สธ.1 พ.ค.-สธ.เผยยอดผู้ป่วยในรอบสัปดาห์นี้ลดลงต่อเนื่อง วอนยึดการปฏิบัติตนอย่างเข้มข้นหลังมาตรการผ่อนปรน “เว้นระยะห่าง-ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า” เพื่อไม่เพิ่มผู้ป่วยรายใหม่ พร้อมเตือนช่วงวันหยุดยาวนี้ งดเดินทางลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ
บ่ายวันนี้ (1พ.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ในประเทศถือว่าควบคุมได้ดี ในสัปดาห์นี้จำนวนผู้ป่วยลดลงต่อเนื่อง วันนี้พบผู้ป่วยรายใหม่น้อยที่สุดในช่วงเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา ไม่มีผู้เสียชีวิต รักษาหายกลับบ้านแล้วร้อยละ 92 ยังคงมีผู้ป่วยในโรงพยาบาลเพียง 187 คนเท่านั้น ซึ่งถือว่ามีอัตราการรักษาหายที่สูงและอัตราป่วยตายต่ำ
แต่เนื่องจากยังมีการระบาดอยู่ทั่วโลก ดังนั้น มาตรการที่จะนำคนไทยกลับบ้านหรือรับแรงงานประเทศเพื่อนบ้านกลับมาทำงานต้องรอบคอบ รัดกุม ยังคงต้องตรวจคัดกรอง หากพบมีไข้มีอาการระบบทางเดินหายใจจะส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการจะกักตัวสังเกตอาการในสถานที่ที่รัฐบาลจัดไว้ 14 วัน วัดไข้ทุกวัน และตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนให้กลับไปทำงานและใช้ชีวิตตามปกติ
นพ.โสภณ กล่าวต่อไปว่า จากการที่รัฐบาลเริ่มผ่อนปรนมาตรการให้ประชาชนทำกิจกรรม และผู้ประกอบการเปิดกิจการได้ในบางกิจการที่เริ่มวันที่ 3 พฤษภาคม 2563 นั้น จากการศึกษาบทเรียนของต่างประเทศที่ใช้มาตรการผ่อนปรนพบว่า ก่อนที่จะผ่อนปรนผู้ป่วยเริ่มคงที่ ผู้ป่วยรายใหม่ 1 คนแพร่เชื้อได้ 0.7 คน แต่หลังจากผ่อนปรนไป 2 สัปดาห์พบว่าการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้นคือผู้ป่วย 1 คนแพร่เชื้อได้ 1 คน และมีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ดังนั้น ประเทศไทยจะต้องติดตามเฝ้าระวังใกล้ชิดระยะ 2 สัปดาห์หลังจากผ่อนปรนแล้ว เพื่อประเมินว่ามีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นหรือไม่ เพื่อปรับมาตรการให้เหมาะสม ซึ่งหัวใจสำคัญของการผ่อนปรนและป้องกันไม่ให้มีผู้ป่วยรายใหม่ คือการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยป้องกันแพร่เชื้อ
นพ.โสภณ กล่าวด้วยว่า ในวันหยุดยาวสัปดาห์หน้านี้ ขอย้ำว่าถ้ามีการรวมกลุ่มจำนวนมาก และมีการเดินทางเคลื่อนย้ายข้ามพื้นที่ จะมีความเสี่ยงเกิดการแพร่ระบาดของโรคได้ สำหรับผู้ที่เดินทางขอให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด คือสวมหน้ากากผ้า ล้างมือบ่อยๆ ไม่รวมกลุ่ม เว้นระยะห่าง กินร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนตัว แยกห้องพัก เมื่อไปถึงบ้าน ไม่กอดหรือใกล้ชิดกับผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว ส่วนผู้ที่ไม่ได้เดินทางขอให้อยู่บ้าน เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อ .-สำนักข่าวไทย