เงินเยียวยาถึงมือเกษตรกรแล้ว 4.2 ล้านราย

กรุงเทพฯ  25 พ.ค. -กระทรวงเกษตรฯ สรุปผลการจ่ายเงินเยียวยา 15-24 พ.ค. เข้าบัญชีเกษตรกรแล้วกว่า 4.2 ล้านราย พร้อมเร่งตรวจทานข้อมูลกับ ธ.ก.ส. ตามที่มีการระบุว่ารายชื่อเกษตรกรที่ส่งให้โอนเงินนั้นมีผู้เสียชีวิตถึง 109,000 คน  


นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการดำเนินงานโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรตั้งแต่วันที่ 15-24 พฤษภาคม จำนวน 4,222,359 ราย รวมเงิน 21,111.795 ล้านบาท เมื่อวานนี้ (24 พ.ค.) โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกร 499,755 ราย เป็นเงิน 2,498.775 ล้านบาท กระทรวงเกษตรฯ ส่งรายชื่อให้กระทรวงการคลังตรวจสอบความซ้ำซ้อนเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 700,000 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีกลุ่มข้าราชการที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นอาชีพเสริม แต่การพิจารณาว่าจะจ่ายเงินให้หรือไม่ เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ หากส่งรายชื่อกลับมากระทรวงเกษตรฯ จะส่งให้ ธ.ก.ส.จ่ายเงินเข้าบัญชีทันที

สำหรับการจ่ายเงินเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนภายใน 30 เมษายน ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ส่งรายชื่อชุดแรกให้ธ.ก.ส.เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ประมาณ 3.3 ล้านราย ทาง ธ.ก.ส.แจ้งว่าตรวจสอบข้อมูลกับฐานข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยอีกพบว่ามีผู้เสียชีวิต 527 คน ซึ่งในส่วนนี้จะต้องหารือคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ว่า จะมอบเงินให้แก่สมาชิกครัวเรือนหรือไม่ เพราะการขึ้นทะเบียนเกษตรกรของกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งเป็นเกษตรกรด้านพืชขึ้นทะเบียนเป็นครัวเรือน ผู้มีรายชื่อในทะเบียนเกษตรกร คือ หัวหน้าครัวเรือน ส่วนที่มีข่าวว่ารายชื่อชุดที่ 2 ส่งไป 3.4 ล้านราย ทาง ธ.ก.ส.ตรวจสอบแล้วมีผู้เสียชีวิตถึง 109,000 รายนั้น ยังไม่ได้รับรายงาน แต่จะเร่งประสานกับ ธ.ก.ส. เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ทะเบียนเกษตรกรที่ส่งไปนั้นเป็นทะเบียนปี 2562 และปรับปรุงปี 2563 ดังนั้น เพียงปีเดียวไม่น่าจะมีเกษตรกรเสียชีวิตมากถึงเพียงนั้น 


นายอนันต์ กล่าวต่อว่า ทาง ธ.ก.ส.แจ้งไม่สามารถโอนเงินให้เกษตรกรจำนวนหนึ่งได้ เนื่องจากบัญชีปิดไปแล้ว หรือบัญชีไม่เคลื่อนไหวมานาน ซึ่งจะเร่งติดต่อให้เกษตรกรมาแจ้งข้อมูลบัญชีที่ใช้อยู่ให้ถูกต้อง โดยทาง ธ.ก.ส.ให้แจ้งผ่านเว็บไซต์ www. เยียวยาเกษตรกร .com โดยเร็ว ทั้งนี้ จะเป็นบัญชีธนาคารใดก็ได้ ไม่จําเป็นต้องมาเปิดบัญชีใหม่กับ ธ.ก.ส.

สำหรับการจ่ายเงินเกษตรกรกลุ่มแรกจะดำเนินการจ่ายจนถึงวันที่ 29 พฤษภาคม ซึ่งเกษตรกรสามารถตรวจสอบสถานะได้ที่ www.moac.go.th เมื่อสิ้นรอบการจ่ายเงินของเกษตรกรแต่ละกลุ่ม หากเกษตรกรรายใดไม่ได้รับเงินเยียวยาทุกกรณีให้ยื่นอุทธณ์ผ่านเว็บไซต์ดังกล่าว รวมถึงยื่นอุทธรณ์ทบทวนสิทธิ์ด้วยตนเองได้ที่หน่วยงานในพื้นที่ 8 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานเกษตรอำเภอ/เกษตรพื้นที่กรุงเทพมหานคร  สำนักงานประมงจังหวัด/อำเภอ/กทม. สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด/อำเภอ (4) ศูนย์หม่อนไหม เฉลิมพระเกียรติฯ สำนักงานการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ประจำจังหวัด/สาขา สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่/สาขา สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายในส่วนภูมิภาค และสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด โดยใกล้หน่วยงานใด สามารถแจ้งที่หน่วยงานนั้นได้เลย 

ทั้งนี้ กลุ่มแรกเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร กรมปศุสัตว์ กรมประมง เป็นประจำทุกปีและแจ้งปรับปรุงทะเบียนภายในวันที่ 30 เมษายน กำหนดอุทธรณ์ วันที่ 19 พฤษภาคม-5 มิถุนายน กลุ่ม 2 เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมหม่อนไหม กยท. สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้าตาลทราย และกรมสรรพสามิตภายในวันที่ 30 เมษายน และผู้ที่ขึ้นทะเบียนเพิ่มเติมหรือปรับปรุงข้อมูลทะเบียนระหว่างวันที่ 1 – 15 พฤษภาคม กำหนดอุทธรณ์ 31 พฤษภาคม – 5 มิถุนายน 


มีรายงานว่านายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายปลัดกระทรวงเกษตรฯ หารือด่วนกับคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เรื่องการกำหนดเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรให้ชัดเจนว่า จะตัดสิทธิ์กลุ่มข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐออกด้วยหรือไม่เนื่องจากในการประชุม ครม.วันที่ 28 เมษายน ทางคณะกรรมการกลั่นกรองฯ เสนอให้ตัดเพียงกลุ่มที่ได้รับสิทธิ์จากโครงการเราไม่ทิ้งกัน ฐานทะเบียนประกันสังคม และฐานทะเบียนข้าราชการบำนาญเท่านั้น ซึ่งนายเฉลิมชัย ได้ให้ความเห็นส่วนตัวว่ากลุ่มที่ได้รับการดูแลจากรัฐอย่างต่อเนื่อง โดยมีเงินเดือนประจำนั้นไม่สมควรได้รับ แต่กระทรวงเกษตรฯ ต้องทำตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ และมติ ครม. จึงขึ้นอยู่กับกับว่า คณะกรรมการกลั่นกรองฯ จะมีความเห็นอย่างไรต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ฝนตกหนักบางแห่ง เตือน 6 จว.ระวังน้ำท่วม

กทม. 16 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง เตือน จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือตอนล่าง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ […]

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]