ฝ่ายค้านวอล์คเอาท์ ถกกมธ.โอนงบประมาณ

รัฐสภา 9 มิ.ย.- ฝ่ายค้านวอล์คเอาท์ ถก กมธ.โอนงบประมาณ แฉ ทหารเข้าแทรกแซงเรียกเก็บเอกสาร มุบมิบ ข้อมูลการโอนงบ 8 หมื่นล้าน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย จากส่วนราชการกลับเข้าสู่งบกลางเพื่อนำมาแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ในวันนี้ กรรมาธิการจากซีกพรรคฝ่ายค้านได้วอล์คเอาท์ออกจากที่ประชุม พร้อมแถลงเปิดเผยถึงปัญหาและอุปสรรคการทำงานของคณะกรรมาธิการ ที่ไม่สามารถพิจารณาปรับลดงบประมาณ ในวงเงิน  88,000 หมื่นล้านบาทได้

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ที่ปรึกษากรรมาธิการฯ ตั้งข้อสังเกต ว่า การพิจารณาปรับลดงบประมาณรายจ่าย จากหน่วยงานต่าง ๆ ครั้งนี้ มีการตัดงบหลายโครงการที่มีความจำเป็นมาไว้ที่งบกลาง ไม่สามารถนำงบประมาณจาก พ.ร.ก.กู้เงินมาทดแทนได้ ประกอบกับงบประมาณที่มีการโอนกลับมาให้รัฐบาล ส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้เกี่ยวกับการแก้ปัญหาภัยแล้ง ซึ่งเป็นผลกระโยชน์ของคนเพียงกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ทั้งที่ยังมีปัญหาสถานการณ์โควิด-19 และปัญหาทางด้านเศรษฐกิจที่จะต้องเร่งฟื้นฟู ประกอบกับในรายละเอียดงบประมาณก็ไม่ชัดเจน มีเพียงเอกสาร 2 แผ่น ที่มาชี้แจงต่อกรรมาธิการ จึงอยากให้รัฐบาลรับฟังความเห็นปรับโอนงบประมาณจากโครงการที่จำเป็น 


นายวรวัจน์ ยังกล่าวถึงปัญหาในการพิจารณางบประมาณที่มีการโอนกลับจากกระทรวงกลาโหม กว่า 17,000 หมื่นล้านบาทว่า ระหว่างการชี้แจงจากผู้แทนกระทรวงกลาโหม มีการแจกเอกสารที่ด้านบนของเอกสารระบุว่า เป็นเอกสารลับ  และระหว่างที่พิจารณาไม่นาน ก็มีนายทหารมาเดินเก็บเอกสารกลับคืนทั้งหมด จึงเป็นอุปสรรคต่อการทำหน้าที่ของคณะกรรมาธิการ เพราะ ข้อมูลเหล่านี้ มีความจำเป็นและไม่น่าจะอยู่ในชั้นความลับ เพราะเป็นงบประมาณที่ถูกปรับโอนไว้  ประกอบกับเป็นสิทธิของกรรมาธิการตามรัฐธรรมนูญ ที่สามารถเรียกข้อมูลดังกล่าวได้ แต่ประธานกรรมาธิการก็ไม่อนุญาตให้เรียกเอกสารจากกระทรวงกลาโหมอีก ถือเป็นการปิดกั้นการทำหน้าที่อย่างมาก

น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.พรรคก้าวไกล หนึ่งในกรรมาธิการ เปิดเผยว่า การพิจารณางบของกระทรวงกลาโหม ไม่มีรายละเอียดเปิดเผยที่ชัดเจน รู้สึกเป็นงบประมาณที่ไม่สามารถแตะต้องได้  มีการอ้างว่าเป็นชั้นความลับมาก ต้องเซ็นลายมือชื่อทุกครั้งที่รับ และเก็บเอกสารคืนในระยะเวลาที่รวดเร็ว ทำให้ไม่สามารถพิจารณาได้ครบถ้วน รวมถึงข้อมูลการโอนงบประมาณส่วนอื่น ๆ ก็ไม่มีการระบุรายละเอียดที่ชัดเจนเช่นกัน ทำให้ต้องมีหนังสือถึงประธานกรรมาธิการเพื่อขอเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้มาชี้แจงรายรายละเอียดด้วยตัวเองแทน แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือจากประธานกรรมาธิการ

ด้าน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย  กล่าวว่า การให้เจ้าหน้าที่ทหารชั้นผู้น้อยมาเรียกเก็บเอกสารกลางที่ประชุม เป็นเรื่องที่ไม่ชอบด้วยวิธีปฏิบัติ จึงฝากติงถึงผู้ใหญ่ในกระทรวงกลาโหมว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะการพิจารณากรรมาธิการจะต้องเขียนรายงานข้อสังเกตจำเป็นต้องมีเอกสารรายละเอียดมาประกอบการพิจารณา เพื่อดูว่า เหตุใดหน่วยรับงบประมาณยอมตัดงบประมาณคืนกลับมาที่งบกลาง  ทั้งที่งบประมาณบางส่วนก็มีความจำเป็น  โดยเฉพาะงบด้านบุคลากรทางการแพทย์ งบประมาณด้านสาธารณสุข จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีมาชี้แจงต่อกรรมาธิการ  ในฐานะผู้ที่จะนำงบประมาณส่วนนี้ไปใช้ แต่ในกรรมาธิการพยายามบ่ายเบี่ยง อ้างว่า การพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณปกติจะไม่มีการเชิญคณะรัฐมนตรีมาชี้แจง ทั้งที่กฎหมายฉบับนี้ ไม่ใช่กฎหมายปกติ และเพิ่งมีการตั้งคระกรรมาธิการเป็นฉบับแรก  เพราะ พ.ร.บ.โอนงบประมาณ 4 ฉบับที่ผ่านมา ผ่านการลงมติโดย สนช.ในยุคเผด็จการ จึงไม่มีการตั้งกรรมาธิการ


นายเรืองไกร กล่าวว่า จากปัญหาทั้งหมด จึงเป็นอุปสรรคที่ทำให้คณะกรรมาธิการไม่สามารถทำหน้าที่ได้ อย่างเต็มที่ ดังนั้นต้องรอว่า กระทรวงกลาโหมจะมีการส่งเอกสารมาให้กรรมาธิการอีกครั้งหรือไม่ หรือนายกรัฐมนตรี จะมาชี้แจงด้วยตัวเองได้หรือไม่ เบื้องต้นได้หารือกับ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ข้อสรุปว่ายังไม่มีการบรรจุเป็นวาระเพื่อพิจารณาลงมติในวาระ 2 และ 3 ในสัปดาห์นี้ได้ เนื่องจากระยะเวลากระชั้นชิดเกินไปและยังไม่มีความชัดเจนหลายเรื่อง แต่ก็ไม่อยากให้เกินสัปดาห์หน้าเพราะเป็นงบประมาณที่มีความจำเป็น

ส่วนปัญหาที่ไม่สามารถปรับลดประมาณ ในวงเงิน 8.8 หมื่นล้านบาทได้ เพราะอาจขัดต่อหลักการของกฎหมายนั้น นายเรืองไกรกล่าวว่า เมื่อมีการสงวนความเห็นการแปรญัตติแล้ว ก็จะไปอภิปรายความเห็นต่อในที่ประชุม สภาผู้แทนราษฎรต่อไป.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

“ยิ่งลักษณ์” โพสต์ตัดพ้อ ต้องชดใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ

กรุงเทพฯ 22 พ.ค.-“ยิ่งลักษณ์” โพสต์หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งชดใช้ 10,028 ล้านคดีจำนำข้าว ตัดพ้อ ต้องชดใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ รับภาระหนี้จากฝ่ายปฏิบัติ ลั่นหนี้หมื่นล้านชดใช้ทั้งชีวิตยังไงก็ไม่มีวันหมด ทำเพื่อชาวนากลับมีบทสรุปที่เจ็บปวด นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความภายหลัง ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตฐานะประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติต้องชดใช้ค่าเสียหายส่วนระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี 10,028 ล้านบาท ว่า “เรียน พี่น้องประชาชนที่เคารพ วันที่ 22 พฤษภาคมปีนี้ เป็นวันครบรอบ 11 ปี รัฐประหาร ซึ่งถือเป็นการยึดอำนาจอธิปไตยของประชาชนทั้งประเทศ และเป็นวันที่ศาลปกครองสูงสุด อ่านคำวินิจฉัยให้ดิฉันต้องชดใช้หนี้กว่า 10,000 ล้านบาท จากคดีระบายข้าว ทั้งที่ดิฉันไม่ได้เป็นจำเลยในคดีนี้ และศาลปกครองกลางได้เคยวินิจฉัยว่าดิฉันไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายในกรณีดังกล่าวมาแล้ว จากคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดในวันนี้ ทำให้ดิฉันต้องชดใช้หนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ความเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารที่ต้องมารับภาระหนี้ที่เกิดจากการระบายข้าวของฝ่ายปฏิบัติ โดยที่ตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการเหล่านั้นแต่อย่างใด และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็พิพากษาในคดีของดิฉันว่า ปล่อยปละละเลยในการบริหารโครงการรับจำนำข้าวเท่านั้น นโยบายรับจำนำข้าว เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย และเป็นนโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องปฏิบัติ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศจากฐานราก […]

ศาลปกครองสูงสุด สั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้หมื่นล้านบาท

22 พ.ค. – ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ความเสียหาย 10,028 ล้านบาท จากคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่ ก.คลัง ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ศาลปกครองสูงสุดนัดออกบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาคดีที่กระทรวงการคลัง ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1351 /2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717 ล้านบาท ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังเฉพาะส่วน ให้ชดใช้จำนวน 10,028 ล้านบาท และเพิกถอนคำสั่งยึดอาญัติทรัพย์สิน เพื่อขายทอดตลาด และคำสั่งอื่น โดยเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำอุทธรณ์ฟังขึ้นบางส่วน ศาลพิจารณาว่าไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในการจำนำข้าวเปลือกนาปี แต่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายการระบายข้าวโดยวิธีการขายแบบรัฐต่อรัฐหรือ จีทูจี จากความเสียหาย 20,057 ล้านบาท เพราะประมาทเลินเล่อ ก่อให้เกิดความเสียหาย และต้องกำหนดสัดส่วนรับผิด ร้อยละ 50 […]

ปรับแผนช่วยคนงานตกหลุมลึก 19 เมตร – 4 วันยังไม่ถึงครึ่งทาง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – เจ้าหน้าที่เตรียมปรับแผนการค้นหานำร่างคนงานขึ้นจากหลุมลึก 19 เมตร หลัง 4 วัน ยังขุดลงไปไม่ถึงครึ่งทาง ผ่านไปแล้ว 4 วัน สำหรับการค้นหานำร่างคนงานที่ตกลงไปในหลุมโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 8 ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครยังคงทำงานกันอย่างต่อเนื่องแบบ 24 ชั่วโมง มีรายงานว่า ขณะนี้ขุดลงไปได้ประมาณ 7 เมตร จากความลึกของหลุม 19 เมตร ยังไม่พบร่างของผู้สูญหายแต่อย่างใด อุปสรรคสำคัญคือเสาเข็มปูนขนาดใหญ่ที่ขวางอยู่ในหลุม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการประชุมหารือปรับแผนการช่วยเหลือกันอีกครั้ง หลังจากวางแผ่นชีสไพล์แล้ว แต่ยังไม่มั่นใจ 100% ว่าแผนนี้จะป้องกันไม่ให้ดินสไลด์ลงไปทับคนงานที่กำลังลงไปช่วยหรือไม่ โดยการทำงานจะเน้นความปลอดภัยของทุกคนเป็นหลัก ส่วนตัวเลขการขุดเจาะ เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.) ทางรองผู้ว่าฯ กทม. แจ้งว่าขุดลึกไปได้แล้ว 9 เมตรนั้น ทางหน้างานขอชี้แจงว่าให้ยึดตัวเลขล่าสุดเป็นหลัก เพราะวัดจากขอบถนนและพื้นด้านล่างไม่เสมอกัน บางชุดอาจขุดลงไปได้มากกว่า แต่เป็นจุดที่ลงไปไม่ได้ ยอมรับการปฏิบัติงานครั้งนี้ยากกว่าที่คิด แต่ไม่เกินขีดความสามารถอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำทีมแถลงคืบหน้าคดี “ทิดแย้ม” เปิดคลิปเสียงหลักฐานเด็ด

22 พ.ค. – “บิ๊กเต่า” นำแถลงความคืบหน้าคดี “ทิดแย้ม” ยักยอกเงินวัดไร่ขิง พร้อมเปิดคลิปเสียงหลักฐานเด็ด สนทนากับสีกาคนสนิท ส่วนเงินบัญชีวัดไร่ขิง และภายในมูลนิธิฯ พบว่ามีการทำธุรกรรมผิดปกติหลายรายการ และยังพบเงินกฐินถูกถอนออกไป ไม่มีการนำเข้าบัญชีวัด.-สำนักข่าวไทย