“รังสิมันต์” ห่วง “กัมพูชา” จะรักษาข้อตกลงแค่ไหน

รัฐสภา8ส.ค.-“รังสิมันต์” มองเวที GBC ห่วง “กัมพูชา” จะรักษาข้อตกลงแค่ไหน แนะไทยต้องรักษาความชอบธรรมในเวทีระหว่างประเทศ ยันหากจะยกเลิก MOU 43-44 ต้องมีกลไกอื่นที่ดีกว่าก่อน และควรถกในสภาฯ ร่วมกัน ชี้เหตุปะทะไม่ได้มาจาก MOU แต่เพราะความสัมพันธ์ระหว่างรัฐต่อรัฐ ท้วงปมเบิกงบล่าช้า รัฐบาลไม่ควรโทษไปมา แต่ควรบอกว่าจะเยียวยาเมื่อไหร่

นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่มามาเลเซีย ว่า การรักษาข้อตกลงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ซึ่งต่างฝ่ายไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน แต่สิ่งที่ต้องคำนึงต่อไปคือการเจรจาจากครั้งนี้ยังไม่จบ เพราะจะต้องมีการพูดคุยกันต่อในเวทีอื่นๆ สิ่งที่ท้าทายคือทำอย่างไรให้การเจรจามีผลอย่างยั่งยืนระหว่างไทย-กัมพูชา


“ส่วนตัวมองว่าผลการเจรจาที่ออกมาเป็นผลลัพธ์ที่คาดหมายเอาไว้อยู่แล้ว และผลเป็นที่น่าพอใจ แต่ที่กังวลมากกว่านั้นคือสุดท้ายทางกัมพูชา จะสามารถรักษาข้อตกลงได้มากน้อยเพียงใด หากพิจารณาเหตุการณ์ที่ผ่านมา ไม่สามารถมองอย่างไว้วางใจได้ จึงเสนอแนะให้ไทยรักษาความชอบธรรมในเวทีระหว่างประเทศ เพราะสุดท้ายการขัดกันทางอาวุธเมื่อเริ่มต้น และอยู่ชั่วคราวหลังจากยิงกันไปแล้ว สิ่งสำคัญที่ไม่สามารถเพิกเฉยได้ คือการรักษาความชอบธรรม ประเทศไทยจะต้องรักษาความชอบธรรมในเวทีระหว่างประเทศอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆให้ได้ หากรักษาได้ในระยะยาว จะสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อประเทศไทยมากกว่า” นายรังสิมันต์กล่าว

นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า ส่วนกรณี MOU2543 และ MOU2544 ในเรื่องการยกเลิกว่าหากใครต้องการยกเลิกทางกัมพูชาต้องการด้วยหรือไม่ หรือหากมีการยกเลิกจะมีอะไรมาแทนที่และได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าได้อย่างไร ในสถานการณ์ที่ไทย-และกัมพูชาคุยกันไม่ได้ ทำให้ต้องไปเจรจากันที่ประเทศมาเลเซีย จะมีเครื่องมืออะไรมาเป็นกลไกทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะในประเด็นแผนที่ 1:200,000 สิ่งที่จะมาแทนที่ MOU2543 ในขณะนี้ยังไม่มี จึงคิดว่าความเร่งด่วน ในการยกเลิก MOU2543 ยังไม่ได้มีในตอนนี้ ซึ่งกรอบในการเจรจาในลักษณะนี้มีมานานแล้ว และยังไม่มีปัญหา อาจจะแก้ไขปัญหาต่างๆค่อนข้างช้า เฉพาะความชัดเจนในเรื่องเส้นเขตแดน และปัญหาที่ทำให้เกิดการปะทะกันในพื้นที่ชายแดนไม่ได้เกิดจาก MOU2543 แต่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล ที่ตกต่ำลงแล้วทำให้นำเรื่องเส้นเขตแดนมาสร้างเงื่อนไข เพื่อเรียกร้องบางสิ่งบางอย่าง แต่ต้องไปหาคำตอบว่าคืออะไร


นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ส่วนMOU2544 บางส่วนมีปัญหาจริงๆ แต่หากจะยกเลิกในสถานการณ์ตอนนี้ คำถามคือในเวทีนานาชาติจะมองการยกเลิกอย่างไร และท่าทีของกัมพูชา หากไม่ยอมยกเลิก ไทยจะหาทางออกอย่างไร เป็นโจทย์ที่ต้องคิด เข้าใจว่าจะมีการหารือเรื่องนี้ในสภาผู้แทนราษฎรหลังจากที่มีการยื่นญัตติของ สส. และเห็นว่าหากมีการสร้างกลไกในการศึกษาเกี่ยวกับผลได้ผลเสีย MOU43 MOU44 ตนสนับสนุน แต่จะให้ตัดสินใจในทันทีเรื่องของการยกเลิก ในสถานการณ์นี้อาจจะเป็นการตัดสินใจที่เร่งด่วนเกินไป ต้องหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะMOU44 อาจจะมีปัญหาบางประการเกิดขึ้น

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงปัญหากรณีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งล่าสุดทาง ศบ.ทก.ตั้ง น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี มาทำหน้าที่โฆษก ศบ.ทก.ว่า ประเทศไทยจะชนะในปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้มีกรณีเดียว คือการยอมรับจากนานาชาติ ซึ่งวันแรกที่มีการยิงกันทุกฝ่ายต่างรู้ดีว่าจะยุติด้วยการเจรจา ซึ่งคือโลกแห่งความเป็นจริง และต้องยอมรับให้ได้ และความชอบธรรมเป็นเรื่องที่สำคัญ ยอมรับว่ารัฐบาลจะตั้งบุคคลมาทำหน้าที่สื่อสารเป็นเรื่องที่น่าเสียดายว่าดูเหมือนจะช้าไป ไม่ใช่เพียงใครเป็นผู้สื่อสาร แต่องค์ประกอบข้อมูลให้เท่าทันกันมีความจำเป็นต้องทำให้เกิดความชัดเจน

“กรณีตาควายเป็นการสร้างความคาดหวังที่ผิดให้กับชาวไทย รวมไปถึงสถานที่ช่องอานม้า เชื่อว่าสามารถพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาได้ ความถูกต้องของข้อมูลเป็นเรื่องที่สำคัญ และการสื่อสารที่รวดเร็วเป็นเรื่องสำคัญ และการพาการทูตลงไปดูพื้นที่ควรทำได้เร็วกว่านี้” นายรังสิมันต์กล่าว


เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ทางกัมพูชาไม่ยอมรับข้อเสนอเกี่ยวกับการจัดการกับทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดนและการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นเศรษฐกิจที่สำคัญของกัมพูชา ซึ่งนักวิชาการบางคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีถึง 30% และจากข้อมูลหน่วยงานระหว่างประเทศระบุว่าอาจจะถึง 40% หรือมากกว่านั้น แต่เสียดายรัฐบาลไม่ได้หยิบยกเรื่องนี้มาขยายผลให้มากกว่านี้ และใช้กรณีแสวงหาพันธมิตรในการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนการวางกับระเบิดในพื้นที่ผิดอนุสัญญาออตตาวา ก็ยังมีการขยายผลน้อย เข้าใจบรรยากาศในการเจรจาแต่ละปัญหาที่จะต้องนำไปแก้น่าเสียดายที่ยังไม่เห็น ทั้งนี้ขอความชื่นชมบทบาทการทำหน้าที่ของ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม แต่ขอตั้งคำถามกระทรวงการต่างประเทศทำอะไร และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ควรมีบทบาทมากกว่านี้หรือไม่ ไม่ใช่บทบาทของกองทัพ แต่เป็นบทบาทของรัฐบาลที่ต้องแก้ไขปัญหา ก่อนจะทักท้วงเรื่องของปัญหาการเบิกงบประมาณเยียวยาในพื้นที่ ปล่อยให้ปัญหาเกิดขึ้น ทั้งที่รู้อยู่แล้วและเตรียมการอยู่แล้ว ไม่ควรโทษกันไปมา โดยเฉพาะการโทษจากฝั่งรัฐบาล

“มันเป็นการแสดงถึงวุฒิภาวะว่ารัฐบาลไม่มีวุฒิภาวะในการรับมือกับปัญหา และก็ใช้วิธีการโทษกันไปมา หากจะดีกว่ารับไปว่าจะแก้ไขบอกเวลากับประชาชนว่าจะได้รับการเยียวยาเมื่อไหร่ ผมคิดว่าการสร้างความชัดเจนในข้อมูลตรงนี้จะทำให้การจัดการกับความคาดหวังของประชาชนมีประสิทธิภาพมากขึ้น”นายรังสิมันต์ กล่าว.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศบ.ทก. ย้ำ 13 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา เป็นประโยชน์พื้นที่ชายแดน

ทำเนียบ 8 ส.ค.-ศบ.ทก. ย้ำ 13 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะการหยุดยิง แต่ประเมินสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมเผยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำแต่ละประเทศจะประสานพื้นที่ นำอาเซียนลงติดตามเป็นระยะ ชี้การพูดคุยระดับ RBC เริ่มปลายเดือนนี้ เผยหากเหตุการณ์ประทุอีก เรียกประชุม GBC สมัยวิสามัญได้ทันที พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงสรุปภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาที่ผ่านมาตรวจพบว่า ฝ่ายกัมพูชา ตรึงกำลังทหารบริเวณชายแดนพื้นที่สำคัญ พร้อมมีการเคลื่อนไหวด้านยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะในบางพื้นที่ ซึ่งฝ่ายไทยจะต้องมีการตรวจตราและติดตามอย่างใกล้ชิด นอกเหนือจากนั้นยังมีการตรวจพบการบินของอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ในบางพื้นที่เช่นเดียวกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายยั่วยุในบางจุด ทางทหารไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ดำเนินการควบคุมสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มการตรวจตราตามแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง โฆษก ศบ.ทก. ยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ หรือ GBC เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ ว่า ได้มีการลงนามข้อตกลง 13 ข้อ โดยเป็นข้อตกลงที่สำคัญและเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะรายละเอียดข้อที่ 1 ทั้งสองฝ่ายเห็นพร้อมที่จะหยุดยิง […]

เด้งนายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ เซ่นจับผับ

ก.มหาดไทย 8 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผยผลปฏิบัติการ “ZERO DRUG” เด้ง นายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เซ่นจับผับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปฏิบัติการ “ZERO DRUG” 8เดือน 8ลุย ที่นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้าตรวจค้นผับย่านรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พบนักท่องเที่ยวอายุต่ำกว่า 20 ปี และตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง 179 คนว่า จะมีการเด้ง 5เสือ สภ. ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ส่วนรายละเอียดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะแถลงอีกครั้ง โดยตามระเบียบของตำรวจถ้ามีการจับกุม ในพื้นที่5 เสือสถานีตำรวจ จะต้องรับผิดชอบ จะมีการย้ายมาประจำที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ขณะที่ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นการแจ้งข่าวจากฝ่ายปกครองหรือไม่ หากไม่มีการแจ้ง กระบวนการของปกครองก็จะต้องมีการย้ายเช่นกัน เมื่อถามว่าปฏิบัติการเมื่อคืนนี้เป็นกำลังร่วมระหว่างฝ่ายปกครอง กับตำรวจหรือเฉพาะฝ่ายปกครอง นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่แน่ใจ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้าเป็นกองกำลังร่วม ที่ผ่านมาตามธรรมเนียมปฏิบัติ ตำรวจจะไม่ถูกเด้ง นายภูมิธรรมกล่าวว่า คงจะเอาผิดคนที่เกี่ยวข้อง ก็คงมีการจัดการตามระเบียบ […]

“บิ๊กเล็ก” ชี้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นถือว่าดีมากแล้ว เรื่องกับระเบิด จะคุยจนกว่ายอมรับ

ทำเนียบ 8 ส.ค.-“บิ๊กเล็ก” มอบความสำเร็จให้ทีมเจรจา GBC พร้อมขอบคุณประชาชน 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาที่อดทน ให้ผู้ว่าฯ ประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงอนุญาตประชาชนกลับบ้าน ชี้กัมพูชาเมินข้อตกลงเก็บกู้ระเบิด เพื่อใช้เป็นเครื่องป้องกันกำลังตนเอง ย้ำจะนำไปคุยใน GBC และจนกว่าจะยอมรับ จ่อตั้งทีมที่ปรึกษาส่วนตัวดูข้อกฎหมายรอบด้าน พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำผลสำเร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย – กัมพูชา หรือ GBC ว่า ขอบคุณทีมคณะเลขานุการ GBC ดำเนินการพูดคุยจนบรรลุข้อตกลง 13 ประเด็น โดยผลสำเร็จที่สำคัญ คือ เป็นการตกลงแบบทวิภาคี ระหว่างไทย – กัมพูชา ซึ่งอาเซียนได้ปล่อยให้ทั้งสองประเทศพูดคุยกัน โดยไม่เข้ามาแทรกแซง ทำหน้าที่เพียงเป็นผู้สังเกตการณ์ ขณะที่ในการพูดคุยมีผู้สังเกตการณ์จากสหรัฐสหรัฐอเมริกา และจีน ก็ได้ปล่อยให้อาเซียนบริหารจัดการกันเอง โดยไม่เข้ามาแทรกแซงเช่นกัน ถือว่าได้รับคำมั่นจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และมาเลเซียก็ตอบรับคำขอไทย ที่พยายามจะรักษาการพูดคุยระหว่างสองประเทศ เพื่อให้กลไกทวิภาคีดำเนินการต่อไปได้ และสิ่งที่ไทยประสบผลสำเร็จอีกหนึ่งประการ คือ เป็นอีกครั้งที่กัมพูชายอมพูดคุยทวิภาคี หลังจากที่ปฏิเสธมาตลอด ส่วนการจะเชื่อใจกัมพูชาได้อย่างไรนั้น พลเอกณัฐพล ย้ำว่า จะใช้แนวทางเดิม […]

ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา

ทำเนียบ 8 ส.ค.-ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา ปะทะ “พลโทหญิงมาลี” มั่นใจสวยกว่าการันตีตำแหน่งนางสาวไทย เจ้าตัวลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์ พร้อมยืนยันเคียงข้างประชาชน ให้ข้อเท็จจริง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดตัวโฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาคนใหม่ คือ นางสาวปนัดดา วงษ์ผู้ดี เพื่อทำหน้าที่ปะทะกับพลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ซึ่งอย่างน้อยสิ่งที่เราได้เปรียบ ที่ตนเองมั่นใจ คือ ความสวย ที่สวยกว่าแน่นอน เพราะโฆษก ศบ.ทก.เป็นนางสาวไทย แต่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาไม่ใช่นางสาวกัมพูชา ซึ่งการทำงานของนางสาวปนัดดา เนื่องจากมีงานมากมาย ปัจจุบันทำงานอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ให้นางสาวปนัดดาช่วยตอบโต้ผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งตนเองและทีมงานจะสนับสนุนข้อมูลในการแถลงข่าว ด้าน นางสาวปนัดดา ระบุว่า ที่ตกลงมาทำหน้าที่โฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาในครั้งนี้ เป็นเพราะตนเองอยู่ในพื้นที่มานานและเห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เห็นความอดทนของทหาร ในฐานะที่เป็นจิตอาสา จึงอยากเป็นสื่อกลางที่ชัดเจน ที่สามารถคุยกับสื่อมวลชนและประชาชน รวมถึงฝ่ายทหารให้ได้ข้อมูลที่ตรงกับความเป็นจริง และบอกกับต่างชาติว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยของเราบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางทหารได้มีการประชุมกัน […]