟอร์มตู้แดงแรงฤทธิ์ยกระดับการจัดส่งดูแลประชาชน
นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวระหว่างการสัมมนาในหัวข้อ“รัฐ-เอกชนพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล” ภายในงานสัมมนา “เศรษฐกิจดิจิทัล พลิกฟื้นประเทศ” จัดโดย บริษัท มติชน จำกัด(มหาชน) ว่า คนไทยยังไม่มีการเข้าถึงเทคโนโลยีมากนัก วัดได้จากการส่งอีเมล์มีเพียงร้อยละ 15เท่านั้น ในเรื่องนี้ ปณท จึงได้เข้าเป็นตัวเชื่อมระหว่างโลกเก่า หรือการสื่อสารที่จับต้องได้ และโลกใหม่ หรืออิเล็กทรอนิกส์เมลล์ที่มีการยืนยันการส่งที่ชัดเจน ปัจจุบันหลายฝ่ายอาจมองว่า ปณท หันมาส่งวัสดุที่เป็นกล่องเยอะ เพราะไม่อยากให้ค่าแสตมป์ 3 บาทแพง แต่เนื้อแท้ ปณท อยู่ทั่วประเทศ จึงมียุทธสาตร์ที่รู้ว่าประชาชนอยู่ตรงไหนบ้าง ซึ่งถือเป็นทักษะพิเศษที่ ปณท มีและสามารถปรับเปลี่ยนเข้าสู่โลกดิจิทัลได้
นายก่อกิจ กล่าวว่า ปณท เชื่อมต่อการขนส่งทั่วประเทศ การดำเนินงานในช่วงโควิด-19 ปณท ได้ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรให้ส่งของถึงหน้าบ้าน ถึงแม้จะไม่มีกำไรแต่ก็ต้องช่วยกันในภาวะเช่นนี้ แต่สิ่งที่คนอาจลืมไป ปณท ยังขายแสตมป์ ที่สามารถยืนยันการส่งจดหมายได้ในกรณีมีการฟ้องร้องสามารถใช้ยืนยันได้ในชั้นศาล เพราะปณท อยู่ในสหภาพไปรษณีย์ระหว่างประเทศ หรือยูพียู เป็นบุคคลที่ 3 ที่สามารถยืนยันข้อมูลให้ได้ ซึ่งเนื้อแท้ของไปรษณีย์ไทยเป็นคนกลางที่เชื่อมการสื่อสารทั้งแบบที่จับต้องได้ และการสื่อสารผ่านเทคโนโลยี โดยปัจจุบัน ปณท ได้ทำระบบจัดการเอกสารดิจิทัล (ทีดีเอช) ผ่านแพลตฟอร์ม ตู้แดงแรงฤทธิ์ ที่นำเทคโนโลยีมาพัฒนาการให้บริการทดแทนการจัดส่งแบบเดิม เพื่อบริการที่มีคุณภาพและมีความยั่งยืนในอนาคต ซึ่งขณะนี้ ได้จ้างที่ปรึกษาเข้ามาดำเนินการแล้ว
นายก่อกิจ กล่าวต่อว่า จากข้อมูลของ คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) แสดงให้เห็นว่ามีประชน กว่าร้อยละ 85 ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงการส่งเมลแบบอิเล็กทรอนิกส์เมลไม่ได้ ดังนั้น ปณท ยังต้องเป็นตัวเชื่อมในเรื่องของการสื่อสารของทั้งระบบออนไลน์ และออฟไลน์อยู่ เพื่อให้แน่ใจว่าการสื่อสารไม่ขาดตอน ถือเป็นนิยามใหม่ของไปรษณีย์ไทย หากเอกชนอยากจะเข้าต้องจ่ายเงินเข้ามาไม่สามารถเข้ามาดึงข้อมูลแบบฟรีๆ ได้ ทั้งนี้ หากในกรณีคนรับอีเมล ไม่อ่านเกิน 3 วัน ไปรษณีย์ไทยจะปริ้นข้อมูล เพื่อนำข้อมูลไปส่งถึงบ้าน และยืนยันว่าไม่มีการเปิดอ่านก่อนผู้รับ ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับการส่งจดหมายตามปกติ
นายก่อกิจ กล่าวว่า การขับเคลื่อนหลังจากนี้ ปณท มีบริษัทลูก คือ บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด ที่มีลักษณะการทำงานแบบจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง จึงได้จัดทำแพลตฟอร์มระวางว่าง ที่เปรียบเหมือนตลาดกลางในการขนส่งสินค้าโดยให้ใช้ฟรี แต่ถ้าต้องการให้ไปรษณีย์ไทยดูแลเพิ่มเติม จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือเรียกว่ารูปแบบพรีเมียม ซึ่งหัวใจหลักของระวางว่างคือช่วยกลุ่มคนตัวเล็กให้มีรายได้เพิ่มเติมจากการขนส่งสินค้าข้ามจังหวัด โดยเพิ่มรายได้ในส่วนขากลลับที่ปกติจะตีรถเปล่ากลับให้สามารถขนส่งสินค้ากลับมาด้วยได้ และช่วยให้คนซื้อมีโอกาสได้เลือกการขนส่งที่มีราคาที่ถูกลงอีกด้วย ซึ่งโครงการดังกล่าวจัดทำหลักการเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หากผ่านการอนุมัติจะเสนอขอเงินกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(กองทุนดีอี) ต่อไป-สำนักข่าวไทย.