กทม. 11 มิ.ย. – พรรคประชาธิปัตย์เป็นอีกพรรคที่มีคลื่นใต้น้ำและกระแสกดดันให้กรรมการบริหารพรรคลาออก เปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค ซึ่งมีทั้งกระแสเห็นด้วย และสนับสนุนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ให้ทำหน้าที่ต่อไป แต่ต้องปรับเปลี่ยน
เสียงจากนายสาทิตย์ น่าจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเริ่มมีความไม่ปกติในพรรคประชาธิปัตย์ และสะท้อนว่ากรรมการบริหารพรรคต้องปรับตัว ก่อนจะบานปลายเหมือนพรรคพลังประชารัฐ ที่สุดท้ายกรรมการบริหารยกทีมลาออก ส่งผลให้ต้องเลือกหัวหน้าพรรคใหม่ สิ่งที่เกิดไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่นอน
ความไม่พอใจของ ส.ส.และอดีต ส.ส.ในพรรรรคประชาธิปัตย์ เริ่มตั้งแต่ปัญหาการจัดสรรตำแหน่งในกรรมการบริหารพรรค ต่อด้วยเก้าอี้รัฐมนตรี เลขาฯ ที่ปรึกษา ที่ดูเหมือนไม่ลงตัว เกลี่ยได้ไม่ทั่วถึง จึงทำให้มีแรงกระเพื่อมหรือคลื่นใต้น้ำ คนที่รู้สึกว่าไม่ได้รับความสำคัญจึงทยอยลาออกไป เกิดภาวะเลือดไหลไม่หยุด จน ส.ส.ถึงขั้นทำหนังสือขอให้จัดประชุมใหญ่วิสามัญรับฟังปัญหาภายในพรรค แต่มีสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นระฆังช่วย ทำให้เรื่องเงียบไประยะหนึ่ง
เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย หลายคนออกอาการน้อยใจที่ “ฝนตกไม่ทั่วฟ้า” หัวหน้าลงพื้นที่ไม่ทั่วถึง คลื่นความไม่พอใจเกิดอีกระลอก ร้อนถึงรุ่นใหญ่ในพรรคที่ยังยืนสนับสนุนจุรินทร์เดินหน้าทำงาน และออกมาเตือนลูกพรรคประชาธิปัตย์ว่าทำอะไรให้นึกถึงอดีตที่เคยเกิดเหตุการณ์ 10 มกรา ที่ทำพรรคแตกมาแล้ว
ท่ามกลางกระแสที่เกิดขึ้น แต่หัวหน้าพรรคยังมั่นใจในการทำงานว่าได้ประสานกับ ส.ส. และอดีต ส.ส.ในพรรคอย่างเหนียวแน่น ไร้คลื่นใต้น้ำ
ต้องจับตาการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในวันอังคารหน้า ว่านายจุรินทร์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะประสานรอยร้าวอย่างไร หากจำเป็นต้องสลับสับเปลี่ยนคนรอบข้าง ตั้งแต่เก้าอี้ใหญ่ใน ครม.ไปจนถึงเก้าอี้เล็กตามกระทรวง เพื่อสงบศึกในพรรค. – สำนักข่าวไทย