เลย 1 พ.ค.-ผู้ว่าฯ เลย เปิดใจหลังปิดทองหลังพระจนโด่งดังในโลกออนไลน์ บอกคำชื่นชมถือเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้บ้านเมืองน่าอยู่
เรื่องราวความใจดีของผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เริ่มขึ้นเมื่อเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า รัชนาท วานิชสมบัติ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเล่าเรื่องราว เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2563 ว่า “สายๆ วันนี้พี่จะไปโรงรับจำนำแป๊บนึงนะ สิ้นประโยคของผู้ว่า ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า คนเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดจะไปโรงรับจำนำทำไม? งขออนุญาตท่านไปด้วย พอไปถึง ผู้ว่าฯก็ขออนุญาตพบผู้จัดการโรงรับจำนำเทศบาลเมืองเลย ผมนั่งฟังอยู่ห่างๆ จับใจความได้ว่า ผู้ว่าฯจะมาไถ่ของที่จำนำไว้ ที่เป็นอุปกรณ์ประกอบอาชีพ เช่น สว่านไฟฟ้า หินเจีย และอุปกรณ์ดำรงชีพ เช่น หม้อหุงข้าว ให้เจ้าของได้นำไปทำมาหากิน แต่ไม่ต้องบอกว่าใครเป็นคนไถ่ของให้ แต่บอกว่า หากจะตอบแทนให้ไปทำประโยชน์ให้กับสังคมแบบไหนก็ได้ที่ถนัดหรือถ้าวันหนึ่งลืมตาอ้าปากได้แล้ว ก็คืนค่าไถ่ของได้โดยโอนเงินเข้าบัญชีโรงพยาบาลเลย สมทบทุนสร้างตึก 10 ชั้นแทน” จากนั้นคนก็แห่แชร์ พร้อมแสดงความเห็นกันจำนวนมาก หลายคนก็ชื่นชมการทำงานแบบปิดทองหลังพระ
ผู้ว่าฯ ท่านนี้ คือ นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย คนที่ 49 และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สร้างความฮือฮาให้กับสังคม เมื่อแรกรับตำแหน่งผู้ว่าเมื่อช่วงปี 2560 ท่านผู้ว่าฯ ปั่นจักรยานไปทำงาน สร้างความฉงนสงสัยให้แก่ชาวบ้านแถบนั้น บางคนที่ไม่รู้ คิดว่าผู้ว่าฯ ท่านนี้เป็นครูเสียด้วยซ้ำ อีกครั้งที่เป็นข่าวโด่งดังในปี 2560 เช่นกัน เมื่อเปิดจวนเลี้ยงปีใหม่พนักงานที่ดูแลความสะอาดเทศบาลเมืองเลย เจ้าหน้าที่แขวงการทางเลยและเจ้าหน้าที่ อส. อาทิ คนเก็บขยะ คนขับรถดับเพลิง คนงานลอกท่อและคนกวาดถนนตอบแทนความเสียสละ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• ย้อนชมวิถีชีวิตสุดเรียบง่าย ผู้ว่าฯ เลย
และในปี 2562 ก็เป็นข่าวน่ารักๆ อีกครั้ง เมื่อผู้ว่าใส่ชุดนักเรียน ปั่นจักรยานออกมาจากจวนร่วมงานกับเด็กที่หน้าศาลากลาง อีกทั้งยังจัดรถไปรับลูกของคนสำคัญในจังหวัดเลย ซึ่งเป็นเด็ก 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกเป็นลูกของ อส. ที่ทำงานเก็บขยะดูแลความสะอาดถนน กลุ่มที่ 2 เป็นลูกของกลุ่มแม่บ้านทำความสะอาดศาลากลางจังหวัด กลุ่มที่ 3 เด็กป่วย ร่างกายเริ่มแข็งแรง แต่ยังต้องพักอยู่โรงพยาบาลเลย
โครงการทุนจุฬาฯ ชนบท ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยหยิบยกเอาชีวิตของท่านผู้ว่าชัยวัฒน์ มาเล่าผ่านหนังสั้นของโครงการ พบว่าประวัติชีวิตของท่านต่อสู้มาแบบโชกโชนไม่ต่างอะไรประชาชนคนอื่น
ผู้ว่าฯ เลย คนนี้ มีชื่อเล่นว่า ติ๊ก เกิดอยู่ที่บ้านบุงคล้า หมู่ 5 ต.วังสะพุง อ.วังสะพุง จ.เลย ครอบครัวเป็นชาวบ้านทำไร่-ทำนา จบการศึกษาชั้น ป. 4 ที่โรงเรียนบ้านวังสะพุง และ ป.5 ป.6 ต้องย้ายมาที่โรงเรียนชุมชนวังสะพุง โดยเกรดระดับกลางๆ และไม่ได้เรียนต่อในชั้นมัธยม เนื่องจากที่บ้านยากจนจากอยู่ที่หมู่บ้านก็ย้ายเข้ามาขอวัดอาศัยอยู่ในตัวเมือง จ.เลย ช่วยงานวัดเพื่อตอบแทนข้าวก้นบาตร และออกรับจ้างทำงานทุกอย่างสารพัดไม่ว่าเป็นเด็กรถ หรือปั่นสามล้อรับจ้าง เอาแรงเข้าแลกเงินแต่ก็เรียนศึกษาผู้ใหญ่ภาคค่ำจนคว้าโอกาสได้เรียนระดับมหาวิทยาลัยหลังจากจบปริญญาตรี รัฐศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็เข้ารับราชการเป็นพัฒนากรช่วยเหลือชุมชนอยู่ตามหมู่บ้าน จนปี 2535-2546 ปลัดอำเภอ จังหวัดหนองคาย และเติบโตโยกย้ายตามวาระ จนมาเข้ารับตำแหน่ง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2560
“ผู้ว่าติ๊ก” หรือ “พ่อบักตาว” มีบุคลิกเรียบๆ สบายๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตอง กินง่าย อยู่ง่าย เข้ากับชาวบ้านได้อย่างดี มักพูดจาภาษาท้องถิ่น ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ทำให้เป็นที่รักของชาวบ้าน การบริหารงานราชการจังหวัด จึงได้รับความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชนด้วยดีเสมอมา
หลังจากข่าวล่าสุดที่โรงรับจำนำเผยแพร่จนเกิดเสียงชื่นชมนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เปิดเผยว่า คำชื่นชมถือเป็นกำลังใจให้ตนได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้บ้านเมืองเราน่าอยู่ ทุกคนทุกภาคส่วนที่กำลังเผชิญวิกฤติอยู่ในขณะนี้ กำลังถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต่างคนต่างต้องมีให้ซึ่งกันและกัน เพื่อฝ่าฝันวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน ทุกคนมีส่วนร่วมในเสียงชื่นชมครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่เจ้าหน้าที่ อมส. อพปร. ภาครัฐและเอกชน โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ความสงบสุขของประชาชน.-สำนักข่าวไทย
