กทม.เตรียม 2 แนวทางจัดการเรียนการสอน 437 โรงเรียน

กทม.8 มิ.ย.-กทม.เตรียม 2 แนวทางจัดการเรียนการสอนโรงเรียนในสังกัด กทม.เปิดภาคเรียน 1 ก.ค.นี้ โรงเรียนขนาดเล็กนักเรียนไม่เกิน 400 คน จัด การเรียนการสอนปกติ นักเรียนมาทุกวัน 1 ห้องมี 20 คน ส่วนขนาดกลางและขนาดใหญ่ จัดการเรียนการสอนแบบผสมผสา


ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร (โฆษก กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ครั้งที่ 13/2563 ซึ่งมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.เป็นประธาน ว่า ในที่ประชุมวันนี้สำนักการ ศึกษาได้รายงานการเตรียมความพร้อมแนวทางการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนในสังกัด กทม.ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งจะเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 ก.ค.63  


โดยโรงเรียนในสังกัด กทม.แบ่งตามจำนวนนักเรียนได้ 3 ขนาด ได้แก่ 

1. โรงเรียนขนาดเล็ก มีนักเรียนไม่เกิน 400 คน 

2. โรงเรียนขนาดกลาง มีนักเรียน 401-800 คน


และ 3.โรงเรียนขนาดใหญ่ มีนักเรียน 801-1500 คน 

สำนักการศึกษา ได้จัดเตรียมแนวทางการจัดการเรียนการสอน 2 รูปแบบ ดังนี้ 

-โรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนไม่เกิน 400 คน มีทั้งหมด 204 โรงเรียน จะจัดให้มีการจัดการเรียนการสอนตามปกติ  โดยให้นักเรียนมาโรงเรียนทุกวัน และเรียนตามตารางเรียนในชั่วโมงหรือคาบเรียนปกติ ใน 1 ห้องเรียน มีจำนวนนักเรียน 20 คนโดยประมาณ และให้มีการรักษาระยะห่างทางสังคมทั้งเวลาเรียน ช่วงเวลาพัก และการรับประทานอาหาร 

สำหรับโรงเรียนขนาดกลางและขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 233 โรงเรียน จะจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน แบ่งเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้ 

รูปแบบที่ 1แบบสลับวันเรียนทั้งหมด ใช้กับโรงเรียนขนาดกลางที่มีนักเรียนตั้งแต่ 401-800 คน เช่น ระดับก่อนประถมศึกษา (อนุบาล) ระดับประถมศึกษาตอนต้น ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น มาเรียนวันอังคาร วันพฤหัส ส่วนระดับประถมศึกษาตอนปลาย และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มาเรียนวันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ โดยในช่วงที่นักเรียนไม่ได้มาเรียนในวันปกติจะใช้วิธีการเรียนรู้ทาง Online และ On Air เข้ามาทดแทนการเรียนในห้องเรียน โดยให้ครูเข้ามาควบคุมดูแลในการจัดการเรียนรู้ และมอบแบบฝึกหัด การบ้าน ใบงานหรือกิจกรรมให้ไปทำที่บ้าน และให้นับเวลาการเรียนช่องทางดังกล่าวชดเชยการเรียนในช่วงเวลาปกติได้ด้วย 

รูปแบบที่ 2 แบบมาเรียนปกติ ร่วมกับสลับวันเรียนทั้งหมด ใช้กับโรงเรียนขนาดใหญ่ นักเรียน 801-1,500 คน และโรงเรียนขนาดใหญ่มาก ที่มีนักเรียนมากกว่า 1,500 คน คือระดับอนุบาล และระดับประถมศึกษาตอนต้น ให้มีการจัดการเรียนการสอนตามปกติ สำหรับระดับประถมศึกษาตอนปลาย และระดับมัธยมศึกษาให้สลับวันมาเรียน ทั้งนี้ให้สถานศึกษาพิจารณาการจัดการเรียนการสอนตามความเหมาะสม โดยตั้งแต่วันที่ 1-20 มิ.ย. 63 สำนักการศึกษาจะได้ตรวจความพร้อมของโรงเรียนที่จะจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสานอีกครั้ง 

ส่วนการวัดและประเมินผลระดับปฐมวัยจะใช้วิธีการสังเกตพฤติกรรม การพูดคุย การซักถาม การตรวจสอบชิ้นงาน โดยครูประสานขอความร่วมมือผู้ปกครองในการร่วมประเมินพัฒนาการด้านต่างๆอย่างต่อเนื่อง ระดับประถมฯและมัธยมฯใช้การประเมินหลายรูปแบบร่วมกัน อาทิ การเข้าชั้นเรียน การสังเกตพฤติกรรม การประเมินผลงาน การสัมภาษณ์ พูดคุย ซักถาม การทำแบบทดสอบออนไลน์ การทดสอบด้วยข้อสอบแบบเขียนตอบหรือความเรียงแบบออนไลน์ เป็นต้น

นอกจากนี้ สำนักการศึกษาได้เตรียมความพร้อมและมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอื่นๆ ได้แก่ มาตรการดูแลระหว่างการเดินทางมาโรงเรียน กรณีเดินทางด้วยรถตู้โดยสาร ให้คนขับรถสวมใส่หน้ากากอนามัยและทำความสะอาดเบาะที่นั่งก่อนรับส่งนักเรียนทุกครั้ง หรือหากผู้ปกครองมาส่ง ต้องมีการจัดพื้นที่สำหรับผู้ปกครองบริเวณหน้าโรงเรียนและมีการคัดกรองอุณหภูมิทุกครั้ง มาตรการสำหรับกิจกรรมหน้าเสาธง กรณีโรงเรียนขนาดเล็กและมีพื้นที่ สามารถให้นักเรียนร่วมกิจกรรมได้ปกติภายใต้มาตรการเว้นระยะห่าง กรณีมีพื้นที่จำกัด ให้นักเรียนเข้าแถวที่โต๊ะในห้องเรียน   หรือเข้าแถวหน้าห้องเรียน 

มาตรการในห้องเรียน ให้มีการจัดโต๊ะเรียนจำนวนไม่เกิน 20 ตัว โดยแต่ละตัวเว้นระยะห่าง 1.5 เมตรให้ทำความสะอาดห้องเรียน โต๊ะ เก้าอี้ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ทั้งก่อนเรียน พักกลางวันและหลังเลิกเรียน สำหรับการนอนของนักเรียนปฐมวัย ให้งดการใช้เครื่องปรับอากาศ อาจใช้พัดลมแทน 

มาตรการสำหรับการรับประทานอาหาร ให้โรงเรียนพิจารณาจัดที่รับประทานอาหารทั้งในห้องเรียนและโรงอาหาร และเหลื่อมเวลาตามบริบทและความพร้อมของโรงเรียน โดยในโรงอาหารต้องมีฉากพลาสติกใสกั้น และเว้นระยะนักเรียน แม่ครัว พนักงาน ต้องใส่หน้ากากอนามัยและถุงมือ สำหรับการจัดการเรียนการสอนของเด็กพิเศษ(เรียนร่วม) ให้จัดการเรียนการสอนแบบปกติ นักเรียนสามารถมาเรียนได้ทุกวัน โดยมีการเว้นระยะห่าง และกำหนดสัดส่วนครู 1 คน ต่อนักเรียน 6 คน ต่อ 1 ห้องเรียน

โฆษก กทม.กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมมอบหมายให้สำนักการศึกษา ประสานโรงเรียนที่มีชื่อเสียง และมีมาตรฐานการจัดการเรียนการสอน ร่วมผลิตสื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ อาทิ โรงเรียนนานาชาติ และโรงเรียนรัฐอันดับต้นๆ ของประเทศเพื่อให้เด็กนักเรียนของ กทม.ได้เรียนออนไลน์ที่มีประสิทธิ ภาพ รวมทั้งให้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ครูและผู้ปกครองได้รับทราบและเข้าใจในแนวทางของกทม.ก่อนเปิดภาคเรียน .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

กู้ซากคานสะพานลอยคนข้ามพังถล่ม เปิดการจราจรแล้ว

23 ส.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุคานสะพานลอยคนข้ามขนาดใหญ่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท พังถล่มลงมากีดขวางถนน สาย 317 จันทบุรี–สระแก้ว ล่าสุดกู้ซากคานสะพานลอย ออกจากถนน และเปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว เหตุคานสะพานลอยถล่ม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา เหตุดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบ สภาพการจราจรติดขัด ตลอดช่วงสายและบ่าย เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ พยายามเร่งกู้ซากสะพานลอย ประสาน นำเครื่องจักรกลหนักทั้ง รถแบ็กโฮ 3 คัน รถแบ็กโฮหัวขุดเจาะ 2 คันและรถเครนใหญ่อีก 1 คัน ระดมลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยบริษัทผู้รับเหมา ต้องใช้รถหัวขุดเจาะ 2 คัน ทำการขุดเจาะกระแทกแผ่นคอนกรีตให้แตก จนเหลือแต่เส้นเหล็กจากนั้นได้ใช้ชุดเชื่อมทำการใช้ไฟแก๊สตัดเหล็ก แยกชิ้นส่วนของคานคอนกรีตออก […]

ตามล่านักโทษชายหลบหนีเรือนจำนนทบุรี

นนทบุรี 23 ส.ค. – นักโทษเรือนจำนนทบุรีหลบหนี ขณะออกมาทำงานนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่พบชุดนักโทษ ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม กล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ช่วงบ่ายวันนี้ หลังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับเเจ้งว่ามีนักโทษชายหลบหนีจากร้านหับเผย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อ นช.อนุชิต อายุ 29 ปี เป็นผู้ต้องขังกองนอกประจำร้านหับเผย ของเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ชุดที่หลบหนีสวมชุดสีส้มของเรือนจำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเรมเบสต้า สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร หลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบชุดที่นักโทษสวมใส่ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม สำหรับ นช.อนุชิต สุขสด ถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง จับกุมเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด หลังจับกุม สภ.บางบัวทอง นำตัวส่งเรือนจำกลางจังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ศาลตัดสินโทษจำคุก 1 ปี โดยจะพ้นโทษในวันที่ในวันที่ […]

ผบ.ทบ. ตรวจฐานภูมะเขือ ขอบคุณกำลังพลทุ่มเทปฏิบัติงาน

23 ส.ค.- ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ย้ำกำลังพลปฏิบัติงานเต็มความสามารถ ตั้งอยู่บนความปลอดภัย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) พร้อม พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของฐานการภูมะเขือ โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับหน่วย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติงาน ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ผู้บัญชาการทหารทัพบก กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้ปฏิบัติภารกิจอย่างปลอดภัย จากนั้นได้เดินดูบริเวณฐานธุรการและพื้นที่ต่างๆ บนภูมะเขือ -สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]