กรุงเทพฯ 20
มิ.ย.-จับตา!! ทุกระบบขนส่งคลายล็อกครั้งใหญ่ 1 ก.ค.นี้
สำหรับระบบคมนาคมที่ใช้ระยะเวลาเดินทางสั้นๆไม่เกิน 50 นาที ถึงไม่เกิน 1 ชั่วโมง
สามารถเพิ่มปริมาณผู้โดยสารบนตัวรถ
ภายหลังจากนายศักดิ์สยาม
ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ส่งสัญญาณชัดเจนถึงการคลายล็อก ครั้งสำคัญหลังจากที่ระบบขนส่งต่างๆได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
หลังจากที่ผ่านมาคุมเข้ม ทุกระบบต้องนำมาตรการรักษาระยะห่างหรือ Social Distancing มาใช้ ทำให้แต่ละระบบขนส่ง มีอัตราบรรทุกผู้โดยสารได้เหลือเพียงร้อยละ
30 เท่านั้น
ล่าสุดนายศักดิ์สยามได้ยืนยันถึงข้อมูลทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขที่ระบุชัดเจนว่าสำหรับการเดินทางที่ผู้โดยสารอยู่รวมกันไม่เกิน
50 นาที มีการใส่หน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา
อัตราการความเสี่ยงในการติดเชื้อแทบเป็นศูนย์ ดังนั้นจึงขอให้ทุกระบบขนส่งเริ่มคลายล็อกเพิ่มเติม
โดยให้ทุกโหมดการเดินทางที่ให้บริการ ผ่อนคลายให้ผู้โดยสารที่เดินทางมาด้วยกัน, เดินทางมาเป็นครอบครัว สามารถนั่งชิดติดกันได้
นายจุฬา
สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. ได้ร่วมหารือกับผู้บริการสายการบินไป
ต่างไป โดยสายการบินในประเทศ
ได้เริ่มขายตั๋วให้ผู้โดยสารบนเครื่องได้ทุกที่นั่งตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน แต่ยังคงมาตรการให้ผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัย
ส่วนการจำหน่ายอาหารอาหารบนเครื่องนั้น จะทำได้เฉพาะเที่ยวบินที่มีระยะทางบินเป็นเวลาเกินกว่า
2 ชั่วโมงเท่านั้น
ขณะที่ระบบขนส่งรถไฟฟ้า
ทั้ง 3 ระบบคือรถไฟฟ้า BTS
รถไฟฟ้า MRT และรถไฟฟ้า
Airport Rail Link กรมการขนส่งทางรางยืนยันว่า ตั้งแต่วันที่ 1
กรกฎาคม 63 ผู้โดยสารที่เดินทางมาด้วยกันจะสามารถนั่งชิดติดกันได้ บนรถไฟฟ้า
โดยจะมีการทำสัญลักษณ์สติ๊กเกอร์เพื่อให้ผู้โดยสาร
ใช้ติดตัวเป็นการแสดงสัญลักษณ์จำนวนผู้เดินทางที่มาด้วยกัน โดยแนวทางดังกล่าวจะครอบคลุมถึงการให้บริการของการรถไฟแห่งประเทศไทย
หรือ รฟท.ในขบวนรถสายสั้น รถไฟชานเมืองต่างๆ
นายจิรุตม์
วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่กระทรวงคมนาคมมีนโยบายในการผ่อนคลายมาตรการของระบบขนส่ง
เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังสถานการณ์ ปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ไม่มีการติดเชื้อที่เกิดขึ้นภายในประเทศ กว่า 20 วันแล้ว
ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และได้เข้าสู่มาตรการกักตัวของรัฐหรือ
State Quarantine ในส่วนของกรมฯ ไม่จำเป็นต้องมีการออกประกาศ
ผ่อนคลายเพิ่มเติม แต่จะมีการเรียกผู้ประกอบการภาคขนส่งมาหารือถึงมาตรการผ่อนคลาย
สำหรับรถโดยสารที่เดินทางในระยะสั้น ผู้ประกอบการสามารถเพิ่มปริมาณความหนาแน่น
ของผู้โดยสารที่ประมาณร้อยละ 70
โดยใช้แนวทางเดียวกันคือผู้โดยสารที่เดินทางมาด้วยกันสามารถนั่งติดกันได้
มาตรการดังกล่าวถือว่า
เป็นการผ่อนคลายขึ้นมาระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามมาตรการอื่นๆเช่น
การคัดกรองอุณหภูมิร่างกาย 37.5 องศา ,การใส่หน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง
, การเว้นระยะห่าง ของผู้ที่ไม่ได้เดินทางมาด้วย ,การงดเว้นไม่ทานอาหารระหว่างโดยสาร , การลงทะเบียนเมื่อขึ้นรถโดยสารด้วยแอพฯ
“ไทยชนะ” หรือ ลงชื่อกรณีไม่ได้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่
การมีเจลล้างมือบริการบนรถ และการทำความสะอาดพื้นที่บนรถ
ตามมาตรฐานรอบเวลาที่กำหนด ซึ่งทุกมาตรการเหล่านี้จะยังมีความจำเป็นและนำมาใช้อย่างเข้มงวด
ส่วนการเดินรถให้บริการรถเมล์
นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ
( ขสมก.)ระบุว่า ขสมก.จะติดตามผลปฏิบัติการผ่อนคลายการเว้นระยะห่างสำหรับประชาชนที่เดินทางมาด้วยกัน
ให้สามารถนั่งติดกันได้
ของระบบขนส่งอื่นหากมีประสิทธิภาพ ก็จะเริ่มขยับคลายล็อกในลักษณะเดียวกันตามมา
และมีการนำสติ๊กเกอร์หรือเชือกกั้นที่นั่งบนรถโดยสารออก
ส่วนระบบเรือโดยสารนั้น
ทั้งในส่วนของเรือคลองแสนแสบ และเรือด่วนเจ้าพระยา
ด้วยลักษณะทางกายภาพที่มีความคับแคบของตัวเรือ
และการจำกัดที่นั่งในแต่ละแถวอยู่แล้วระบบขนส่งประเภทนี้จะต้องติดตามแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนของกระทรวงคมนาคม
และศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 หรือ
ศบค.ต่อไปอีกระยะ.-สำนักข่าวไทย