กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – กรมอุตุนิยมวิทยาระบุพายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว ขณะนี้มีศูนย์กลางบริเวณประเทศลาว คาดอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง เมื่อศูนย์กลางเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือของไทย โดยเข้าทางจังหวัดน่าน ทุกภาคจะมีฝนตกเพิ่ม เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว ขณะนี้มีศูนย์กลางอยู่บริเวณแขวงบอลิคำไซ ประเทศลาว โดยศูนย์กลางอยู่ห่างจากจังหวัดบึงกาฬไปทางเหนือราว 40 กิโลเมตร และยังคงเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตก คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง เมื่อศูนย์กลางเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือของไทย ขณะนี้เส้นทางจะเข้าทางจังหวัดน่านในช่วงเย็นถึงค่ำนี้
ผลจากพายุ “คาจิกิ” ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงขึ้น จะทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้นทุกภาค โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ระหว่างวันที่ 26–27 สิงหาคมนี้ พื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ
วันที่ 26 ส.ค. 2568
- ภาคเหนือ: เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี สกลนคร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ และนครราชสีมา
- ภาคกลาง: นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี และกาญจนบุรี
- ภาคตะวันออก: นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้: เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี
วันที่ 27 ส.ค. 2568
- ภาคเหนือ: เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน และพะเยา
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย และหนองคาย
- ภาคกลาง: กาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี
- ภาคตะวันออก: นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้: ระนอง และพังงา
กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะเชิงเขา ลุ่มน้ำ และใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ให้ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ขณะที่อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2–3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้เรือเล็กงดออกจากฝั่ง ส่วนเรือใหญ่ให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ศูนย์ติดตามพายุของกรมอุตุนิยมวิทยาได้เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดส่งข้อมูลคาดการณ์ให้หน่วยงานด้านการบริหารจัดการน้ำ และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อใช้ในการแจ้งเตือนประชาชนและเตรียมมาตรการอพยพ หากเกิดเหตุฉุกเฉินในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด. 512 – สำนักข่าวไทย