กทม. 6 พ.ค. – หนึ่งในเมนูที่หลายคนรอคอยหลัง ศบค.ผ่อนคลายมาตรการระยะแรก น่าจะเป็นการนั่งกินสุกี้-ชาบู ที่ร้าน แต่เมื่ออยู่ในสถานการณ์โควิด-19 แบบนี้วิธีการให้บริการของแต่ละร้านต้องเปลี่ยนไป จะเป็นอย่างไร
ไม่ใช่ทุกคนที่อยากกินสุกี้-ชาบู ในช่วงโควิด-19 จะเดินเข้าไปที่ร้านแล้วจะนั่งกินได้ทันที แม้ ศบค.จะผ่อนคลายมาตรการระยะแรกให้สามารถนั่งกินที่ร้านได้ แต่ก็มีข้อกำหนดที่ร้านต้องปฏิบัติตาม ทั้งตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ นั่งเว้นระยะห่างกินได้ 1 คนต่อ 1 หม้อ โดยลูกค้าต้องจองคิว ไม่มีการยืนรอหน้า เปิดให้บริการเป็นรอบ มีช่วงพักทำความสะอาดฉีดยาฆ่าเชื้อ
ผู้บริหารร้านสุกี้ตี๋น้อย ยอมรับการเปิดให้ลูกค้านั่งกินที่ร้านได้ รายได้แทบไม่คุ้มทุน แต่เพื่อรักษาฐานลูกค้าและให้พนักงานมีงานทำ จึงเลือกเปิด 7 สาขาจาก 16 สาขา ที่มีความพร้อมด้านสถานที่เพื่อให้บริการ
ลูกค้ารายนี้มากับเพื่อน 3 คน แม้ปกติจะเป็นสายปิ้งย่าง แต่เมื่อเห็นทางร้านประกาศเปิดรับจองคิวจึงเลือกรอบแรกทันที แม้จะไม่ชินกับการนั่งกินสุกี้คนเดียว แต่การกินที่ร้านก็ได้บรรยากาศ และรู้สึกมั่นใจในมาตรการ
ด้วยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งค่าอุปกรณ์ ลูกน้อง และจำนวนลูกค้าที่รับได้ไม่ถึง 40 คนต่อวัน ทำให้ร้านเพนกวิน อีท ชาบู ต้องปรับรูปแบบฉากกั้นมากถึง 3 ครั้ง จนได้แบบที่ร้านคิดว่าน่าจะลงตัวที่สุด และปรับแผนธุรกิจใหม่เพื่อรองรับธุรกิจเดิม
หนึ่งในลูกค้าบอกว่า นี่เป็นการกินชาบูมื้อแรกในรอบ 2 เดือน ในช่วงโควิด-19 จากปกติจะออกมานั่งกินที่ร้านเกือบทุกสัปดาห์ ซึ่งเข้าใจและพร้อมปฏิบัติตามมาตรการ ยอมรับอาจจะแปลกๆ ไปบ้าง แต่เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
ชีวิตวิถีใหม่หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ใช่แค่กลุ่มลูกค้าที่ต้องปรับตัว แต่สำหรับผู้ประกอบการต่างต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อพยุงธุรกิจไปให้ได้ หรือบางรายเตรียมปรับธุรกิจรองรับสถานการณ์และหวังว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติโดยเร็ว. – สำนักข่าวไทย