ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ขอบคุณทุกฝ่าย “ปิดทองหลังพระ” ช่วยพาคนกลับบ้าน

ปิดทองหลังพระ

14 เม.ย.- ข้าราชการ-กู้ภัยจิตอาสา ทำงาน 100% ช่วงสงกรานต์ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ขอบคุณทุกฝ่าย “ปิดทองหลังพระ” ช่วยพาคนกลับบ้าน


(14 เม.ย. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าสถานการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่กรุงเทพมหานครว่า ตอนนี้ปฏิบัติการค้นหาก็เป็นไปด้วยความก้าวหน้าที่ดี เมื่อวานนี้เรามีการพบ 4 ร่าง รวมจำนวนผู้เสียชีวิตเป็น 41 ราย ตอนนี้ความสูงก็ลดลงมาอยู่ประมาณ 20.5 เมตร จากเดิม 26 เมตร เราเริ่มทำงานด้านบนได้ดีขึ้น ขณะนี้มีหลักฐานว่าจุดที่พบผู้เสียชีวิตอยู่ประมาณชั้น 24 ถึงชั้น 29 เป็นจุดที่มีคนงานอยู่เยอะ คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้จะพบผู้ประสบภัยเพิ่มขึ้นในจุดดังกล่าว เข้าใจว่าจากการสังเกตการณ์ชั้นสูงคนที่ทำงานอยู่อาจจะหนีออกไปทางหนีไฟไม่ทัน เพราะว่าอาคารโยกเยอะ เมื่อถล่มผู้ประสบภัยอาจอยู่บริเวณนั้นมากกว่าที่จะลงไปทางหนีไฟ ตอนนี้โฟกัสด้านบนที่เป็นชั้นที่มันพังลงมา และโซน B บีกับ C ซึ่งเป็นทางหนีไฟและเป็นโถงลิฟท์ ในส่วนกำหนดการรื้อถอน ตั้งเป้าหมายแล้วเสร็จปลายเดือนนี้

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวต่อไปว่า การดำเนินการก็เป็นไปด้วยดี ไม่มีอุปสรรคอะไร ประเด็นเรื่องจำนวนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน คือ ราชการอยู่ 100% เท่าเดิม เจ้าหน้าที่ของ กทม. เองก็วันละ 500 คน ในส่วนภาคเอกชนเองที่มีภารกิจอื่นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เราก็ให้เกียรติทางภาคเอกชนว่าหากจำเป็นต้องสลับกำลังไปดูแลที่อื่นก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าหมดภารกิจช่วงสงกรานต์แล้วจะกลับมาช่วยก็ได้ ไม่มีปัญหา ย้ำว่า ไม่ได้ขาดคนเดินหน้าต่อ ด้านอุปกรณ์ต่าง ๆ อะไหล่ สายไฮดรอลิก น้ำมันไฮดรอลิก น้ำมันเครื่อง ก็เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ตอนนี้เราใช้น้ำมันประมาณวันละ 5100 ลิตร


“ขอบคุณอาสาทุกคนที่วันหยุดก็ไม่ได้หยุด มาช่วยงาน หลายคนก็ทำงานปิดทองหลังพระไม่มีใครเห็นหน้า แต่ก็ทำเต็มที่ อยากจะช่วยพาทุกคนกลับบ้าน” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

ด้าน นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันยอดผู้ประสบเหตุจากอาคารถล่ม เขตจตุจักร ณ เวลา 16.00 น. มีจำนวน 103 ราย เสียชีวิต 41 ราย (ค้นพบและยืนยันเพิ่มขึ้น 4 ราย จากวานนี้) บาดเจ็บ 9 ราย คง เหลืออยู่ระหว่างติดตามอีก 53 ราย

สำหรับการปฏิบัติงานตลอดคืนที่ผ่านมา ได้เพิ่มการฉีดน้ำลดฝุ่นละอองขณะเครื่องจักรกำลังทำงาน ตามโซน A B C D และบริเวณด้านบนของกองซากอาคารเนื่องจากฝุ่นละอองรบกวนขณะปฏิบัติงาน ลดระยะเวลาในการนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากที่เกิดเหตุ เพื่อเพิ่มช่วงเวลาในการทำงานของเครื่องจักร และทีม USAR วิเคราะห์ข้อมูลจากสภาพของอาคารที่ถล่มเพื่อกำหนดจุดให้เครื่องจักรหนักทำการค้นหา


ส่วนการปฏิบัติงานในวันนี้ ดำเนินการใช้เครื่องจักรหนักขุดสกัดคอนกรีตและตัดเหล็กเส้นเปิดโดยรอบซากอาคารพร้อมกันทั้ง 4 โซน เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบภัยและทรัพย์สิน หากพบร่างหรือชิ้นส่วนอวัยวะจะหยุดเครื่องจักรและให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการตัดเหล็ก ขุดและย้ายร่างเพื่อนำส่งนิติเวชต่อไป และดำเนินการขนย้ายเศษเหล็กและเศษวัสดุออกจากพื้นที่ไปควบคู่กันต่อเนื่องไปถึงช่วงเวลา 05.00 น. ของวันที่ 15 เมษายน 2568 ก่อนที่จะให้ทีมค้นหารวมทั้ง K9 เข้าพื้นที่เพื่อทำการค้นหาร่างอวัยวะและทรัพย์สินทั่วพื้นที่อีกครั้ง

สำหรับการเยียวยาตามระเบียบ กทม. ว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ประสบภัย พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2564 มีผู้ประสบภัยแจ้งความประสงค์มาแล้ว 23,888 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 14 เม.ย.68 เวลา 15.00 น.) เขตที่มีผู้มาแจ้งสูงสุด ได้แก่ เขตจตุจักร 3,205 ราย เขตห้วยขวาง 2,588 ราย เขตบางซื่อ 2,501 ราย เขตภาษีเจริญ 2,104 ราย และเขตธนบุรี 1,219 ราย โดยสำนักงานเขตทุกเขต ได้เริ่มทยอยนัดหมายเจ้าของอาคาร ลงสำรวจและประเมินความเสียหายอาคารที่ได้รับความเสียหายแล้วตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.68 เป็นต้นมา โดยในช่วงสงกรานต์นี้ก็ไม่ได้หยุด แต่พบว่าเจ้าของอาคารส่วนใหญ่ไม่อยู่บ้าน จึงขอแนะนำว่าหากท่านกลับมาแล้วสามารถติดต่อสอบถามกับสำนักงานเขตได้ทันที ทั้งนี้ ผู้ประสบภัยสามารถแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานเขตพื้นที่ทุกแห่ง ภายใน 30 วัน นับแต่วันเกิดเหตุ (ภายในวันที่ 27 เมษายน 2568) โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาอำนวยความสะดวก รับแจ้งความที่สำนักงานเขต ทั้ง 50 เขต ในเวลาราชการ โดยการประเมินจะอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการระดับเขตพื้นที่ ซึ่งเป็นหน่วยดำเนินการสำรวจและประเมินความเสียหายโดยรายงานไปยังสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร เพื่อขอรับเงินช่วยเหลือมายังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยต่อไป. 417.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น้ำสายทะลักท่วมหลายชุมชน อ.แม่สาย จ.เชียงราย

เชียงราย 24 พ.ค.-ฝนตกหนักเกือบทั้งคืน แม่น้ำสายทะลักท่วมหลายชุมชน อ.แม่สาย จ.เชียงราย กลางดึก บางจุดสูงถึง 1 เมตร ส่วนบริเวณใต้สะพานพรมแดนไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 น้ำล้นบิ๊กแบ็กทะลักท่วมชุมชนริมน้ำเช่นกัน ฝนตกหนักเกือบทั้งคืน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายสูงขึ้น จนล้นพนังกั้นน้ำเข้าท่วมหลายชุมชน เช่น บ้านถ้ำผาจม ตลาดสายลมจอย ตลาดน้อยเหมืองแดง ชุมชนเหมืองแดง ชุมชนไม้ลุงขน ชุมชนเกาะทราย โดยน้ำจากแม่น้ำสายได้เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนเป็นวงกว้าง บางจุดสูง 50 เซ็นติเมตร ถึง 1 เมตร น้ำได้ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนกลางดึกแบบไม่ทันตั้งตัว หลายหลังเข้าท่วมภายในบ้าน จนต้องตื่นมาขนของมีค่าหนีน้ำกลางดึก ขณะที่บริเวณใต้สะพานพรมแดนไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ระดับน้ำในแม่น้ำสายสูงขึ้นจนล้นพนังกั้นน้ำจากกระสอบทรายบิ๊กแบ็คบนถนนลอดใต้สะพาน ทะลักไหลเข้าพื้นที่ชั้นในขยายเป็นวงกว้างออกไปหลายชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำสาย และเป็นพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมอย่างหนักเมื่อปีที่ผ่านมา ล่าสุดระดับน้ำยังคงท่วมสูง และมีแนวโน้มว่าน้ำจะยังคงสูงขึ้นได้อีก เนื่องจากพื้นที่ต้นน้ำในประเทศเมียนมาฝนยังตกหนัก.-สำนักข่าวไทย

เร่งระบายน้ำหลุมเสาเข็ม หากไม่มีฝนจะนำร่างขึ้นมาได้วันนี้

กทม. 24 พ.ค.-เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำออกจากหลุมเสาเข็ม และเพิ่มแผ่นชีทไพล์ชั้นที่ 4 คาดหากไม่มีฝน จะนำร่างคนงานขึ้นมาได้วันนี้ นายเพช็ร ภุมมา ผอ.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ให้ข้อมูลความคืบหน้า โดยเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่พยายามนำเครื่องสูบน้ำมาระบายน้ำออกจากหลุมเสาเข็ม เนื่องจากเมื่อวานฝนตกหนักทำให้มีน้ำท่วมภายในหลุมและบริเวณรอบ และทำให้แผ่นชิทไพล์ที่ทำไว้ 3 ชั้น แตก ในวันนี้จึงต้องกั้นใหม่เป็นชั้นที่ 4 โดยกั้นลึกกว่าเดิม 2 เมตรเป็น 9.5 เมตร จากเดิม 7.5 เมตร หากวันนี้ไม่มีฝนตกคาดว่าจะนำร่างขึ้นมาได้ โดยเมื่อวานนี้มีสัญญาณดี คือเจอถุงมือที่มีชิ้นเนื้อติดขึ้นมาด้วย แต่ยังไม่เจอร่างทั้งหมด แต่คาดว่าร่างจะอยู่ในกรอบที่เรากำหนดไว้ ถ้าวันนี้ไม่มีอุปสรรคอะไรก็จะสามารถนำร่างขึ้นมาได้ โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะเดินทางมาติดตามสภานการณ์ด้วย.-420.-สำนักข่าวไทย

เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 24 พ.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฉบับที่ 7 ทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก ถึง 27 พ.ค.นี้ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 7 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 24-27 พฤษภาคม 2568) ในช่วงวันที่ 24-27 พฤษภาคม 2568 ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับจะมีร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้วันที่ 24 พฤษภาคม 2568ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ […]

ศาลพิพากษาคดีแตงโม จบไหม… หรือไปต่อ ?

23 พ.ค. – วันนี้มีความเคลื่อนไหวของคดีที่หลายๆ คนติดตามกัน คือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ที่ศาลจังหวัดนนทบุรียกฟ้อง หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปอีก จะจบลงแค่นี้หรือไม่ ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย