fbpx

DSI แจ้งข้อหาบุคลากรทางการแพทย์-เจ้าของสถานพยาบาล ลักลอบอุ้มบุญ

20 ต.ค. – DSI ดำเนินคดีบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าของสถานพยาบาล ลักลอบอุ้มบุญผิดกฎหมาย


​ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ได้ดำเนินคดีพิเศษที่ 236/2565 กรณีขบวนการลักลอบจัดหาหญิงไทยเพื่อรับจ้างตั้งครรภ์แทน (อุ้มบุญ) ให้กับผู้ว่าจ้างชาวต่างประเทศที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ในจังหวัดหนองคาย กรณีเด็กชายแทนไท (นามสมมติ) นั้น วันนี้ (20 ต.ค.) คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้รวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน โดยได้สอบสวนปากคำพยานที่เกี่ยวข้องจำนวน 29 ราย ได้ผลการตรวจสอบ พิสูจน์ วิเคราะห์วัตถุพยาน เอกสาร และข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และจากปฏิบัติการตรวจค้นสถานประกอบพยาบาลหลายแห่งในกรุงเทพมหานคร ที่ผ่านมา นำไปสู่พยานหลักฐานสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เชื่อมโยงไปยังบุคลากรทางการแพทย์ และบุคคลต่างชาติที่เป็นเจ้าของสถานพยาบาลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาแก่บุคลากรทางการแพทย์แล้ว จำนวน 1 ราย ส่วนอีก 1 ราย ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ อยู่ระหว่างการติดตามตัวให้มารับทราบข้อกล่าวหา

ก่อนหน้านี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศได้จับกุมผู้หญิงที่รับจ้างอุ้มบุญผิดกฎหมายแล้ว จำนวน 7 ราย ออกหมายจับนายหน้าจัดหาหญิงอุ้มบุญ จำนวน 3 ราย จับกุมได้แล้ว จำนวน 1 ราย คาดว่าจะสรุปสำนวนพร้อมความเห็นทางคดีส่งไปยังพนักงานอัยการ ภายในต้นเดือน พ.ย.นี้


ที่ผ่านมากรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสจากภาคประชาชนและได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กองกฎหมาย สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และแพทยสภา ด้วยการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และนำไปสู่มาตรการต่าง ๆ อาทิ การพักใบอนุญาต ถอนใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ เปรียบเทียบปรับ หรือ ปิดสถานพยาบาล เป็นต้น ​ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะยังคงขยายผลการสืบสวนสอบสวนจากคดีนี้ไปยังนายทุน ตัวการ และผู้ร่วมกระทำความผิดอุ้มบุญผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อป้องกันและปราบปรามไม่ให้ประเทศไทยเป็นแหล่งอุ้มบุญผิดกฎหมายข้ามชาติ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบสาธารณสุข และเป็นการทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง รวมทั้งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงด้านความปลอดภัยสาธารณะของประเทศ. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โผ ครม. “เศรษฐา 2” ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้

โผ ครม. เศรษฐา 2 ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้ เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่ พปชร. ยึด ก.เกษตรฯ ด้าน “สุชาติ” นั่ง รมช.พาณิชย์ พร้อมทาบ “พวงเพ็ชร” ที่ปรึกษานายกฯ โค้งสุดท้ายสลับ “สุดาวรรณ” นั่ง ก.วัฒนธรรม “เสริมศักดิ์” ไป ก.ท่องเที่ยวฯ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ข่าวแนะนำ

Made in Thailand แดนไทยเท่ : ภูเก็ตฟิตเนสมวยไทยซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์

ช่วง Made in Thailand แดนไทยเท่ วันนี้ จะพาไปที่จังหวัดภูเก็ต ที่นั่นมวยไทยไม่ได้เป็นแค่ศิลปะการต่อสู้เพื่อป้องกันตัว แต่ภูเก็ตยังเป็นแหล่งรวบรวมฟิตเนสมวยไทย ที่กำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ไปต่อยมวยเพื่อออกกำลังกาย จนทำให้มวยไทยกลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ส่งออกไปไกลทั่วโลก

ถกประเด็น กกต. กำหนดกรอบ สว. ห้ามหาเสียง ?

27 เม.ย. – คุยกับนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ประเด็นที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ออกคำสั่งเด็ดขาดให้ยกเลิกและยุติแคมเปญชักชวนคนมาสมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภา ชี้ผิดกฎหมาย รวมถึงการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ก็เป็นที่วิจารณ์อย่างกว้างขวาง .-สำนักข่าวไทย

ทหารอเมริกันยกพลเที่ยวเมืองพัทยาเงินสะพัด

พัทยาช่วงนี้คึกคัก เพราะทหารอเมริกันยกพลขึ้นบก บุกพัทยากว่า 6,000 คน ผู้ประกอบการยิ้มรับ คาดเงินสะพัดจำนวนมาก

จนท.นำหุ่นยนต์ 4 ขา ช่วยตรวจจับความร้อน

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย จ.ระยอง ก่อนที่ นายกฯ จะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนยังคงระดมกำลังหล่อเย็นพื้นที่โรงงาน ด้านตำรวจพิสูจน์หลักฐาน นำหุ่นยนต์โรบอท 4 ขา ช่วยตรวจจับสัญญาณความร้อน