กรุงเทพฯ 12 พ.ค. – “ชาญศิลป์” ทำงานวันสุดท้ายก่อนพ้นวาระซีอีโอ ร่วมลงนามกับ กฟผ.ศึกษาการพัฒนาโครงการสถานีนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว ( LNG Receiving Facilities ) รองรับโรงไฟฟ้าใหม่ภาคใต้กว่า 3 พันเมกะวัตต์ ตามแผน PDP2018 เสริมความมั่นคงทางพลังงานไทย
ในวันนี้ (12 พ.ค.) นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยนายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 2 รัฐวิสาหกิจหลักของประเทศที่มีพันธกิจในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือศึกษาโอกาสการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) หรือ LNG Receiving Facilities สำหรับรับเก็บและแปรสภาพก๊าซแอลเอ็นจีพื้นที่ภาคใต้ เพื่อสนับสนุนนโยบายและยุทธศาสตร์ของรัฐบาลและกระทรวงพลังงาน
นายชาญศิลป์ เปิดเผยว่า ตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP 2018) ฉบับใหม่นั้น ได้มีการบรรจุโรงไฟฟ้าภาคใต้ ซึ่งใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก ปตท.และ กฟผ.จึงศึกษาร่วมกันถึงความเป็นไปได้ของโครงการ LNG Receiving Facilities เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับจัดส่งก๊าซธรรมชาติให้กับโรงไฟฟ้าของ กฟผ.นับเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองหน่วยงานจะได้ใช้ศักยภาพ ความเชี่ยวชาญตลอดจนประสบการณ์ ทั้งด้านการจัดหาและบริหารจัดการพลังงาน รวมทั้งด้านการจัดหา ผลิต และส่งจ่ายกระแสไฟฟ้า มาร่วมกันพัฒนาความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ
นายวิบูลย์ กล่าวว่า การลงนามข้อตกลงนับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความร่วมมือของทั้ง 2 องค์กร เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่าความมั่นคงทางพลังงานของประเทศจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ในส่วนของโรงไฟฟ้าพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทยตามแผนดังกล่าว ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าขนอม (จังหวัดนครศรีธรรมราช) บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) กำลังผลิต 930 เมกะวัตต์, โรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ชุดที่ 1 – 2 กำลังผลิต 1,400 เมกะวัตต์ (จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ หรือ Commercial Operation Date : COD ปี 2570 และ 2572), โรงไฟฟ้าใหม่ (COD ปี 2578) กำลังผลิต 700 เมกะวัตต์. -สำนักข่าวไทย