ทำเนียบฯ 26 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรีเผยไทยพร้อมสนับสนุนอาเซียน ส่งเสริมศักยภาพสตรี ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2563 ในหัวข้อพลังสตรีพลิกเศรษฐกิจ
เมื่อเวลา 14.30 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ร่วมการประชุมผู้นำอาเซียนสมัยพิเศษ เรื่อง การเสริมสร้างศักยภาพสตรีในยุคดิจิทัล ซึ่งเป็นหนึ่งในการประชุมนอกเหนือจากการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 36 ผ่านระบบประชุมทางไกล โดยเป็นการหารือร่วมกันเพื่อร่วมกันเสนอแนะแนวทางในการเสริมสร้างศักยภาพสตรี สนับสนุนบทบาทสตรีในการร่วมสร้างประชาคมอาเซียน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวถึงการเสริมสร้างศักยภาพสตรีในยุคดิจิทัล ว่า ไทยชื่นชมเวียดนามที่ตระหนักถึงความสำคัญของบทบาทสตรีและกำหนดให้ “การส่งเสริมศักยภาพสตรีในยุคดิจิทัล” เป็นส่วนหนึ่งของการประชุมผู้นำอาเซียน สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ.2030 (พ.ศ. 2573) ในเป้าหมายที่ 5 คือการส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ เสริมสร้างศักยภาพสตรีและเด็กหญิง เช่นเดียวกับนโยบายของไทยที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างศักยภาพสตรีเป็นส่วนสำคัญมาโดยตลอด ซึ่งรัฐบาลไทยได้จัดทำแผนการพัฒนาสตรีภายใต้การดำเนินการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาสตรี พ.ศ. 2560-2564
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้านเศรษฐกิจ ไทยส่งเสริมการเป็นผู้ประกอบการของสตรีผ่านการสนับสนุนการจัดตั้งเครือข่ายผู้ประกอบการสตรีอาเซียนสากล หรือ AWEN และไทยได้ดำรงตำแหน่งประธาน AWEN สากล ในวาระปี พ.ศ.2561-2563 รวมทั้งจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2563 ภายใต้หัวข้อ “พลังสตรีพลิกเศรษฐกิจ” นอกจากนี้ ไทยได้บังคับใช้พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติทางเพศทั้งทางตรงและทางอ้อม อีกทั้งในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังได้เตรียมมาตรการเยียวยาช่วยเหลือกลุ่มสตรีที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งไทยพร้อมสนับสนุนให้อาเซียนให้ความสำคัญกับประเด็นการส่งเสริมศักยภาพสตรีนี้ ทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมอย่างยั่งยืน
“รัฐบาลมีข้อเสนอแนะ 2 ประการ คือ1.ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อศักยภาพสตรีในการประกอบธุรกิจให้มีรายได้และพึ่งพาตนเองได้ และ2.ส่งเสริมให้สตรีมีบทบาทด้านการสาธารณสุข อาทิ ไทยได้ส่งเสริมบทบาทสตรีในการเป็นอาสาสมัครด้านสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญของระบบสาธารณสุขไทย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย