ธนาคารโลก หั่นจีดีพีไทยปีนี้ติดลบ 5% ห่วงคนตกงานพุ่ง 8.3 ล้านคน

กรุงเทพฯ 30 มิ.ย.-ธนาคารโลกหั่นจีดีพีไทยปี 63 ติดลบ 5% ก่อนจะกลับมาขยายตัวได้ 4.1% ในปี 2564 ห่วงภาคครัวเรือนรายได้ลดและคนตกงาน 8.3 ล้านคน


นางเบอร์กิท ฮานสล์ ผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศไทย เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ว่า ธนาคารโลก ได้ปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ลง โดยคาดว่าจะติดลบ 5% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ปลายปีที่แล้วว่าจะขยายตัวได้ 2.9% ก่อนจะกลับมาขยายตัวได้ 4.1% ในปี 2564 และ 3.6% ในปี 2565 เนื่องจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้มีการล็อกดาวน์กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้มีผู้ตกงานจำนวนมาก แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการช่วยเหลือด้วยการให้เงิน 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งมีมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ยืดเวลาการชำระหนี้ และลดภาษีให้กับธุรกิจเอสเอ็มอี เพื่อเสริมสภาพคล่องในภาวะวิกฤตโควิด-19 ก็ตาม 

นอกจากนี้เศรษฐกิจไทยยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยซึ่งทำให้การค้าโลกหดตัวตาม ซึ่งกระทบต่อการส่งออกของไทยและกระทบต่อภาคการผลิต โดยเฉพาะกลุ่มชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์และยานยนต์ ขณะที่การเดินทางเพื่อควบคุมการระบาดของโรค ส่งผลกระทบต่อภาคบริการ ภาคค้าปลีก สะท้อนจากยอดขายสินค้าคงทนที่ลดดิ่งลงเกือบ 12% ในช่วงไตรมาสแรกของปี รวมทั้งกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว พร้อมแสดงความเป็นห่วงสวัสดิการของครัวเรือนได้รับผลกระทบรุนแรง โดยเฉพาะรายได้ลดลง รวมทั้งคนตกงานเพิ่มขึ้นเป็น 8.3 ล้านคน


ด้านนายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่ามาตรการเยียวยาภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจของไทยจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า ถือเป็นมาตรการที่มีขนาดใหญ่กว่าประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีขนาดถึง 13% ของจีดีพี พร้อมแนะรัฐบาลควรเพิ่มฐานข้อมูลประชากร เพื่อให้สามารถช่วยเหลือได้ตรงจุดและตรงกลุ่มเมื่อเกิดปัญหา โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มแรงงานนอกระบบ และกลุ่มผู้ที่มีอายุน้อย ขณะที่มาตรการภาคการเงิน มองว่าจะต้องเข้าไปช่วยเหลือเรื่องสภาพคล่องของครัวเรือน และภาคธุรกิจเพื่อไม่ให้เข้าสู่ภาวะหนี้เสียเพิ่มขึ้น 


อย่างไรก็ตามธนาคารโลกมองว่ารัฐบาลยังมีพื้นที่ทางการคลังที่จะรับมือผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในระยะถัดไปได้ รวมทั้งยังสามารถขยายระยะเวลาในการเยียวยา 5,000 บาทให้กับผู้ได้รับผลกระทบได้อีก  พร้อมแนะรัฐบาลจำเป็นต้องย้อนกลับมาดูสถานะการคลังให้มีความยืดหยุ่นในการดำเนินนโยบายมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากรายรับของภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพ  รวมทั้งการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของรัฐจะทำให้มีการจ้างงานเกิดขึ้นได้ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทักษิณเหยียดผิว

“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติชาวแอฟริกัน

“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติชาวแอฟริกัน ชี้เสี่ยงทำประเทศไทยถูกนานาชาติตั้งคำถาม ขัดหลักการสิทธิมนุษยชน

ข่าวแนะนำ

พระราชพิธีสมมงคล

นายกฯ เชิญชวนประชาชนร่วมงาน “พระราชพิธีสมมงคล” 14 ม.ค.นี้

นายกฯ เชิญชวนประชาชนร่วมงาน “พระราชพิธีสมมงคล” 14 ม.ค.นี้ ทั่วประเทศ พร้อมเลื่อนประชุม ครม. สัปดาห์หน้า เป็นวันจันทร์ที่ 13 ม.ค. แทน

ซิงซิงดาราจีน

นายกฯ เผยเจอ “ซิงซิง” แล้ว ตำรวจภูธร​ภาค 6 รอรับอยู่ที่แม่สอด

นายกฯ เผยเจอ “ซิงซิง” นักแสดงจีนแล้ว ตำรวจภูธร​ภาค 6 รอรับอยู่ที่แม่สอด สั่ง “ดีอี” ดูข่าวลือ ไม่ให้กระทบภาพลักษณ์ไทย หลังโซเชียล​โหมกระแสเมืองไทยน่ากลัว พร้อมประสานทูตจีนเข้มข้น หลังคนจีนเข้ามาใช้พื้นที่ไทยก่อเหตุ รับฟังข้อเสนอฝ่ายค้านจัดโซนนิ่งฟรีวีซ่าจีน

Canada PM Trudeau

“ทรูโด” จะอยู่ในตำแหน่งจนกว่าแคนาดาจะได้ผู้นำใหม่

นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ประกาศจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรครัฐบาลและตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในอีกไม่กี่เดือน โดยจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีหัวหน้าพรรคคนใหม่