นายกฯ กำชับทำความเข้าใจประชาชนต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

ทำเนียบฯ 22 พ.ค.-นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำ ศบค. ยึดความมั่นคงด้านสาธารณสุขเป็นเรื่องสำคัญ ยังดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวด ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำความเข้าใจประชาชนต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พร้อมหารือเตรียมการท่องเที่ยว รองรับการผ่อนปรนตามมาตรการเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โดยนายกรัฐมนตรี ขอบคุณน้ำใจจากคนไทยที่บริจาคสิ่งของช่วยเหลือกัน พร้อมขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันอย่างดีปฏิบัติตามมาตรการเพื่อป้องกัน และควบคุมโรค รวมทั้งการใช้มาตรการทางสังคมในการร่วมกันสอดส่องดูแล การปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ จนทำให้ประเทศไทยก้าวขึ้นมายืนในอันดับต้น ๆ ของประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี 

“ขอชื่นชมการดำเนินการบริหารสถานการณ์ของศูนย์โควิด-19 ทั้งการป้องกัน ควบคุม และการสร้างการรับรู้แก่ประชาชน จนทำให้เกิดความร่วมมือ ร่วมใจจากทุกภาคส่วน นอกจากนี้ เป็นที่น่ายินดีด้วยว่าการดูแลแรงงานไทยในต่างประเทศของไทยได้รับการยอมรับและชื่นชม จนมีหลายประเทศประสงค์จะรับแรงงานไทยเพิ่มขึ้นในอนาคต รวมถึงการขยายความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน เช่น สินค้าเกษตร จึงขอให้ทุกหน่วยงานเตรียมแผนงานเพื่อรองรับไว้ด้วย”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 


สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุข รายงานภาพรวมตัวเลขการติดเชื้อในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งกลุ่มประเทศในเอเชียยังพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง โดยประเทศที่น่าจับตาดูสถานการณ์  ได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซีย ปากีสถาน และประเทศในอาเซียน ประเทศอื่น ๆ ที่ยังมีตัวเลขน่าเป็นห่วงได้แก่ สหรัฐฯ รัสเซีย บราซิล ชิลี ซึ่งตัวเลขยังสูงต่อเนื่อง หลายประเทศพบการระบาดใหม่ภายหลังอนุญาตให้มีมาตรการผ่อนปรน เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ส่วนในไทยยังควบคุมได้ดี ตัวเลขเป็นเลขตัวเดียว และวันนี้ ไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น

ในส่วนของการพัฒนาวัคซีนไทยพัฒนาครบทั้ง 6 เทคโนโลยี และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน กับการพัฒนาวัคซีนของโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อให้คนไทยมีโอกาสใช้วัคซีนในช่วงเวลาต้น ๆ เช่นเดียวกับในต่างประเทศ ในโลกที่ผลิตได้ รวมทั้งไทยมีความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น องค์การอนามัยโลก (WHO) กลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด (Coalition for Epidemic Preparedness Innovations : CEPI) และสถาบันวัคซีนนานาชาติ (International Vaccine Institute : IVI ) 

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำถึงประเด็นเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนของไทย ว่าจะต้องทำความเข้าใจกับประชาชน เรื่องกระบวนการผลิต จนถึงการนำไปใช้งานว่าประกอบไปด้วยขั้นตอนต่าง ๆ หลายขั้นตอน ต้องผ่านการทดลองที่จะต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ส่วนวัคซีนจากต่างประเทศหากประเทศใดผลิตได้ และด้วยความสัมพันธ์ที่มีจะทำให้ไทยได้รับวัคซีนเป็นประเทศต้น ๆ 


ด้านพล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง รายงานผลการดำเนินการด้านความมั่นคง การตรวจติดตามการดำเนินการตามมาตรการของกลุ่มกิจกรรมและกิจการที่ได้รับการผ่อนคลาย ทั้งในระยะที่ 1 และระยะที่ 2 โดยชุดตรวจได้ตรวจติดตาม ให้คำแนะนำ และสนับสนุนการปฏิบัติตามมาตรการอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่าง การติดตามสถานการณ์ที่ห้าง IKEA โดยในช่วงแรกมีการดำเนินการที่ไม่เรียบร้อยเกิดจากจุดคัดกรองไม่เพียงพอ และปริมาณประชาชนมากกว่าที่ประเมินไว้ แต่ได้ร่วมดำเนินการแก้ไขจนเรียบร้อย 

สำหรับการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เนื่องด้วยในสถานการณ์ปัจจุบันยังมี ผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวและมั่วสุมอยู่ จึงเห็นควรให้ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อควบคุม แต่อาจพิจารณาผ่อนปรนในบางข้อ เช่น ระยะเวลาเคอร์ฟิว โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวถึง การผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ว่า ต้องพิจารณาในภาพรวม ใช้ระยะเวลาที่เหมาะสม เป็นขั้นเป็นตอน รวมทั้งใช้มาตรการทางสังคมร่วมด้วย เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน เกิดความร่วมมือช่วยเหลือกัน 

ขณะที่กระทรวงมหาดไทย ได้รายงานมาตรการป้องกันและสกัดกั้นการนำเชื้อเข้าสู่ประเทศไทย โดยได้ดำเนินการตามมาตรการ State Quarantine และ Local Quarantine อย่างเข้มข้น และมีประสิทธิภาพ เกิดการยอมรับจากสังคม ประชาชน พร้อมกันนี้ ได้รณรงค์ ให้ความรู้ ขอรับความมือจากประชาชนในวงกว้าง โดยมีการชี้เบาะแสเข้ามายังภาครัฐ จึงเป็นนิมิตรหมายที่ดีของความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำมาตรการสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่างให้เข้มงวด เพราะเป็นมาตรการที่มีความสำคัญ 

ด้านสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้รายงานที่ประชุมเกี่ยวกับความจำเป็นในการพิจารณาขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก 1 เดือน ด้วยปัจจัยหลัก 3 ประการ ดังนี้ 1. เพื่อเตรียมการรองรับมาตรการผ่อนปรนในระยะต่อไป การดำเนินการต้องมีเอกภาพ รวดเร็ว มีความต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ และมีมาตรฐานกลาง ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ 

2. ยังคงมีความจำเป็นและต้องมีการบังคับใช้ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยประเทศไทยอยู่ระหว่างการกำหนดมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 3 และ 4 ซึ่งเป็นกิจกรรม/กิจการที่มีความเสี่ยงสูง จำเป็นต้องมีมาตรการตามกฎหมาย เพื่อกำกับการบริหารจัดการเพื่อบริหารจัดการมาตรการผ่อนคลายอย่างเป็นระบบในเวลาที่เหมาะสม 

3. สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคยังไม่สิ้นสุด โดยที่มีข้อมูลว่าหลายประเทศยังคงมีการระบาดและมีผู้ติดเชื้อในระดับสูง และเมื่อประเทศไทยได้จัดทำมาตรการผ่อนคลายครบทั้ง 4 ระยะแล้ว จำเป็นต้องมีระยะเวลาเพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศ อาทิ มาตรการด้านกฎหมาย แผนปฏิบัติการในการบริหารวิกฤตการเพื่อรองรับกับความเสี่ยงที่อาจกลับมาแพร่ระบาดของโรค  

นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ยึดถือความมั่นคงด้านสาธารณสุขเป็นเรื่องสำคัญ ยังคงต้องดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ การพิจารณาขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามขั้นตอน และชี้แจงให้ประชาชนและสังคมเข้าใจเหตุผลอย่างถูกต้อง 

นอกจากนี้ที่ประชุม ศบค.ได้หารือเรื่องเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ การท่องเที่ยว การเตรียมการ เพื่อรองรับการผ่อนปรนตามมาตรการเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เดินต่อไปได้ เช่น โรงแรมต้องปรับตัวตามมาตรการ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะค้างคืนที่โรงแรม โดยจะต้องมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมบ้าง เช่น ระบบแอร์ อาหาร เป็นต้น การศึกษา การเปิดภาคเรียนในการผ่อนปรนระยะ 4 กระทรวงศึกษาธิการ จึงต้องปรับแผนงาน เช่น เด็กปฐมวัย – อนุบาล 3 ที่ยังต้องไปโรงเรียน อาจมีการพิจารณาปรับสัดส่วนครูกับนักเรียนลดลง อาจจะต้องจัดเรียนเป็นผลัด ๆ ละ 20 คน และมีผู้สนับสนุนครูด้วย โรงเรียนนานาชาติ ซึ่งจะเปิดเรียนในวันที่ 1 มิถุนายน เพราะมีศักยภาพและความยืดหยุ่น สามารถรองรับและบริหารจัดการได้ 

นายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกส่วนดำเนินการอย่างรอบคอบในทุกประเด็น ส่วนในประเด็นที่มีความแตกต่างกันในรายละเอียด เช่น การเปิดเรียน เด็กในช่วงวัยต่างกัน การดูแลจะเป็นแบบเดียวกันคงไม่ได้ การเรียนแบบออนไลน์ใช้เฉพาะในช่วงนี้ ช่วงก่อนการเปิดเรียนเท่านั้นเพื่อใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ทบทวนการเรียนการสอน และกระตุ้นนักเรียนก่อนเปิดเทอม แต่เมื่อเปิดเทอมแล้วจะต้องเร่งพิจารณาดำเนินการเหลื่อมเวลาเรียน พิจารณาในรายละเอียดของการเรียนการสอน ต้องมีหลักสูตรในการอบรมวิชาชีพครูในลักษณะ tailored made เพื่อความเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]