คปภ. มอบห้อง Negative Pressure พร้อมเครื่องมือแพทย์ สู้ภัยโควิด-19 ให้ รพ.รัฐ 22 แห่ง

กรุงเทพฯ 12 พ.ค. – คปภ. รวมพลัง ศิษย์เก่า วปส. สมทบทุนช่วยบุคลากรทางการแพทย์ สู้ภัยโควิด-19  สร้างห้อง Negative Pressure พร้อมมอบเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้แก่โรงพยาบาลรัฐ 22 แห่ง ทั่วประเทศ


นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2563 ได้เป็นประธานในพิธีมอบห้อง Negative Pressure พร้อมมอบเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในการป้องกันและรักษาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้แก่โรงพยาบาลของรัฐ จำนวน 22 แห่ง โดยมีคณะผู้บริหาร สำนักงาน คปภ. ผู้แทนศิษย์เก่านักศึกษาหลักสูตรวิทยาการประกันภัยระดับสูง (วปส.) และผู้แทนจากโรงพยาบาลต่าง ๆ เข้าร่วมพิธีเพื่อรับมอบเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ณ ห้องประชุมสถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง ชั้น 2 สำนักงาน คปภ. ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อทุกภาคส่วน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การใช้ชีวิตของประชาชน และที่สำคัญสะท้อนให้เห็นถึงความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ของไทยที่ต้องรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาด โดยทุ่มเทแรงกายแรงใจในการตรวจรักษา เฝ้าระวัง ตลอดจนควบคุมการระบาดของโรคอย่างใกล้ชิด ดังนั้น เมื่อประมาณต้นเดือนเมษายน 2563 สำนักงาน คปภ. จึงได้ประชุมหารือร่วมกับศิษย์เก่านักศึกษาหลักสูตรวิทยาการประกันภัยระดับสูง (วปส.) รุ่นที่ 1-9 (Thailand Insurance Leadership Program) ซึ่งเป็นหลักสูตรการศึกษาสำหรับผู้บริหารระดับสูงจากภาครัฐและภาคเอกชน โดยการศึกษาตามหลักสูตรดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างองค์ความรู้ด้านการประกันชีวิต การประกันวินาศภัย การบริหารจัดการความเสี่ยงต่าง ๆ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นจากมุมมองและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน เพื่อพัฒนาระบบประกันภัยไทยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน


ทั้งนี้ จากการหารือมีความเห็นสอดคล้องร่วมกันว่า เนื่องจากปัจจุบันยังมีโรงพยาบาลของรัฐอีกหลายแห่งที่ยัง ขาดแคลนเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความจำเป็นต้องใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ในการป้องกันเป็นกรณีพิเศษ เพื่อใช้ในการรักษาดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้จัดทำกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมและสาธารณประโยชน์ขึ้น ตามโครงการ “คปภ. รวมพลัง วปส. เพื่อบุคลากรทางการแพทย์ สู้ภัย COVID-19” โดยร่วมกันบริจาคเงินและสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลของรัฐที่มีความจำเป็นและต้องการเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ในการต่อสู้กับสถานการณ์โควิด-19 จำนวน 22 แห่ง ทั่วประเทศ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,585,020.25 บาท (หนึ่งล้านห้าแสนแปดหมื่นห้าพันยี่สิบบาทยี่สิบห้าสตางค์) ดังนี้

1. บริจาคเงินสร้างห้องความดันลบ (Negative Pressure) จำนวน 1 ห้อง ให้กับโรงพยาบาลบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเป็นถาวรวัตถุที่จะคงอยู่และใช้ประโยชน์เพื่อการรักษาพยาบาลประชาชนต่อไป


2. ตู้ตรวจเชื้อแบบความดันบวก (Positive Pressure) จำนวน 1 ตู้ และตู้ตรวจเชื้อแบบความดันลบ (Negative Pressure) จำนวน 1 ตู้ เพื่อมอบให้กับโรงพยาบาลชุมแพ จังหวัดขอนแก่น

3. หน้ากากอนามัย N95 จำนวน 2,500 ชิ้น/ชุด Protective Cover All จำนวน 2,000 ชุด/ชุด Isolation Gown จำนวน 1,000 ชุด/และถุงมือยาง จำนวน 1,400 กล่อง สำหรับบุคลากรทางการแพทย์

นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ยังได้รับการสนับสนุนจากผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาค ตู้อบรังสี UVC สำหรับ อบหน้ากากจากกลุ่ม SOS to Medical Staff in COVID–19 แอลกอฮอล์ 75% สำหรับล้างมือ จากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จำนวน 5,000 ลิตร และแอลกอฮอล์ทำความสะอาด จำนวน 2,200 ลิตร จากบริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ดังกล่าว ได้ส่งมอบให้แก่โรงพยาบาล จำนวน 22 แห่ง ประกอบด้วย โรงพยาบาลสมุทรสาคร โรงพยาบาลปัตตานี โรงพยาบาลยะลา โรงพยาบาลกระบี่ โรงพยาบาลชะอวด โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ โรงพยาบาลราชบุรี โรงพยาบาลอุดรธานี โรงพยาบาลสุโขทัย โรงพยาบาลแม่ออน โรงพยาบาลชลบุรี โรงพยาบาลหลังสวน โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ โรงพยาบาลแม่สอด โรงพยาบาลบุรีรัมย์ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ โรงพยาบาลดอนเจดีย์ โรงพยาบาลสตูล โรงพยาบาลจะนะ โรงพยาบาลอรัญประเทศ โรงพยาบาลชุมแพ และ โรงพยาบาลบางพลี

“สำนักงาน คปภ. ขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่ทุ่มเทสรรพกำลังในการดูแลพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ รวมถึงครอบครัวของผู้ปฏิบัติงานที่เสียสละอย่างยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และขอขอบคุณศิษย์เก่าหลักสูตรวิทยาการประกันภัยระดับสูง (วปส.) รุ่น 1–9 กลุ่ม SOS to Medical Staff in COVID-19 บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ที่ร่วมแรงร่วมใจบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ในสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้ทุกคนก้าวผ่านวิกฤตการณ์โควิด-19 ไปด้วยกัน” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลไม่ให้ประกันผู้ต้องหาคดีตึก สตง.ถล่ม ส่งคุมขังเรือนจำ

16 พ.ค.- ศาลไม่ให้ประกัน “เปรมชัย” และผู้ต้องหาคดีตึก สตง.ถล่ม คุมตัวทั้งหมดเข้าเรือนจำ ชี้คดีมีความเสียหายใหญ่หลวง น่าสะพรึงกลัว กระทบสังคม ญาติและทนายความของผู้ต้องหาทั้งหมดได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฝากขัง ศาลได้ไต่สวนพนักงานสอบสวน ผู้ร้อง และผู้ต้องหา แล้วมีคำสั่งเมื่อเวลา 20.00 น. ว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับคดีนี้จนเกิดความเสียหายใหญ่หลวงน่าสะพรึงกลัว กระทบต่อสังคมอย่างยิ่ง ทั้งพนักงานสอบสวนและผู้เสียหายคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เกรงจะหลบหนียากแก่การติดตามตัว ทั้งคดีต้องสอบสวนพยานอีก 15 ปาก กรณีมีเหตุผลอันสมควรจะรอผลการสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อนแล้วค่อยพิจารณามีคำสั่งโดยละเอียดรอบคอบต่อไป ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา ยกคำร้อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป.-สำนักข่าวไทย

จับครบทีม 4 คนร้ายฆ่าเผานั่งยาง 3 ศพ-ฆ่าฝังดิน 1 ศพ

ตรัง 16 พ.ค. – ปิดคดีฆ่าเผานั่งยาง 3 ศพ และฆ่าฝังดิน 1 ศพ ในสวนปาล์ม จ.ตรัง ตำรวจจับครบแล้ว 4 คน โดย 2 คนสุดท้ายเพิ่งนำตัวลงมาจากเขา คนร้ายที่ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพ และฆ่าฝังดิน 1 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ทนแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่ไม่ไหว ล่าสุดยอมให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว เพราะกลัวจะถูกวิสามัญ โดย 2 คนแรกคือ นายศุภกรณ์ หรือ บิน หัวหน้าแก๊ง กับนายจรณชัย หรือ แต้ม ตำรวจควบคุมตัวได้ช่วงเช้ามืดวันนี้ ส่วนอีก 2 คนคือ นายปิยศักดิ์ หรือ แจ็ค และนายรพีพันธ์ หรือ เทือก ตำรวจเข้าควบคุมตัวได้ช่วงเย็นที่ผ่านมา ขณะที่หนีไปกบดานอยู่ในป่าบ้านถ้ำน้ำผุด อ.เมืองตรัง ซึ่งคือบ้านเกิดของนายแจ็ค […]

เปิดสัมพันธ์ลับ “ทิดแย้ม-สีกา”

16 พ.ค. – เปิดความสัมพันธ์ลับระหว่าง “ทิดแย้ม-สีกา” เริ่มตั้งแต่สีกายังเรียนหนังสือในโรงเรียนวัดไร่ขิง อดีตเจ้าอาวาสให้ความเมตตา จึงเอ่ยปากยืมเงิน 40 ล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนตั้งแต่ปี 2564 ความสัมพันธ์ระหว่างนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรืออดีตพระธรรมวชิรานุวัตร อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และเจ้าคณะภาค 14 หรือ ทิดแย้ม กับสีกา คือ น.ส.อรัญญาวรรณ ซึ่งได้ข้อมูลจากการสอบปากคำทั้ง 2 คน ตลอดคืน รวมถึงหลักฐานสำคัญในโทรศัพม์มือถือของทั้ง 2 คน ทำให้พบว่าความสัมพันธ์นี้ถึงขั้นลึกซึ้ง น.ส.อรัญญาวรรณ รับสารภาพว่ารู้จักกับทิดแย้มมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดไร่ขิง โดยอดีตเจ้าอาวาสขณะนั้นให้ความเมตตา จึงลองเอ่ยปากขอยืมเงิน 40 ล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนตั้งแต่ปี 2564 สอดคล้องกับที่ทิดแย้มให้การว่าได้โอนเงินไปให้กับ น.ส.อรัญญาวรรณ เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ช่วงปี 2564 นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบหลักฐานสำคัญคือ คลิปการสนทนาระหว่างทิดแย้ม และ น.ส.อรัญญาวรรณ ที่มีการพูดคุยถึงเรื่องการทวงเงินเพราะครบดีล ถึง 4 ครั้ง ครั้งละ 5 […]

เตรียมฝากขัง “อดีตเจ้าคุณแย้ม” พรุ่งนี้ ค้านประกันตัว

นครปฐม 16 พ.ค. – ตำรวจเตรียมคุมตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” ขออำนาจศาลฝากขัง พรุ่งนี้ (17 พ.ค.) พร้อมคัดค้านการประกันตัว หลังถูกกล่าวหายักยอกเงินวัดไปเล่นพนันออนไลน์ ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 06.30 น. นำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. นำหมายศาลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 4 จุด ประกอบด้วย ในวัดไร่ขิง 3 จุด และนอกวัดไร่ขิง 1 จุด เพื่อขยายผลค้นหาพยานหลักฐานในคดีที่พระธรรมวชิรานุวัตร หรืออดีตเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และเจ้าคณะภาค 14 ถูกกล่าวหาว่าทุจริตยักยอกเงินวัดไร่ขิง กว่า 300 ล้านบาท ไปเล่นการพนันออนไลน์ พื้นที่เป้าหมายสำคัญจุดแรกคือ กุฏิของอดีตเจ้าคุณแย้ม โดยเจ้าหน้าที่ได้อ่านหมายค้น มีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เป็นผู้รับหมายและนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น เบื้องต้นมีการยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งคอมพิวเตอร์ มือถือ รวมถึงเอกสารรายรับ-รายจ่าย 10 ลัง เกือบ […]