วธ.เปิดตัวบุคคลในภาพ 9 ภาพ แห่งความจงรักภักดี

พระนคร 29 พ.ย.-บุคคลในภาพ 9 ภาพ แห่งความจงรักภักดี ร่วมถ่ายทอดความรู้สึก บันทึกในจดหมายเหตุหลักฐานประวัติศาสตร์ชาติไทย ด้าน วธ.เปิดรับอาสาสมัครทั่วประเทศ ร่วมจดบันทึกเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น ในงานพระราชพิธีพระบรมศพ


กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดตัวบุคคลในภาพแห่งความจงรักภักดี  ทั้ง 9 ภาพ จำนวน 11 คน พร้อมตัวแทนช่างภาพมาถ่ายทอดความรู้สึกและบอกเล่าเหตุการณ์ในภาพ ที่ประชาชน ช่างภาพอาชีพ ช่างภาพอาสาจากทั่วประเทศ ส่งภาพบันทึกเหตุการณ์เกี่ยวกับพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.เป็นต้นมา ให้ วธ.คัดเลือก นำมาจัดแสดงในนิทรรศการ “ทรงสถิตในดวงใจไทยนิรันดร์ ” ณ ลานสังคีต ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และเก็บบันทึกไว้เป็นจดหมายเหตุต่อไป  โดยมีนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม เป็นประธาน

29-11-2559 21-54-55 29-11-2559 21-55-03


นายวีระ กล่าวว่า หลังจาก วธ.ประกาศให้ประชาชน ช่างภาพอาชีพ ช่างภาพอาสาส่งภาพบันทึกเหตุการณ์เกี่ยวกับพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่วันที่ 13-27 ต.ค. 2559 เป็นต้นมา มีประชาชนส่งภาพเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่า 50,000 ภาพ โดยได้คัดเลือกจำนวน 178 ภาพ มาจัดนิทรรศการ “ทรงสถิตในดวงใจไทยนิรันดร์ ” ณ ลานสังคีต  ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จากนั้นจึงคัดเลือก 9 ภาพ โดยเป็นภาพที่ประชาชนร่วมกันคัดเลือกผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ https://goo.gl/forms/TLER11EKDcALb0c52  โดยภาพทั้ง 9 ภาพ ในจำนวน 11 บุคคลนั้น ถือเป็นตัวแทนคนไทยที่ถูกบันทึกข้อมูลไว้เป็นส่วนหนึ่งของจดหมายเหตุ หลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ชาติไทย

29-11-2559 21-54-34 29-11-2559 21-54-17

นอกจากทั้ง11 คนในวันนี้ยังจะเชิญบุคคลที่ปรากฏในภาพมาบันทึกข้อมูลอย่างต่อเนื่องทุกๆ เดือน ให้ได้อีก 890 คนเป็นอย่างน้อย และกระทรวงยังเตรียมเปิดรับอาสาสมัครประชาชนทั่วไปเพื่อมาร่วมจดบันทึกข้อมูล บันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จนเสร็จสิ้นงานพระราชพิธีเพื่อเก็บบันทึกไว้ในหอจดหมายเหตุ โดยจะเปิดรับสมัครในช่วงเดือน ธ.ค.ที่บริเวณเต็นท์จัดนิทรรศการภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร


น.ส.จันทร์ฉาย บุษบก  ภาพที่ 3 หญิงกำลังพนมมือไหว้และร้องไห้อย่างสุดอาลัย ณ โรงพยาบาลศิริราช  กล่าวว่า ภาพในวันนั้น คือวันที่ 13 ต.ค.ช่วงเวลาที่รับทราบการสวรรคต หัวใจแทบสลายน้ำตาไหลไม่หยุด บรรยากาศจากสวดมนต์กลายเป็นเสียงสะอื้นไห้ของบุคคลทั่วสารทิศที่เดินทางมาสวดมนต์ขอให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้น วันนี้ภาพตัวเองได้ถูกบันทึกไว้ในจดหมายเหตุ ก็รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนของประชาชนชาวไทยแสดงออกถึงความอาลัยต่อพระมหากษัตริย์ที่เป็นที่รักของปวงชนและอยู่ในหัวใจพสกนิกรตลอดไป

29-11-2559 21-53-57 29-11-2559 21-48-31

ด.ช.ภูมิทรัพย์ เนรกัณฐีสกุล น้องหมีพู  อายุ 3 ขวบ ภาพที่ 4 ภาพวันนั้น คือวันที่ 14 ต.ค.ไปรับเสด็จขบวนพระบรมศพ บริเวณแยกอรุณอัมรินทร์เพื่อร่วมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย และนายสุริยา เนรกัณฐีสกุล อายุ68 ปี ปู่น้องหมีพู กล่าวว่า พอทราบข่าวการเสด็จสวรรคตก็รีบมานั่งรอส่งเสด็จเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ มากับหลานชาย ‘น้องหมีพู’ ซึ่งภาพที่เกิดขึ้นที่น้องหมีพูยกมือไหว้ ไม่ได้บอกให้น้องทำ แต่แสดงออกมาจากหัวใจของเด็กชายตัวน้อย  ซึ่งที่บ้านปลูกฝังให้ลูกหลานรู้คุณแผ่นดินเกิดและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้าแผ่นดินทุกพระองค์

 สำหรับรายชื่อบุคคลในภาพทั้ง 11 คน มีดังนี้

1.ภาพผู้หญิงร่ำไห้ถือพระบรมฉายาลักษณ์และน้ำตาไหลอาบแก้ม คือ นางจินตนา มากดวงเพียร อายุ 55 ปี เป็นอาสาสมัครกรมคุมประพฤติ  กรุงเทพมหานคร 2.ภาพหญิงกำลังพนมมือไหว้และร้องไห้อย่างสุดอาลัย ณ โรงพยาบาลศิริราช คือ น.ส.จันทร์ฉาย มาลีสุทธิกุล อายุ 40 ปี อาชีพนักธุรกิจ ชาวจังหวัดนนทบุรี 3.ภาพเด็กชายกำลังพนมมือไหว้และนั่งอยู่ในอ้อมแขนชายสูงอายุ  คือ ด.ช.ภูมิทรัพย์ เนรกัณฐีสกุล อายุ 3 ขวบ คุณปู่นายสุรียา เนรกัณฐีสกุล อายุ 68 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ชาวจังหวัดตาก

28-11-2559 19-25-44 28-11-2559 19-26-13

28-11-2559 19-29-25 28-11-2559 19-26-19

4.ภาพผู้ชายยกภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ใบหน้าโศกเศร้า คือ นายศักดิ์ดา สัจจะมิตร อายุ 67 ปี อาชีพค้าขาย กรุงเทพฯ 5.ภาพผู้หญิงก้มหน้าร้องไห้ด้วยอาลัยน้ำตาหยดบนภาพพระบรมฉายาลักษณ์ คือ น.ส.มาลิน โกศัยกานนท์ อายุ 41 ปี อาชีพผู้จัดการโรงแรม อ.เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี 6.ภาพผู้หญิงกำลังนั่งพนมมือไหว้ในมือถือพระบรมฉายาลักษณ์ คือ นางปราณี เลาหวิวัฒน์  อายุ 53 ปี อาชีพแม่ค้า ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช

28-11-2559 19-29-40 28-11-2559 19-29-10 28-11-2559 19-29-01 28-11-2559 19-29-17 

7.ภาพหญิงสาวก้มหน้าร้องไห้ด้วยความอาลัย มือถือภาพพระบรมฉายาลักษณ์ คือ นางดลนภา กลัดบุบผา อายุ 40 ปี อาชีพติวเตอร์ กรุงเทพฯ 8.ภาพผู้หญิง 2 คน กำลังนั่งร้องไห้อย่างสุดอาลัย น้ำตานองหน้า คือ น.ส.นิธิวีร์ ว่องแพร่วิชย์ อายุ 40 ปี อาชีพช่างภาพอิสระ กรุงเทพฯ (มือปิดใบหน้า) และ น.ส.ปริมประภัสร์ โล่ประธาน อายุ 45 ปีอาชีพ ธุรกิจส่วนตัว จังหวัดกรุงเทพฯ 9.ภาพหญิงสาวกำลังเก็บขยะ คือ น.ส.ทรรศมน อิ่มรัมย์ อายุ 33 ปี กรุงเทพฯ อาชีพพนักงานบริษัทสหพัฒน์.-สำนักข่าวไทย

28-11-2559 19-29-32

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพอิสราเอลพบร่างตัวประกันชาวไทยในฉนวนกาซา

เยรูซาเล็ม 7 มิ.ย. – นายอิสราเอล คัตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล กล่าววันเสาร์ว่า กองทัพอิสราเอลได้พบร่างของตัวประกันชาวไทยชื่อ นายณัฐพงษ์ ปินตา ที่ถูกควบคุมตัวในฉนวนกาซาตั้งแต่การโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 นายคัตซ์กล่าวว่า ร่างของณัฐพงษ์ อยู่กับกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ที่ชื่อว่า กองพลน้อยมูจาฮีดีน และถูกนำกลับมาจากพื้นที่ราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ในขณะที่ครอบครัวของเขาในประเทศไทยได้รับแจ้งแล้ว นายณัฐพงษ์ ซึ่งเป็นคนงานภาคเกษตรกรรม ถูกลักพาตัวไปจาก คิบบุตซ์ นีร์ ออซ ซึ่งเป็นชุมชนเล็กๆ ใกล้ชายแดน ซึ่งเป็นจุดดที่หนึ่งในสี่ของประชากรถูกสังหารหรือถูกจับเป็นตัวประกันระหว่างการโจมตีที่นำโดยกลุ่มฮามาสในปี 2023 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามในฉนวนกาซา กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า นายณัฐพงษ์ ถูกลักพาตัวไปในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ และถูกสังหารโดยผู้ที่จับตัวเขาไป ซึ่งได้ลงมือสังหารและนำร่างของตัวประกันชาวอิสราเอล-อเมริกันอีกสองคนกลับไปยังฉนวนกาซาด้วย โดยร่างของทั้งสองคนนั้นก็เพิ่งได้กลับคืนมาได้ในสัปดาห์นี้.-813.-สำนักข่าวไทย

ระงับเดินทางเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม-บ้านผักกาด ชั่วคราว

จันทบุรี 7 มิ.ย. – หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ออกหนังสือราชการ ระงับนักท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา เดินทางผ่านเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม – บ้านผักกาด ชั่วคราว ยกเว้นแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทย ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ลงนามในหนังสือราชการด่วนที่สุด แจ้งไปยังผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เรื่อง ขอระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางผ่านเข้า – ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรฯ โดยอ้างอิงตามประกาศให้ใช้กฎอัยการศึก ในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว และตามมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจ เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามจากประเทศกัมพูชา และอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวกัมพูชา อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง […]

มอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา – สุรนารี คุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย. – ทบ.ออกคำสั่งมอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา และ ผบ.กองกำลังสุรนารี ควบคุมจุดผ่านแดนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามมติ สมช. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งมอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมการเปิด–ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด การออกมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้ง พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน แสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน สำหรับรายละเอียดทั้งหมดในคำสั่งดังกล่าวสามารถติดตามได้ผ่านช่องทางการสื่อสารทางการของกองทัพบกที่เว็บไซต์ www.rta.mi.th เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ -313-สำนักข่าวไทย

ปปง. ร่วมสอบกรณีพบเงินต้องสงสัยถูกทิ้ง 12 ล้าน

7 มิ.ย.- ปปง. ร่วมตรวจสอบกรณีพบเงินสด 12 ล้าน วางทิ้งในกล่องข้างถังขยะคอนโดเมืองทองฯ ชี้ผู้อ้างเป็นเจ้าของเงินต้องชี้แจงรายละเอียดที่มาให้ได้ จากกรณีที่พลเมืองดี พบธนบัตรเงินสด 12 ล้านบาท ในกล่องพลาสติกสีเทา บริเวณคอนโดเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายเกี่ยวกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งปรากฏชื่อในเอกสารดังกล่าว คือ นายทวีวัฒน์ และนายทวีวัฒน์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วระบุเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านดังกล่าว นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ในฐานะโฆษก ปปง. กล่าวถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า ขั้นตอนตามปกติหากพบเหตุสงสัย พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดย ปปง. ได้ประสานการทำงานร่วมกับตำรวจอยู่แล้ว ซึ่งต้องสอบสวนคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเงิน กับผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน ทั้งธนาคาร และส่วนงานที่ผู้ที่อ้างเป็นเจ้าของเงินระบุถึง สุดท้ายเจ้าของต้องชี้แจงในรายละเอียดว่าเงินดังกล่าวได้มาอย่างไร ถ้าพนักงานสอบสวนรวบรวมว่า เกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในข้อใด หรือทรัพย์ดังกล่าวอาจเกี่ยวกับการกระทำผิดตามกฎหมายฟอกเงินที่ปัจจุบันมี 28 มูลฐานความผิด การจะมีการประสานส่งเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ ปปง. […]