ทำพิธีสงฆ์ก่อนเคลื่อนร่าง “ซีอุย” ไปวัดบางแพรกใต้

ศิริราช 23 ก.ค.-ศิริราช ทำพิธีสงฆ์ก่อนเคลื่อนร่าง “ซีอุย” ไปยังวัดบางแพรกใต้ เพื่อฌาปนกิจ สิ้นสุดการเป็นอาจารย์ใหญ่ และส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์นิติเวชศิริราช ปิดตำนาน “มนุษย์กินคน”



บรรยากาศที่ รพ.ศิริราช ในการเคลื่อนร่างนายลีอุย แซ่อึ้ง หรือนายซีอุย มนุษย์กินคน ที่อยู่ภายในพิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ ตึกอดุลยเดช ของ รพ.ศิริราช วันนี้เป็นไปอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชน โดยร่างของนายลีอุย หรือซีอุย ได้ถูกนำมาเก็บไว้ที่โถงล่างของหน่วยนิติพยาธิ ภาควิชานิติเวชศาสตร์และมีพิธีสงฆ์ก่อนเคลื่อนร่างออกจากตู้กระจกที่เก็บร่างไว้ในพิพิธภัณฑ์มาอย่างยาวนาน 60 ปี ย้ายมาบรรจุโลงและนำขึ้นของมูลนิธิร่วมกตัญญู ไปยังวัดบางแพรกใต้ จังหวัดนนทบุรี โดยระหว่างการทำพิธี มีสักขีพยานในการเคลื่อนร่าง ทั้งตัวแทนจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน กรมราชทัณฑ์ สื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาล รพ.ศิริราช


ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่าการนำร่างนายซีอุย ออจากพิพิธภัณฑ์เพื่อฌาปนกิจครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากการท้วงติงจากประชาชนและนักสิทธิมนุษยชนว่าการจัดแสดงร่างของนายซีอุย ภายในพิพิธภัณฑ์กระทบสิทธิ์ของผู้เสียชีวิต จนศิริราชได้ปลดป้ายคำว่ามนุษย์กินคนออก และมีการประกาศหาญาติซีอุย 1 เดือน ในปี 2562 ทั้งการหาญาติที่ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ หรือการติดต่อประกาศหาญาติผ่านสถานฑูตจีน แต่ก็ไม่ปรากฎญาติ จึงได้มีการพิจารณาถึงข้อกฎหมาย ซึ่งในอดีต นักโทษประหาร หากไม่มีญาติมารับทางกรมราชทัณฑ์จะให้มีการฝัง จากนั้นนำกระะดูกมาเก็บไว้ จนกว่าญาติจะมาติดต่อจึงจะนำกระดูกไปบำเพ็ญกุศลแต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายในปี 2542 กระทรวงยุติธรรมได้ประกาศให้สามารถทำการฝัง หรือฌาปนกิจนักโทษประหารชีวิตก็ได้ วันนี้จึงส่งร่างให้กรมราชทัณฑ์นำไปดำเนินการ


ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับร่างของนายซีอุย อยู่กับพิพิธภัณฑ์ศิริราช มาตั้งแต่ปี 2502 โดยนายแพทย์สงกรานต์ นิยมเสน หัวหน้าภาควิชานิติเวช ในอดีตได้ทำเรื่องของร่างนายซีอุย มาเพื่อศึกษา หลังจากถูกตัดสินประหารชีวิต เพราะในอดีตการศึกษา ซึ่งในทางนิติเวช การศึกษาในอดีตต้องอาศัยทั้งพยานบุคคล พยานวัตถุ และพยานแวดล้อม ซึ่งในอดีตการเสียชีวิตจากระสุนปืนอาจต้องทำร่างมาศึกษา ดูวิถีกระสุน หรืออะไรต่างๆ แต่ปัจจุบันมีความทันสมัย สามารถใช้ระบบเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาประกอบ ไม่จำเป็นต้องใช้ร่างมนุษย์อีกต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้กำกับโจ้เสียชีวิต

ราชทัณฑ์ แจงชัดเหตุ “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำ

ราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงกรณี “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำกลางคลองเปรม ด้าน จนท.พิสูจน์หลักฐาน เตรียมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ธ.ก.ส. ออก “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” หนุนคนใกล้เกษียณทำเกษตร

กรุงเทพฯ 6 มี.ค.- ธ.ก.ส. เปิดตัว “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินทำการเกษตรคู่ขนาน รองรับการเข้าสู่ Aging Society สูงสุด 8 ล้านบาท ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ ส่งเสริมการดึงคนกลับเข้าสู่ภาคการเกษตร กรอบวงเงินรวม 3.75 หมื่นล้านบาท สานฝันบุคลากรภาครัฐและเอกชนที่มีรายได้ประจำอายุ 50 – 59 ปี สร้างรายได้คู่ขนานจากการทำการเกษตร และกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาสินค้าเกษตรไปสู่เกษตร มูลค่าสูง วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 8 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก MRR – 2 และปีที่ 6 เป็นต้นไป เท่ากับ MRR แจ้งความประสงค์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้มีรายได้ประจำเป็นรายเดือน สามารถวางแผนการสร้างรายได้คู่ขนานจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม หรืออาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรในวัยก่อนและหลังเกษียณ รองรับการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) เพิ่มการเกษตรที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม […]

ข่าวแนะนำ

ผู้กำกับโจ้

ทนายโต้ราชทัณฑ์ อดีต “ผกก.โจ้” ไม่สมัครใจขอขังเดี่ยว

ทนายโต้ราชทัณฑ์ ยืนยัน อดีต “ผกก.โจ้” ไม่สมัครใจขอขังเดี่ยว-ไม่ป่วยจิตเวช อ้างถูกบีบให้ยอมเรื่องการสอบวินัย

พบสารเสพติดจากนมแม่

เร่งช่วยทารก 3 เดือน พบสารเสพติดจากการกินนมแม่

เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน เร่งช่วยเหลือทารกวัย 3 เดือน ถูกตรวจพบสารเสพติดในร่างกายจากกินนมแม่ ล่าสุดสั่งให้หยุดกินนมแม่ จนกว่าจะบำบัดการติดยาเสพติดให้หาย ส่วนพ่อถูกส่งไปบำบัดและเตรียมหาอาชีพให้มีรายได้เลี้ยงภรรยาและลูก

ผู้กำกับโจ้เสียชีวิต

ราชทัณฑ์ แจงชัดเหตุ “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำ

ราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงกรณี “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำกลางคลองเปรม ด้าน จนท.พิสูจน์หลักฐาน เตรียมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

วันสตรีสากล

นายกฯ กล่าวคำปราศรัยเนื่องใน “วันสตรีสากล” ปี 2568

นายกรัฐมนตรี ยกย่องเชิดชูเกียรติสตรีในบทบาทต่างๆ นำไปสู่ความเสมอภาคระหว่างเพศ เพิ่มบทบาทของสตรีและเด็กหญิงทุกคน ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในทุกมิติ