เปิดวงเงินอุดหนุน 68 พรรคการเมือง 120 ล้าน ปชป.รับมากสุด

15 พ.ค.-เปิด 68 พรรคการเมืองรับเงินจัดสรรจากกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองปี 2563 จำนวน 120 ล้าน ประชาธิปัตย์ได้เงินมากสุด 37.3 ล้าน พลังประชารัฐ 13 ล้าน ส่วนเพื่อไทยได้ 11.3 ล้าน แต่เจอหักชดใช้ค่าเลือกตั้งส.ส.เขต 8 เชียงใหม่


วันนี้ (15พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจเฟซบุ๊กกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ของสำนักงาน กกต.ได้เผยแพร่รายละเอียด คณะกรรมการกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง มีมติเมื่อวันที่ 20 เมษายน  2563 อนุมัติการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่พรรคการเมือง ประจำปี 2563 รวม 68 พรรคการเมือง วงเงิน 120,087,841.85 บาท ตามหลักเกณฑ์มาตรา 83 ของ พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560  

1.พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเงินอุดหนุน 37,332,493.39 บาท


2.พรรคประชากรไทย ได้รับเงินอุดหนุน 1,571,117.59 บาท 

3.พรรคความหวังใหม่ ได้รับเงินอุดหนุน 447,560.08 บาท  

4.พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย ได้รับเงินอุดหนุน 574,718.23 บาท


5.พรรคเพื่อไทย ได้รับเงินอุดหนุน 11,355,849.04 บาท  แต่ได้รับการโอนจริง 1,672,093.92 บาท  เนื่องจากในการเลือกตั้งส.ส.เมื่อ 24 มีนาคม 2562 กกต.ได้มีคำวินิจฉัยให้ระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายสุรพล เกียรติไชยากร  ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย  ไว้เป็นการชั่วคราวเป็นระยะเวลา 1 หนึ่งปี และยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา ยกเลิกการเลือกตั้ง ให้มีการเลือกตั้งส.ส.เชียงใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 8 ใหม่ และให้ดำเนินคดีอาญาแก่นายสุรพล  รวมทั้ง กกต.ได้มีมติเห็นชอบหลักฐานการใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้ง ครั้งที่เป็นเหตุให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ จำนวนเงินรวม 9,683,755.12 บาท  ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ดังนั้น พรรคเพื่อไทย จะต้องถูกหักจำนวนเงินที่กกต.ยื่นฟ้องให้สมาชิกผู้นั้นชดใช้คืนออกจากเงินจัดสรรตามมาตรา 83 (5) ทำให้คงเหลือ1,669,093.89 บาท และให้ส่งคืนเข้ากองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง จำนวน 9,683,755.12 บาท  หากภายหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าผู้นั้นไม่ต้องรับผิด หรือรับผิดน้อยกว่าที่คณะกรรมการยื่นฟ้อง ให้คณะกรรมการกองทุนจ่ายเงินคืนให้แก่พรรคการเมืองนั้นต่อไป ตามมาตรา 83 (5) 

พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง2560 และข้อ 27ของระเบียบกกต.ว่าด้วยกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง พ.ศ. 2560

6.พรรคเพื่อแผ่นดิน ได้รับเงินอุดหนุน 427,004.51 บาท   

7.พรรคชาติพัฒนา ได้รับเงินอุดหนุน 385,474.00 บาท  

8.พรรคชาติไทยพัฒนา ได้รับเงินอุดหนุน  497,912.83 บาท

9.พรรคอนาคตไทย ได้รับเงินอุดหนุน 1,272,266.26 บาท

10.พรรคภูมิใจไทย  ได้รับเงินอุดหนุน 845,841.45 บาท   

11.พรรคสังคมประชาธิปไตยไทย ได้รับเงินอุดหนุน  1,081,033.77 บาท  

12.พรรคประชาสามัคคี ได้รับเงินอุดหนุน  843,396.36 บาท  

13.พรรคประชาธิปไตยใหม่ ได้รับเงินอุดหนุน 2,137,414.04 บาท

14.พรรคพลังชล ได้รับเงินอุดหนุน  660,705.48 บาท  

15.พรรคครูไทยเพื่อประชาชน ได้รับเงินอุดหนุน  693,062.07 บาท

16.พรรคพลังสหกรณ์ ได้รับเงินอุดหนุน 940,862.63 บาท  

17.พรรคพลังท้องถิ่นไท ได้รับเงินอุดหนุน  494,374.39 บาท  

18.พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ได้รับเงินอุดหนุน  703,261.45 บาท

19.พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ได้รับเงินอุดหนุน 1,261,033.23 บาท  

20.พรรคไทรักธรรม ได้รับเงินอุดหนุน 6,707,694.64 บาท

21.พรรคเสรีรวมไทย ได้รับเงินอุดหนุน 3,926,388.68 บาท  

22.พรรครักษ์ธรรม ได้รับเงินอุดหนุน 601,479.01 บาท  

23.พรรคเพื่อชาติ ได้รับเงินอุดหนุน  663,975.20 บาท

24.พรรคพลังประชาธิปไตย ได้รับเงินอุดหนุน 800,003.59 บาท  

25.พรรคภราดรภาพ ได้รับเงินอุดหนุน 299,130.80 บาท  

26.พรรคพลังไทยรักชาติ ได้รับเงินอุดหนุน 2,115,641.55 บาท   

27.พรรคเพื่อชีวิตใหม่ ได้รับเงินอุดหนุน 536,271.76 บาท  

28.พรรคก้าวไกล ได้รับเงินอุดหนุน 358,009.71 บาท  

29.พรรคทางเลือกใหม่ ได้รับเงินอุดหนุน 551,413.07 บาท

30.พรรคมติประชา ได้รับเงินอุดหนุน 551,464.57 บาท 

31.พรรคประชาภิวัฒน์ ได้รับเงินอุดหนุน 640,063.34 บาท  

32.พรรคพลเมืองไทย ได้รับเงินอุดหนุน 1,150,528.97 บาท  

33.พรรครวมใจไทย ได้รับเงินอุดหนุน 603,798.84 บาท  

34.พรรคพลังธรรมใหม่ ได้รับเงินอุดหนุน 1,271,001.93 บาท

35.พรรคไทยธรรม ได้รับเงินอุดหนุน 554,857.41 บาท 

36.พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้รับเงินอุดหนุน 790,199.97 บาท  

37.พรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้รับเงินอุดหนุน 6,680,216.55 บาท  

38.พรรคสยามพัฒนา ได้รับเงินอุดหนุน 392,074.84 บาท

39.พรรคเพื่อคนไทย ได้รับเงินอุดหนุน 144,622.98 บาท

40.พรรคพลังปวงชนไทย ได้รับเงินอุดหนุน 3,581,324.45 บาท  

41.พรรคพลังไทยรักไทย ได้รับเงินอุดหนุน 147,378.28 บาท 

42.พรรคพลังชาติไทย ได้รับเงินอุดหนุน 310,637.27 บาท  

43.พรรคประชาชาติ ได้รับเงินอุดหนุน 573,778.43 บาท  

44.พรรคแผ่นดินธรรม ได้รับเงินอุดหนุน 248,435.58 บาท 

45.พรรคคลองไทย ได้รับเงินอุดหนุน 219,709.14 บาท

46.พรรคประชาธรรมไทย ได้รับเงินอุดหนุน 740,816.92 บาท 

47.พรรคประชานิยม ได้รับเงินอุดหนุน 340,673.91 บาท  

48.พรรคพลังประชารัฐ ได้รับเงินอุดหนุน 13,570,414.54 บาท  

49.พรรคเศรษฐกิจใหม่ ได้รับเงินอุดหนุน 1,751,685.33 บาท  

50.พรรคพลังรัก ได้รับเงินอุดหนุน 4,242.86 บาท

51.พรรคชาติพันธุ์ไทย ได้รับเงินอุดหนุน 2,206.42 บาท   

52.พรรคภูมิพลังเกษตรกร ได้รับเงินอุดหนุน 18,523.16 บาท  

53.พรรคพลังสังคม ได้รับเงินอุดหนุน 442,231.13 บาท 

54.พรรคพลังแรงงานไทย ได้รับเงินอุดหนุน 287,135.82 บาท

55.พรรคสุจริตชน ได้รับเงินอุดหนุน 652,382.32 บาท 

56.พรรคพลังศรัทธา ได้รับเงินอุดหนุน 500,074.75 บาท 

57.พรรคพลังแผ่นดินทอง ได้รับเงินอุดหนุน 71,693.71 บาท 

58.พรรคกลาง ได้รับเงินอุดหนุน 162,684.68 บาท 

59.พรรคพลังเพื่อไทย ได้รับเงินอุดหนุน 436,400.24 บาท 

60.พรรคประชาไทย ได้รับเงินอุดหนุน 519,022.47 บาท

61.พรรคกรีน ได้รับเงินอุดหนุน 512,483.68 บาท 

62.พรรคพัฒนาประเทศไทย ได้รับเงินอุดหนุน 2,026.20 บาท 

63.พรรคฐานรากไทย ได้รับเงินอุดหนุน 7,943.11 บาท 

64.พรรคสามัญชน ได้รับเงินอุดหนุน 496,547.38 บาท 

65.พรรคภาคีเครือข่ายไทย ได้รับเงินอุดหนุน 512,009.71 บาท 

66.พรรคเพื่อไทยพัฒนา ได้รับเงินอุดหนุน 7,900.00 บาท  

67.พรรคคนงานไทย ได้รับเงินอุดหนุน 700,004.87 บาท

68.พรรคสร้างชาติ ได้รับเงินอุดหนุน 403,257.28 บาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

ทหาร-ตร.วางกำลังแน่นตลอดแนวชายแดน จ.สระแก้ว

สระแก้ว 10 มิ.ย. – ทหารพราน-ตำรวจ วางกำลังแน่นตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว เพิ่มความเข้มงวดลาดตระเวน-ตั้งจุดตรวจคัดกรอง ขณะที่ตลาดโรงเกลือยังเปิดทำการ แต่บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา ด้านชาวบ้าน จ.บุรีรัมย์ เริ่มคลายกังวล ออกทำไร่ทำสวน ใช้ชีวิตปกติ บรรยากาศบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ อ.โคกสูง และ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ยังคงเคร่งครัดมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 12-13 ตชด. จัดกำลังออกลาดตระเวนตลอดแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โคกสูง ซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนเพียงไม่กี่กิโลเมตร นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ได้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบตามแนวถนนสีเพ็ญ เส้นทางที่เชื่อมชายแดนไทยกับกัมพูชา ใกล้ตลาดโรงเกลือ จุดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ แม้จะมีการวางกำลังแน่นหนา แต่ในช่วงเช้าวันนี้ (10 มิ.ย.) ตลาดโรงเกลือยังคงเปิดทำการตามปกติ พ่อค้าแม่ค้านำสินค้านานาชนิดมาวางขาย เช่น เสื้อผ้า รองเท้า และของใช้ทั่วไป มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินจับจ่ายซื้อของอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บรรยากาศโดยรวมยังค่อนข้างเงียบเหงากว่าช่วงก่อนหน้า เนื่องจากความวิตกของนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับความปลอดภัย หลังเกิดข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทางการมีการปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดด่านพรมแดน ส่งผลให้การเดินทางเข้า-ออกของนักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด บรรดานักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งยังคงรู้สึกไม่มั่นใจในการเดินทางเข้ามาในพื้นที่ชายแดน […]

ปิดตำนาน “บิ๊กสุ” นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย

กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา สิริอายุ 91 ปี นอกจากบทบาททางการทหารแล้ว พล.อ.สุจินดา ยังมีส่วนสำคัญต่อสถานการณ์การเมืองไทย.-สำนักข่าวไทย

จ่อให้ออกจากราชการไว้ก่อน “พญ.” แอบอ้างสั่งยานอนหลับ

10 มิ.ย.- จ่อสั่งแพทย์หญิงคนดัง ให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีถูกจับกุม แอบอ้างคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ พบก่อนหน้านี้เคยถูกสั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ปมเอี่ยวจีนเทา กรณีตำรวจ ปส. และ อย. เข้าตรวจสอบคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ ก่อนเชื่อมโยงถึงแพทย์หญิงคนดัง พร้อมจับกุมชายรายหนึ่ง ซึ่งรับเป็นผู้ดูแลห้องพักภายในแฟลตตำรวจ ยึดของกลางกลุ่มยานอนหลับ บรรจุอยู่ในกล่องลังกว่า 10 กล่อง เบื้องต้นพบเงินหมุนเงินกว่า 80 ล้านบาท และมีเงินหมุนเวียนร่วมกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกว่า 400 ล้านบาท ล่าสุดมีรายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง จากการตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2565 มีผู้เสียหายร้องเรียนแพทย์หญิงคนดังเกี่ยวกับกรณีที่ผู้เสียหายได้นำเงินมามอบให้ เพื่อให้ช่วยต่อวีซ่าการพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการฟ้องศาลคดีอาญา โดยศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 7 ปี และมีการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งทราบว่าสามารถตกลงกับคู่กรณีได้ อย่างไรก็ตาม กระบวนการทางวินัยยังคงดำเนินต่อ โดยทางโรงพยาบาลตำรวจ มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงในกรณีนี้ และอยู่ระหว่างการนัดประชุมเพื่อพิจารณาผลวินัยร้ายแรงในเร็วๆ นี้ ส่วนกรณีที่มีการจับกุมสั่งซื้อ-ขายยานอนหลับ ในวันนี้ ล่าสุดชุดทำคดีได้ทำหนังสือส่งมายังต้นสังกัดว่า แพทย์หญิงคนดัง ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1 และมีความเห็นว่า หากให้รับราชการต่อไปอาจเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ซึ่งจะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง […]

นายกฯ คุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี

ทำเนียบ 10 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำผลเจรจาชายแดนไทย-กัมพูชา เรียบร้อยดี เผยคุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี งัดเทคนิค จริงใจเจรจา จนกัมพูชาปรับทัพ บอกรับทราบ “สนธิ” ยื่นหนังสือจี้รัฐบาลรักษาอธิปไตย ลั่นแก้ทีละปม ไม่เหมารวม MOU 44 พร้อมขอบคุณ จนท.ทุกหน่วย ขอ ปชช.มั่นใจไม่เกิดความรุนแรงแน่นอน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายผลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการคลี่คลายสถานการณ์ ที่มีความขัดแย้งกัน และปฏิบัติงานร่วมกันหลายภาคส่วน ซึ่งผลออกมาค่อนข้างสงบเรียบร้อยดี โดยในระดับนโยบาย รัฐบาลได้ให้หน่วยงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะกองทัพในพื้นที่ ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือทวิภาคี ได้พูดคุยกันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ย้ำว่าทุกหน่วยงานได้มีการพูดคุยกัน ทั้งไทยและกัมพูชา และตนเองก็ได้พูดคุยกับพลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และสมเด็จฯฮุน เซน ประธานองคมนตรี ประธานวุฒิสภากัมพูชา ก็มีการประสานงานและเจรจากันเพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ และผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน […]