ศูนย์ราชการฯ 14 ส.ค.- กกต. ถกพรรคการเมือง ย้ำให้เห็นความสำคัญของสาขา ตัวแทนจังหวัด ทั้งการทำไพรมารี กำหนดนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง กระตุ้นให้ความรู้ การปกครองระบอบประชาธิปไตย ที่ผ่านมายังทำยังน้อย
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการของพรรคการเมือง ครั้งที่ 2 โดยมีหัวหน้าพรรคการเมือง รองหัวหน้าพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรคการเมือง และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของพรรคการเมือง เข้าร่วมประชุม
นายอิทธิพร กล่าวว่า ในการประชุม จะเป็นการให้ความรู้และชี้แจงแนวทางการสนับสนุนพรรคการเมืองโดยรัฐ ซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ฉบับที่ 3 และการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามหลักสูตรพรรคการเมืองคุณภาพ เพื่อให้พรรคการเมืองใช้เป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดความรู้แก่กรรมการสาขาพรรคการเมือง ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด สมาชิกพรรคการเมืองและประชาชนทั่วไป และใช้หลักสูตรดังกล่าวในการดำเนินกิจกรรม ตามมาตรา 23 (1) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และการดำเนินกิจกรรมที่ใช้เงินอุดหนุนที่ได้รับจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ตลอดจนแนวทางการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง สส.ของพรรคการเมือง ในเรื่องการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองของผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส. การกำหนดนโยบายของพรรคการเมืองที่ใช้ในการประกาศโฆษณาหาเสียง


นายอิทธิพร ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า การประชุมในวันนี้ ตนได้เน้นย้ำในสิ่งที่เป็นหน้าที่หลักของพรรคการเมือง ว่าให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ และย้ำถึงกระบวนการสรรหาผู้สมัคร เพื่อจะเป็นตัวแทนของพรรคการเมืองในการเลือกตั้งส.ส ปี 2570 จึงต้องมีการทำไพรมารีโหวต ว่าต้องให้ความสำคัญ กับตัวแทนสาขาพรรคประจำจังหวัดต่างๆด้วย และเน้นย้ำในเรื่องของการกำหนดนโยบายที่จะใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ตามมาตรา 57 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมืองที่กำหนดให้ ต้องรับฟังความคิดเห็นจากสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด รวมถึงเรื่องของการใช้จ่ายเงินอุดหนุน นอกจากทำตามกฎหมายแล้ว มาตรา 23 (1) ของกฎหมายเดียวกันนี้ ได้กำหนดว่าพรรคการเมือง จะต้องดำเนินกิจกรรม เกี่ยวกับการให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แก่สมาชิกพรรคการเมืองและประชาชน เนื่องจากที่ผ่านมามีพรรคการเมืองที่ทำเรื่องนี้ไม่มาก จึงอยากจะเชิญชวนให้พรรคการเมืองให้ความสำคัญในเรื่องเหล่านี้ และย้ำว่าในการปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งของพรรคการเมือง ยังมีข้อสงสัยสามารถสอบถามมายัง กกต.ได้ ตามมาตรา 23 ของพ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. ซึ่งกำหนดให้ กกต. มีหน้าที่ต้องตอบ ภายใน 30 วัน ซึ่งข้อมูลการตอบข้อซักถาม ก็มีปรากฏอยู่ในแอพพลิเคชั่น smartvote จึงอยากให้ตัวแทนพรรคการเมืองที่เข้าร่วมประชุมโหวตแอพฯ นี้ เพราะปัจจุบันมีคนโหลดได้ใช้แล้ว 1.8 ล้านคน
“ได้ขอให้พรรคการเมืองให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องการกำหนดนโยบายในการใช้โฆษณาหาเสียง ซึ่งมาตรา 57 ของพ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดให้พรรคการเมืองคำนึงถึงความเห็น ของสาขาพรรคการเมือง และตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ซึ่งเราก็หวังที่จะเห็นกระบวนการทำงานในส่วนนี้ หวังที่จะเห็นตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ประชุมกันเพื่อให้ได้ข้อยุติ ว่าจังหวัดเราอยากได้อะไร ที่เป็นนโยบายและส่งไปให้สำนักงานใหญ่ เพื่อใช้ประกอบในการกำหนดนโยบาย ซึ่งนอกจากฟังความเห็นแล้วพรรคการเมืองก็ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ส่วนเรื่องการมีวิสัยทัศน์หรือแนวนโยบายอะไรก็เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองต้องตระหนักว่ามันเหมาะสมหรือไม่อย่างไร” นายอิทธิพร กล่าว -สำนักข่าวไทย