เร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน บจก.ชมพู (บ้วนหลี)

กรุงเทพฯ 20 มิ.ย.- ความคืบหน้าการการบุกทลายเครือข่ายร้านทองรับฟอกเงินให้ขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งรอง ผบ.ตร.ระบุว่า ยังมีร้านทองเชื่อมโยงเส้นทางการเงินแก๊งค้ายาในย่านเยาวราชอีก 3 แห่ง นอกนั้นกระจายอยู่ตามจังหวัดใหญ่ๆ ขณะที่ตำรวจกองปราบปรามเร่งประสานข้อมูล ปปง. วางแนวทางตรวจสอบเส้นทางการเงินของ บจก.ชมพู (บ้วนหลี)


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.6 กองบังคับการปราบปราม มีการเรียกเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการประชุมหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ ปปง. เพื่อวางแนวทางการขยายผลตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน เส้นทางการเงินต่างๆ ของบริษัท บจก.ชมพู (บ้วนหลี) เพื่อหาความเชื่อมโยงไปยังผู้ร่วมกระทำผิดรายอื่นๆ และตรวจสอบให้แน่ชัดว่า นอกเหนือจากเงินที่ได้รับจากขบวนการยาเสพติดมาฟอกเงินนั้น ยังมีเงินผิดกฎหมายจากธุรกิจสีเทาอย่างอื่นอีกด้วยหรือไม่


นอกจากนี้ ชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวยังได้เตรียมประสานขอความร่วมมือไปยังกรมสรรพากร เข้าตรวจสอบธุรกรรมการเงิน ผลประกอบการของบริษัทดังกล่าวย้อนหลังในช่วงหลายปี เพื่อดูว่าที่ผ่านมามีการหลบเลี่ยงชำระภาษีการประกอบกิจการร้านทองตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่


และมีรายงานข่าวแจ้งอีกว่า ตามหลักพฤติกรรมศาสตร์การฟอกเงินของขบวนการยาเสพติดประเทศเพื่อนบ้าน เดิมทีเมื่อได้เงินค่ายาเสพติดจากเอเย่นต์ยาเสพติดในประเทศไทยแล้ว กลุ่มผู้ค้ายาข้ามชาติจะใช้วิธีลำเลียงเงินสดกลับไปยังพื้นที่ของตนเองผ่านทางช่องทางธรรมชาติ แต่เนื่องจากวิธีการขนย้ายเงินจำนวนมากข้ามประเทศนั้นมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ก่อน จึงเริ่มหันมาใช้วิธีการฟอกเงิน แปรเปลี่ยนให้เป็นเงินถูกกฎหมาย ในลักษณะของการลงทุน 

โดยจากแนวทางสืบสวนพบว่า วิธีการฟอกเงินของขบวนการยาเสพติดในลักษณะการลงทุนนั้น จะมีด้วยกันประมาณ 4 ประเภท คือ ลงทุนทำธุรกิจซื้อขายทองคำกับร้านทอง การลงทุนซื้อขายน้ำมันข้ามประเทศ การลงทุนธุรกิจวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง และการลงทุนธุรกิจซื้อขายอุปกรณ์ทางการเกษตร

มีอีก 3 ร้านทองเยาวราช พัวพันการฟอกเงิน

ด้าน พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นการขยายผลถึงคดีเก่าในหลายพื้นที่จำนวน 4 เครือข่าย เนื่องจากขบวนการค้ายาเสพติดมักใช้วิธีฟอกเงินด้วยการนำเงินที่ได้โอนเข้าบัญชีร้านค้าทอง เพื่อซื้อทองคำแท่ง ซื้อขายน้ำมัน และธุรกิจส่งออกสินค้าหลากหลายประเภท เมื่อส่งออกไปแล้ว จะมีการส่งสินค้ากลับเข้ามาในรูปแบบสินค้าอื่นๆ พบมูลค่าการฟอกเงินของเครือข่ายค้ายาเสพติดที่พบทั้งหมดรวมแล้วมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท 

และจากการขยายผล พบมีร้านทองอีกหลายแห่งที่รับฟอกเงินจากเครือข่ายยาเสพติดต่างๆ อาทิ ในพื้นที่ย่านเยาวราช 3 แห่ง, จ.กาญจนบุรี, จ.นครปฐม, อ.แม่สอด จ.ตาก และหลายจังหวัดในภาคใต้ จากการสอบปากคำผู้ที่ถูกจับกุมมีทั้งรับสารภาพและให้การภาคเสธ ซึ่งการปราบปรามขบวนการดังกล่าวก็ยังต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายผล จับกุม และปราบปรามแก๊งค้ายาเสพติดในไทยต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

กทม.ทำบุญให้ผู้สูญหายที่เสียชีวิตจากตึก สตง. ถล่ม

กทม. 13 พ.ค.-พิธีตักบาตรพระสงฆ์และสวดพระพุทธมนต์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้สูญหายที่เสียชีวิตจากอาคาร สตง. ถล่ม พบมี ผู้ว่าฯ สตง.เข้าร่วมพิธี 13 พ.ค.68 ตั้งแต่ช่วงเช้าที่บริเวณชั้น 3 ภายในพื้นที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 109 รูป และพิธีสวดพระพุทธมนต์ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้สูญหายที่เสียชีวิต จากอาคาร สตง. ถล่ม โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เป็นประธาน พร้อมด้วย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม., นายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. รวมถึงอาสาหน่วยกู้ภัยและผู้ที่เข้ามาปฏิบัติงานช่วยเหลือตลอดทั้ง 45 วันของปฏิบัติการ โดยพบว่ามี นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เข้าร่วมพิธีด้วย จากนั้นทีมงานที่ปฏิบัติงานทั้งหมด ทั้งหน่วยกู้ภัย รวมถึงทีมจากศูนย์บัญชาการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ทีมสุนัขกู้ภัย […]

ลา “บิ๊กป้อม” อีก 2 “อุตตม-สนธิรัตน์”

กทม. 13 พ.ค.-ลา “บิ๊กป้อม” อีก 2 “อุตตม-สนธิรัตน์”​ ไขก๊อก สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวจากพรรคพลังประชารัฐ แจ้งว่า นายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรมว.พาณิชย์ และพลังงาน ได้ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรค พลังประชารัฐ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเหตุผลสำคัญคือสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน และความกังวลถึงแนวทางการทำงานของพรรคต่อจากนี้ โดยทั้งนายอุตตม และสนธิรัตน์ ได้เข้าไปลาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. แล้ว และพล.อ.ประวิตรได้อวยพรขอให้ทั้ง2คนโชคดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ ถือเป็นหัวหน้าและเลขาฯ พรรค พลังประชารัฐ คู่แรกในการนำพรรคลงเลือกตั้ง เมื่อปี2562 และได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงด้านเศรษฐกิจในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งนี้ ตำแหน่งสุดท้ายของนายอุตตม ใน พรรคพลังประชารัฐ คือรองหัวหน้าพรรค และประธานกรรมการนโยบาย ส่วนนายสนธิรัตน์ เป็นรองหัวหน้าพรรค และหัวหน้าศูนย์นโยบายและวิชาการพรรค.-319.-สำนักข่าวไทย

นายกเบี้ยวแจงปม ชมคนธัญบุรีกินหญ้าหวาน

ปทุมธานี 13 พ.ค. – นายกเบี้ยวแจงปม ชมคนธัญบุรีกินหญ้าหวาน ทำชนะเลือกตั้ง ชี้หญ้าหวานมีประโยชน์ ให้ความหวานแทนน้ำตาล ไม่ได้หมายถึงหญ้าอีกแบบที่คนไปตีความกัน จากกรณีนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ “นายกเบี้ยว” อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ควงภรรยา และลูกพีช หรือ นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ลูกชาย นั่งแถลงข่าวประกาศชัยชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลธัญบุรี และนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี โดยขอบคุณพ่อแม่พี่น้องชาวตำบลธัญบุรี ในเขตเทศบาลตำบลธัญบุรี ที่ให้ความไว้วางใจตนและครอบครัว มาเป็นตัวแทนรับใช้พี่น้องชาวธัญบุรี พร้อมมีช่วงหนึ่งที่ระบุว่า ชาวธัญบุรีกินหญ้าหวาน ถ้ากินหญ้าขม ผมคงไม่ได้รับชัยชนะ พ่อแม่พี่น้องชาวธัญบุรีทานหญ้าหวาน และจะทานตลอดไป หลังจากที่นายกเบี้ยวพูดจบ ก็ได้รับเสียงเฮจากกองเชียร์ ที่แห่แหนไปให้กำลังใจอย่างล้นหลาม ขณะที่ชาวโซเชียลบางส่วนกลับเห็นต่างว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะตีความไปได้หลายความหมาย ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปหานายกเบี้ยวถึงเรื่องนี้ นายกเบี้ยวบอกเพียงสั้นๆ ว่า คนตีความกันไปใหญ่โต แต่เจตนาของตน คือ หญ้าหวานเป็นของมีประโยชน์ และคนธัญบุรี ก็ชอบกินของที่มีประโยชน์ ด้านกัน จอมพลัง คู่กรณีที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นมือที่ 3 เข้าแทรกเรื่องที่นายสมิทธิพัฒน์ จะเข้าไปเยียวยาลุงกับป้า ที่ถูกลูกพีชขับรถบีเอ็มป้ายแดงเบียด […]

ตร.ไม่ให้ประกัน “สจ.กอล์ฟ” กับพวก คอตกนอนคุก

สงขลา 12 พ.ค.- ตำรวจไม่ให้ประกัน “สจ.กอล์ฟ” กับพวก คอตกนอนคุก คดีทำร้ายร่างกาย “ด.ต.” คาหน่วยเลือกตั้ง พร้อมนำกำลังค้น 7 จุดหาหลักฐานเพิ่มเติม ความคืบหน้าเหตุการณ์นายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา ลูกชายนายสมยศ พลายด้วง สส.เขต 3 จ.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ หรือโกถึก ส่งลูกน้องไปรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา เพราะไม่พอใจที่ถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนนกับภรรยา ล่าสุดวันนี้ ศาลจังหวัดสงขลาได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุแล้วรวม 7 คน ประกอบด้วย 1. นายสิรดนัย หรือสจ.กอล์ฟ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่1 ในฐานะผู้ใช้จ้างวาน2. นายพงษ์เทพ หรือหนึ่งฟรีด้อม อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาที่ในฐานะรับคำสั่งจากนายสิรดนัย แล้วสั่งการให้ นายหนุ่มเสกกับพวกรวม […]