ลุ้น ครม.เคาะเยียวยาเกษตรกร 5 พัน 3 เดือน

กรุงเทพฯ 28 เม.ย.-เกษตรฯ เสนอ ครม.เห็นชอบเยียวยาเกษตรกร 5,000 บาท 3 เดือน เป้าหมาย 10 ล้านราย ครอบคลุมพืช ประมง ปศุสัตว์   


ครม.เตรียมพิจารณาโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตามที่กระทรวงการคลังจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมให้ความเห็นชอบวันนี้ โดยกระทรวงเกษตรฯ ส่งทะเบียนเกษตรกรให้กระทรวงการคลังแล้ว มีเป้าหมายช่วยเหลือเกษตรกร 10 ล้านราย โดยอาจแบ่งจ่ายเงินเยียวยาเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ตรวจสอบความถูกต้องของทะเบียนเกษตรกรแล้ว ส่วนกลุ่มที่อาจได้รับเงินภายหลังเป็นกลุ่มเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนใหม่และกลุ่มที่ต้องตรวจสอบไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการรับสิทธิ์ช่วยเหลือ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ประชุม ครม.วันนี้ (28 เม.ย.) จะมีการพิจารณาแผนงานโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอตามบัญชีท้าย พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 พ.ศ. 2563 ภายใต้แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเยียวยาและชดเชยให้ประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ

ทั้งนี้ มีรายงานว่านายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงนามเมื่อวันที่ 22 เมษายนในหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอข้อมูลเกษตรกรที่ขอรับความช่วยเหลือ โดยระบุว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรขึ้นทะเบียนกับ 3 หน่วยงาน คือ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมปศุสัตว์ และกรมประมง แต่ละหน่วยงานปรับปรุงข้อมูลส่งให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แล้ว 8.43 ล้านราย แต่มีกลุ่มเกษตรกรที่กรมส่งเสริมการเกษตรตรวจสอบและปรับปรุงทะเบียนเพิ่มในกลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ยางพารา อ้อยโรงงาน ยาสูบ และอื่น ๆ คาดว่ามีประมาณ 1.57 ล้านราย จะเสร็จวันที่ 15 พฤษภาคม เพื่อใช้เป็นฐานการพิจารณาช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังจะกำหนดต่อไป 


สำหรับโครงการช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากการระบาดที่เกิดขึ้นหลายประเทศส่งผลให้มีการปิดเส้นทางการขนส่ง ตลอดจนภายในประเทศมีข้อจำกัดในการขนส่งข้ามพื้นที่ ตลาดปิดตัว เกษตรกรขายผลผลิตได้ไม่ดีเท่าที่ควร รายได้ลดลงจนไม่พอเลี้ยงครอบครัว ซึ่งการเยียวยาจะทำให้เกษตรกรเป็นความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อเกษตรกรและครอบครัว ตลอดจนเป็นผลต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมอีกด้วย

สำหรับการเยียวยาจะจ่ายเงินให้เกษตรกรโดยตรง รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน รวมวงเงิน 150,000 ล้านบาท แก่เกษตรกที่ขึ้นทะเบียนทั้งสิ้น 10 ล้านราย โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะแรก คือ เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ปลูกพืช 6,196,915 ราย กรมปศุสัตว์ 1,600,155 ราย กรมประมง 637,633 ราย รวม 8,434,703 ราย ทั้งนี้ สำหรับกรมส่งเสริมการเกษตรขึ้นทะเบียนเป็นครัวเรือน ดังนั้น “ราย” จึงหมายถึง “รายหัวหน้าครัวเรือน” ระยะที่ 2 คือ เกษตรกรที่อยู่ระหว่างให้กรมส่งเสริมการเกษตรตรวจสอบและปรับปรุงข้อมูล 1,565,257  ล้านราย รวม 10 ล้านราย 

ส่วนวิธีดำเนินงานนั้น กระทรวงเกษตรฯ ส่งข้อมูลเกษตรกรให้ ธ.ก.ส.ภายในเดือนพฤษภาคม จากนั้นธ.ก.ส.ตรวจสอบ เพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนทะเบียนเกษตรกรและการช่วยเหลือโครงการเราไม่ทิ้งกันภายในเดือนมิถุนายน ซึ่ง ธ.ก.ส.จะเริ่มจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม ทั้งนี้ แผนการเบิกจ่ายแต่ละเดือน 50,000 ล้านบาท ทั้งนี้ การจ่ายเงินช่วยเหลือตามกลไกของ ธ.ก.ส.ต้องสามารถตรวจสอบได้ รวมทั้งต้องมีระบบอุทธรณ์กรณีมีผู้ร้องว่าเป็นผู้ตกหล่น โดยแจ้งขอตรวจสอบรายชื่อต่อหน่วยงานที่ลงทะเบียน 

ข้อมูลทะเบียนเกษตรกรที่สามารถจ่ายเงินช่วยเหลือระยะแรก ได้แก่ ผู้ที่ขึ้นทะเบียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตร กรมปศุสัตว์ และกรมประมง ที่ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในทะเบียน รวมถึงไม่มีการลงทะเบียนเกษตรกรซ้ำซ้อนในหลายหน่วยงาน อีกทั้งต้องไม่ซ้ำซ้อนกับผู้ได้รับสิทธิ์โครงการเราไม่ทิ้งกัน ส่วนที่อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล ได้แก่ ส่วนที่ดำเนินการโดยกรมประมงแบ่งเป็น ทบ. 3 ทะเบียนชาวประมง คือ ประมงพื้นบ้าน ประมงชายฝั่ง และประมงพาณิชย์ 120,365 ราย ส่วนผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่คาดว่า ไม่อยู่ในฐานข้อมูลประมาณ 20,000 ราย เกษตรกรชาวสวนยางที่แจ้งข้อมูลผู้ปลูกยาง แต่เป็นบัตรสีชมพูซึ่งเป็นที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ 390,868 ราย อ้อย 480,000 ราย และอื่น ๆ ได้แก่ หม่อนไหม ยาสูบ นาเกลือ เป็นต้น 642,258 ราย

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ ครม.จะเห็นชอบการจ่ายเงินเยียวยาเป็นรายเดือน ๆ ละ 5,000 บาท หรือจ่ายให้ 3 เดือนรวม 15,000 บาทในคราวเดียว ขึ้นกับการดำเนินการกู้เงินของกระทรวงการคลัง ซึ่งมีรายงานว่าเมื่อ ครม. มีมติแล้ว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้แถลงรายละเอียดของการดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรตามโครงการของรัฐบาลด้วยตนเอง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลพิพากษายกฟ้อง “แซน-กระติก-จ๊อบ” ฐานประมาท คดีแตงโม

นนทบุรี 23 พ.ค. – ศาลนนทบุรี พิพากษายกฟ้อง “แซน-กระติก-จ๊อบ” ฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต คดีแตงโม ศาลจังหวัดนนทบุรี อ่านคำพิพากษาคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ.292/1566 (คดีหมายเลขแดง อ.769/2568) ที่พนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี โจทก์ และนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน โจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายวิศาพัช หรือ แซน มโนมัยรัตน์ กับพวกรวม 4 คน เป็นจำเลยที่ 1-4 คดีนี้พนักงานอัยการเป็นโจทก์หลัก โดยมีนางภนิดา เป็นโจทก์ร่วม ฟ้องจำเลยในความผิดฐานประมาท, แจ้งความเท็จ และทำลายหลักฐาน กรณีแตงโมตกเรือสปีดโบ๊ทจมแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 หรือกว่า 3 ปีที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งในชั้นสอบสวน และชั้นศาล จำเลยทั้ง 4 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้เป็นการต่อสู้กันในข้อหาประมาท ซึ่งทราบว่าอัยการที่เป็นโจทก์หลักได้บรรยายฟ้องถึงพฤติกรรมของจำเลยทั้ง 4 […]

ค้นหาคนงานตกหลุมเสาเข็มคืบ พบร่องรอยร่างใต้ดิน เดินหน้าขุดต่อ

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – ผู้ว่าฯ กทม. เผยความคืบหน้าการค้นหาคนงานตกหลุมเสาเข็ม พบร่องรอยร่างใต้ดิน เป็นกลิ่นและไขมัน แต่ยังไม่มั่นใจว่าใช่ เดินหน้าขุดต่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามปฏิบัติการค้นหาคนงานพลัดตกหลุมระหว่างการรื้อถอนเสาเข็มสะพานลอยเดิม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสถานีหลานหลวง โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ทีมทำการค้นหาถึงประมาณตี 2 กว่า คาดว่าพบร่องรอยของคนงานที่ตกลงไป โดยเป็นกลิ่นและไขมัน แต่ยังไม่มั่นใจว่าใช่ เพราะตอนนี้ยังขุดไปไม่ถึง ได้ใช้เหล็กแหย่ลงไปก่อน พบลักษณะดินแตกต่างจากปกติ สำหรับปัญหาเมื่อคืนนี้ คือ มีท่อน้ำรั่ว กำลังทำการแก้ไข ส่วนดินมีการสไลด์ตัวบ้าง ต้องใช้แผ่นเหล็กค้ำยันป้องกันใกล้เคียงทรุดตัว โดยขณะนี้ขุดลึกลงไปประมาณ 9 เมตรแล้ว คาดว่าวันนี้น่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้น.-420.-สำนักข่าวไทย

เด้งนายอำเภอปลายพระยา เซ่นจับบ่อนใหญ่กลางสวนปาล์ม

กระบี่ 23 พ.ค.- อธิบดีกรมการปกครอง ลงนามสั่งเด้งนายอำเภอปลายพระยา เซ่นจับบ่อนใหญ่กลางสวนปาล์ม อธิบดีกรมการปกครอง ลงนามในคำสั่งให้ นางนันทิชา เกิดแก้ว นายอำเภอปลายพระยา จ.กระบี่ ช่วยราชการ ที่วิทยาลัยการปกครอง ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป หลังจากช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “บองหลาไฟ” บุกทลายบ่อนกลางสวนปาล์ม พื้นที่ ต.เขาต่อ อ.ปลายพระยา จับกุมนักพนันได้กว่า 70 คน เบื้องต้นพบว่าบ่อนดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนกว่า 12 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนนักพนันทั้งหมด เจ้าหน้าที่นำตัวส่งศาลแพ่งจังหวัดกระบี่ ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว .-สำนักข่าวไทย

จับตาศาลชี้ชะตา “คดีแตงโม” จำเลยมาตามนัดพร้อมเพรียง

นนทบุรี 23 พ.ค.- ศาลจังหวัดนนทบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นคดีการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม ภัทรธิดา” ขณะที่จำเลยต่างเดินทางมาศาลอย่างพร้อมเพรียง. -สำนักข่าวไทย