บำราศนราดูร เหลือผู้ป่วยโควิด-19 อีกรายเดียว

สธ. 5 พ.ค.-กรมควบคุมโรค เผย 4 เดือนของการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 ขณะนี้สถาบันบำราศนราดูร เหลือผู้ป่วยแค่ 1 คน ย้ำการผ่อนปรนมาตรการขอให้ประชาชนยังเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ หวั่นระบาดระลอก 2 


นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึง การดำเนินงานของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19 ) ว่า ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมามีผู้ป่วยมารับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูรอย่างต่อเนื่อง ได้นำเทคโนโลยีกระบวนการรักษาแปลกใหม่มาใช้กับผู้ป่วยประสบความสำเร็จ การนำยาฟาวิพิราเวียร์ รวมถึงยาฉีดเรมเดซิเวียร์ ซึ่งตอนนี้ใช้ 7 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 2 คน ที่มีอัตราผู้ป่วยอายุหลากหลาย น้อยสุด 47 วัน มากสุด 83 ปี

ทั้งนี้ ห่วงการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ รวมถึงให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ต้องดำเนินชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ  แต่อาจมีโอกาสได้รับเชื้อเพิ่มได้อีก  จากข่าวที่ปรากฎคนแห่ซื้อเหล้า และการใช้บริการรถสาธารณะที่แออัด ไม่สามารรถปฏิบัติ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล หวั่นเกิดการระบาดระลอก2 


นพ.อภิชาติ วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กล่าวว่า  ขณะนี้เหลือผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รักษาตัวใน รพ.แค่ 1 คนเท่านั้น  และมีผู้ป่วยอยู่ในข่ายเฝ้าระวังในขณะนี้อีก10 คน ถือว่าสถานการณ์ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา โดยสถาบันบำราศนราดูรรับผู้ป่วยติดเชื้อผู้ป่วยเฝ้าระวังมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2563 จนถึงปัจจุบัน โดยมีผู้ป่วยในข่าย 5,062 คน และมีการติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 214 คน โดยสถาบันบำราศนราดูร ที่ผ่านมาศักยภาพในการรองรับผู้ป่วยมากถึง 300 คน แต่ในช่วงวิกฤติเคยมีผู้ป่วยมากสุด 800 คน ทำให้บริการไม่เพียงพอทั่วถึง เคยต้องต้มมาม่ากับไข่ให้ผู้ป่วยมาแล้ว ฉะนั้นต้องดูแลตนเองให้ดีไม่อยากให้มีสถานการณ์เช่นนี้อีก โดยผู้ป่วย 1 คนต้องใช้บุคลากรทางการแพทย์ไม่ต่ำกว่า 2 คน  

นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ รองผู้อำนวยการสถาบันบำราศราดูร ฝ่ายควบคุมโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล กล่าวว่า ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เฉลี่ย1คน รักษาตัวใน รพ. 2 สัปดาห์ โดยส่วนใหญ่ของผู้ป่วยอายุเฉลี่ย 21-30 ปี  เพศชายร้อยละ 60 หญิงร้อยละ 40 ขณะเดียวกับพบว่า อัตราการป่วย ร้อยละ 60 แสดงอาการน้อย ร้อยล 20 ปอดอักเสบเล็กน้อย ร้อยละ 19 อาการหนัก และร้อยละ 6 อาการหนักมาก หัวใจล้มเหลว และจากการรักษาพยาบาลพบว่า อัตราการเสียชีวิตใน รพ. พบแค่ร้อยละ 0.5


ส่วนอัตราการใช้ยารักษาในผู้ป่วยพบว่า 1 ใน 3 ไม่จำเป็นต้องใช้ยารักษาตามอาการ และ 2 ใน 3 ได้รับยาต้านไวรัส ซึ่งยาที่ใช้มี 3 กลุ่ม ได้แก่ ยาต้านไวรัสเอดส์ 2. ยารักษามาลาเรีย และรูมาตอยด์ และ 3. ยาฟาวิพิราเวียร์  ขณะเดียวกันเป็นที่น่ายินดีไม่พบปัญหาบุคลากรของรพ.ติดเชื้อโควิด-19.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยไม่มีคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าแอลเอ

นายกฯ เผย ไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุไฟป่าที่แอลเอ มีเพียงร้านอาหารไทยที่ได้รับความเสียหาย สั่ง กงสุลเปิดศูนย์ช่วยเหลือคนไทย

“เฉิน” ตัวการสำคัญฉกเงินคนจีนในไทย บงการอยู่ต่างประเทศ

คดีคนจีนหลอกฉกเงินคนจีน รวมมูลค่า 13 ล้านบาท ตำรวจตามไปพบรถคันก่อเหตุ และยึดเงินคืนมาได้ แต่ “อาเฉิน” ตัวการสำคัญ หนีออกนอกประเทศไปแล้ว

ทำเนียบฯ เตรียมสถานที่ต้อนรับเด็กและเยาวชน ร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ 2568

ทำเนียบรัฐบาล จัดเต็ม เตรียมสถานที่ต้อนรับเด็กและเยาวชน ร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ2568 เปิดหน้าทำงาน-นั่งเก้าอี้ นายกรัฐมนตรี สวมบทบาทโฆษกรัฐบาล “นิวส์จิ๋ว” อ่านข่าวภาคภาษาไทย และอังกฤษ พบขบวนมาสคอต “หมูเด้ง” และผองเพื่อน