โฆษก ทอ.แจงแม่พลทหารร้องศูนย์ดำรงธรรม

กรุงเทพฯ 10 มิ.ย.-โฆษกกองทัพอากาศ ชี้แจงกรณีมารดาพลทหารร้องศูนย์ดำรงธรรม ขอปลดก่อนกำหนดเนื่องจากได้รับบาดเจ็บขณะประจำการ และมีอาการทางจิตเภท


พล.อ.ท.พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย รองเสนาธิการทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า กรณีมารดาของ พลทหารประจักษ์  แก้วคงธรรม สังกัดกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 56 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดตรัง ถามหาสาเหตุที่ทำให้ พลทหารประจักษ์ ได้รับบาดเจ็บขณะประจำการ พร้อมขอให้ปลดประจำการเนื่องจากเป็นผู้พิการและมีอาการทางจิตเภท นั้น

โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ตรวจสอบไปยังกองบิน 56 ซึ่งเป็นหน่วยต้นสังกัดแล้ว ข้อเท็จจริงคือ พลทหารประจักษ์ เป็นทหารกองประจำการรุ่นปี 2560 ผลัดที่ 2 บรรจุเข้าประจำการเมื่อวันที่ 1พฤศจิกายน 2560 จากนั้นได้ขาดราชการ ตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2561หน่วยต้นสังกัดพยายามติดตามตัว แต่ไม่มารายงานตัวตามกำหนด จึงจำหน่ายหนีราชการ ต่อมามารดาของพลทหารประจักษ์ ได้นำตัวกลับมาส่งต้นสังกัด เมื่อวันที่ 1พฤศจิกายน 2561 ทางกองพันฯ ได้ปฏิบัติตามระเบียบการรับตัวโดยส่งตัวไปให้แพทย์โรงพยาบาลกองบิน 56 ตรวจร่างกายและสารเสพติด พบว่า พลทหารประจักษ์  มีอาการผิดปกติในลักษณะอาละวาด โวยวาย และระแวงคิดว่าจะมีคนมาทำร้าย 


พล.อ.ท.พงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า จากความผิดฐานหนีราชการ ตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2561 ถึง 31ตุลาคม 2561 รวมหนีราชการ 288 วัน ต้นสังกัดจึงตั้งคณะกรรมการสอบสวน และนำเรียนผู้บังคับบัญชาขออนุมัติให้ลงทัณฑ์ พลทหารประจักษ์ ฯ โดยการจำขังตามระเบียบการลงทัณฑ์ของทางราชการ โดยระหว่างจำขังอยู่ที่เรือนจำ พลทหารประจักษ์  ยังคงมีอาการผิดปกติและมีแนวโน้มจะกำเริบรุนแรงขึ้น 

โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า นอกจากนั้นยังได้พยายามหนีออกจากเรือนจำ 2 ครั้ง ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการบาดเจ็บ โดยครั้งแรกได้ปีนรั้วเรือนจำแล้วเกี่ยวลวดหนามทำให้เกิดแผลที่ศีรษะและบริเวณร่างกาย ครั้งที่สองได้กระโดดออกจากหน้าต่างห้องน้ำ ทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ขาและมีแผลบริเวณก้น ซึ่งทางเรือนจำได้นำตัวไปรักษาและล้างแผลที่โรงพยาบาลกองบิน 56 อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน พลทหาร ประจักษ์  เริ่มมีอาการทางจิตเภทรุนแรงขึ้น เหม่อลอย ไม่ปฏิบัติภารกิจประจำวัน นอนนิ่งอยู่กับที่ อุจจาระปัสสาวะไม่รู้ตัว ทำให้แผลเกิดการติดเชื้อ ต้นสังกัดจึงได้ส่งไปทำการรักษาทางจิตเภทที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ตามสิทธิประกันสุขภาพบัตรทอง โดยมีบันทึกการรักษาและใบนัดจากแพทย์เป็นลายลักษณ์อักษร 

พล.อ.ท.พงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ต่อมาต้นสังกัดจึงติดต่อญาติเพื่อหารือถึงแนวทางการรักษาโรคทางจิตเภท ซึ่งญาติได้ขอรับตัวกลับไปทำการรักษาที่ภูมิลำเนาคือโรงพยาบาลตรัง ต้นสังกัดจึงได้จำหน่ายโทษเป็นป่วยนอก ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 20 ธันวาคม 61ถึง 18 มกราคม 62หลังจากนั้นได้จำหน่ายป่วยนอกและลากิจอีกหลายครั้งเพื่อทำการรักษาและให้ญาติได้ดูแลใกล้ชิด ซึ่งทราบว่าระหว่างนั้นทางญาติได้ให้ พลทหารประจักษ์ อุปสมบทอยู่ระยะเวลาหนึ่ง


“ขอยืนยันว่าอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับ พลทหารประจักษ์  เกิดจากการกระทำของตนเองเนื่องจากอาการทางจิตเภท ซึ่งสามารถยืนยันได้จากประวัติการรักษาและพยานบุคคลซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำ และผู้ถูกลงทัณฑ์ในห้วงเวลาเดียวกันนั้น อย่างไรก็ตาม กองทัพอากาศได้ดูแลช่วยเหลือและรักษาพยาบาล พลทหาร ประจักษ์ เป็นอย่างดี อีกทั้งยังได้พิจารณาอนุโลมกฎข้อบังคับต่าง ๆ เป็นกรณีพิเศษตามหลักมนุษยธรรม ซึ่งเชื่อว่ามารดารับทราบทุกอย่าง ส่วนข้อเรียกร้องให้นำปลดประจำการก่อนครบกำหนดเวลารับราชการซึ่งทางญาติอ้างเหตุผลว่าเป็นผู้พิการนั้น ขอให้นำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ มาติดต่อต้นสังกัดเพื่อพิจารณาดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบว่าด้วยการปฏิบัติเกี่ยวกับการปลดทหารกองประจำการต่อไป”พล.อ.ท.พงษ์ศักดิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

ครม.​อนุมัติหลักการ พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

นายกฯ​ เผย​ ครม.​อนุมัติหลักการ ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ กฤษฎีกายันไม่ขวาง​ ไม่ต้องยกร่างใหม่ แต่จะไปปรับคำให้คล้องกับที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ชี้เกิดเร็วดีเพื่อประโยชน์ประเทศ

ฝากขังจ่าเอ็ม

ฝากขัง “จ่าเอ็ม กองเรือ” พร้อมค้านประกันตัว

ฝากขัง “จ่าเอ็ม กองเรือ” สวมเกราะ หมวกกันกระสุน พร้อมอรินทราช 26 คอยดูแลเรื่องความปลอดภัยตลอดทาง เจ้าตัวสีหน้าเรียบเฉย

Satellite images show Palisades Fire

ไฟป่าแอลเอเหลือเผาไหม้รุนแรง 3 จุด

ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส หรือแอลเอเคาน์ตี้ ของสหรัฐ ยังเหลือลุกไหม้รุนแรงอยู่ 3 จุด ภัยคุกคามจากไฟป่ายังคงสูงจนถึงวันพุธ เนื่องจากกระแสลมพัดกระโชกแรง

ดอยอินทนนท์หนาวจัด

อากาศหนาวปกคลุมภาคเหนือ ยอดดอยอินทนนท์ อุณหภูมิเหลือ 1 องศาฯ

อากาศหนาวระลอกใหม่ปกคลุมภาคเหนือ ทำให้ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ อุณหภูมิลดลงเหลือแค่ 1 องศาฯ ส่วนจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน เช้าวันนี้ (13 ม.ค.) อุณหภูมิ 5 องศาฯ นักท่องเที่ยวรอชมแสงแรกจนเต็มพื้นที่