ลุ้น ครม.เคาะเยียวยาเกษตรกร 5 พัน 3 เดือน

กรุงเทพฯ 28 เม.ย.-เกษตรฯ เสนอ ครม.เห็นชอบเยียวยาเกษตรกร 5,000 บาท 3 เดือน เป้าหมาย 10 ล้านราย ครอบคลุมพืช ประมง ปศุสัตว์   


ครม.เตรียมพิจารณาโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตามที่กระทรวงการคลังจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมให้ความเห็นชอบวันนี้ โดยกระทรวงเกษตรฯ ส่งทะเบียนเกษตรกรให้กระทรวงการคลังแล้ว มีเป้าหมายช่วยเหลือเกษตรกร 10 ล้านราย โดยอาจแบ่งจ่ายเงินเยียวยาเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ตรวจสอบความถูกต้องของทะเบียนเกษตรกรแล้ว ส่วนกลุ่มที่อาจได้รับเงินภายหลังเป็นกลุ่มเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนใหม่และกลุ่มที่ต้องตรวจสอบไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการรับสิทธิ์ช่วยเหลือ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ประชุม ครม.วันนี้ (28 เม.ย.) จะมีการพิจารณาแผนงานโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอตามบัญชีท้าย พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 พ.ศ. 2563 ภายใต้แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเยียวยาและชดเชยให้ประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ

ทั้งนี้ มีรายงานว่านายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงนามเมื่อวันที่ 22 เมษายนในหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอข้อมูลเกษตรกรที่ขอรับความช่วยเหลือ โดยระบุว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรขึ้นทะเบียนกับ 3 หน่วยงาน คือ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมปศุสัตว์ และกรมประมง แต่ละหน่วยงานปรับปรุงข้อมูลส่งให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แล้ว 8.43 ล้านราย แต่มีกลุ่มเกษตรกรที่กรมส่งเสริมการเกษตรตรวจสอบและปรับปรุงทะเบียนเพิ่มในกลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ยางพารา อ้อยโรงงาน ยาสูบ และอื่น ๆ คาดว่ามีประมาณ 1.57 ล้านราย จะเสร็จวันที่ 15 พฤษภาคม เพื่อใช้เป็นฐานการพิจารณาช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังจะกำหนดต่อไป 


สำหรับโครงการช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากการระบาดที่เกิดขึ้นหลายประเทศส่งผลให้มีการปิดเส้นทางการขนส่ง ตลอดจนภายในประเทศมีข้อจำกัดในการขนส่งข้ามพื้นที่ ตลาดปิดตัว เกษตรกรขายผลผลิตได้ไม่ดีเท่าที่ควร รายได้ลดลงจนไม่พอเลี้ยงครอบครัว ซึ่งการเยียวยาจะทำให้เกษตรกรเป็นความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อเกษตรกรและครอบครัว ตลอดจนเป็นผลต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมอีกด้วย

สำหรับการเยียวยาจะจ่ายเงินให้เกษตรกรโดยตรง รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน รวมวงเงิน 150,000 ล้านบาท แก่เกษตรกที่ขึ้นทะเบียนทั้งสิ้น 10 ล้านราย โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะแรก คือ เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ปลูกพืช 6,196,915 ราย กรมปศุสัตว์ 1,600,155 ราย กรมประมง 637,633 ราย รวม 8,434,703 ราย ทั้งนี้ สำหรับกรมส่งเสริมการเกษตรขึ้นทะเบียนเป็นครัวเรือน ดังนั้น “ราย” จึงหมายถึง “รายหัวหน้าครัวเรือน” ระยะที่ 2 คือ เกษตรกรที่อยู่ระหว่างให้กรมส่งเสริมการเกษตรตรวจสอบและปรับปรุงข้อมูล 1,565,257  ล้านราย รวม 10 ล้านราย 

ส่วนวิธีดำเนินงานนั้น กระทรวงเกษตรฯ ส่งข้อมูลเกษตรกรให้ ธ.ก.ส.ภายในเดือนพฤษภาคม จากนั้นธ.ก.ส.ตรวจสอบ เพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนทะเบียนเกษตรกรและการช่วยเหลือโครงการเราไม่ทิ้งกันภายในเดือนมิถุนายน ซึ่ง ธ.ก.ส.จะเริ่มจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม ทั้งนี้ แผนการเบิกจ่ายแต่ละเดือน 50,000 ล้านบาท ทั้งนี้ การจ่ายเงินช่วยเหลือตามกลไกของ ธ.ก.ส.ต้องสามารถตรวจสอบได้ รวมทั้งต้องมีระบบอุทธรณ์กรณีมีผู้ร้องว่าเป็นผู้ตกหล่น โดยแจ้งขอตรวจสอบรายชื่อต่อหน่วยงานที่ลงทะเบียน 

ข้อมูลทะเบียนเกษตรกรที่สามารถจ่ายเงินช่วยเหลือระยะแรก ได้แก่ ผู้ที่ขึ้นทะเบียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตร กรมปศุสัตว์ และกรมประมง ที่ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในทะเบียน รวมถึงไม่มีการลงทะเบียนเกษตรกรซ้ำซ้อนในหลายหน่วยงาน อีกทั้งต้องไม่ซ้ำซ้อนกับผู้ได้รับสิทธิ์โครงการเราไม่ทิ้งกัน ส่วนที่อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล ได้แก่ ส่วนที่ดำเนินการโดยกรมประมงแบ่งเป็น ทบ. 3 ทะเบียนชาวประมง คือ ประมงพื้นบ้าน ประมงชายฝั่ง และประมงพาณิชย์ 120,365 ราย ส่วนผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่คาดว่า ไม่อยู่ในฐานข้อมูลประมาณ 20,000 ราย เกษตรกรชาวสวนยางที่แจ้งข้อมูลผู้ปลูกยาง แต่เป็นบัตรสีชมพูซึ่งเป็นที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ 390,868 ราย อ้อย 480,000 ราย และอื่น ๆ ได้แก่ หม่อนไหม ยาสูบ นาเกลือ เป็นต้น 642,258 ราย

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ ครม.จะเห็นชอบการจ่ายเงินเยียวยาเป็นรายเดือน ๆ ละ 5,000 บาท หรือจ่ายให้ 3 เดือนรวม 15,000 บาทในคราวเดียว ขึ้นกับการดำเนินการกู้เงินของกระทรวงการคลัง ซึ่งมีรายงานว่าเมื่อ ครม. มีมติแล้ว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้แถลงรายละเอียดของการดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรตามโครงการของรัฐบาลด้วยตนเอง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ประกาศเลิกคบ “ฮุน เซน”

พญาไท 9 ก.ค. – “ทักษิณ” ประกาศเลิกคบ “ฮุน เซน” ยอมรับช็อกลูกสาวถูกปล่อยคลิป ชี้ไม่มีการรบ เผยผลประโยชน์สีเทาจุดแตกหัก “ฮุน เซน” เชื่อปมชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ถึงขั้นสงคราม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในงาน “55 ปี NATION : ผ่าทางตันประเทศไทย” Chapter 3 บก. ถาม “ทักษิณ ชินวัตร” ณ ห้องพญาไท 4 ชั้น 6 โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท ดำเนินรายการโดย 3 บก. บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่นระบุจุดเริ่มต้นของรอยร้าวที่ปะทุขึ้นสู่สาธารณะมาจากการปล่อยคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีแพทองธาร และฮุน เซน โดย ดร.ทักษิณ เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า เดิมทีมีการนัดหมายให้นายกฯ แพทองธาร สนทนากับฮุน เซน ผ่านการประสานงานของ “พี่ฮวด” โดยมีรัฐมนตรีคนสำคัญร่วมรับฟังด้วย ทั้งนายภูมิธรรม […]

ทบ.แจงปมทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า

9 ก.ค.- โฆษกกองทัพบก แจงทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า ปมทหารเขมรอยากรู้อยากเห็น ขยับเข้าใกล้พื้นที่ไทยเกินขอบเขตที่กำหนด จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์คลิปภาพทหารเขมรปะทะคารมกับทหารพรานของไทย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 9 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ค.68 เวลา 09.00 น. โดยสื่อของฝ่ายกัมพูชาได้นำเสนอคลิปวิดีโอการโต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารไทยและทหารกัมพูชา จากการตรวจสอบของหน่วยที่เกี่ยวข้องพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณช่องอานม้า ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยทหารพราน 2310 โดยกำลังพลประมาณ 7 นาย ได้จัดเตรียมสถานที่ เพื่อรองรับกิจกรรมภายในของหน่วย และกิจกรรมการตรวจเยี่ยมของผู้บังคับบัญชา คาดว่าฝ่ายกัมพูชาเห็นว่าฝ่ายทหารไทยมีการปฏิบัติต่างไปจากวันปกติทั่วไป จึงอยากเข้ามาสังเกตการณ์ใกล้ๆ แต่เมื่อเข้าใกล้พื้นที่มากกว่าขอบเขตที่กำหนด ทหารไทยจึงแสดงตนเข้าชี้แจง และขอให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม เป็นเหตุให้เกิดการโต้เถียงกันด้วยวาจาตามที่ปรากฏข่าว แต่ทั้งสองฝ่ายได้มีการอธิบายทำความเข้าใจกันจนเป็นที่เข้าใจทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ บริเวณที่ฝ่ายไทยจัดกิจกรรมมิได้เป็นการรุกล้ำเข้าไปในเขตกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ ขณะที่ ผช.เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ไปขอสึกที่วัดดังเชียงใหม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., นายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ที่ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามตัวเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี พระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในหลักฐานคลิปวิดีโอร่วมหลับนอนกับสีกา ก. เช่นเดียวกัน เพื่อตามตัวมาพูดคุยเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว ภายหลังทราบว่าเจ้าตัวกำลังเดินทางออกจากวัดมาที่หน้าวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ เพื่อมาซื้อจีวรผืนใหม่ จึงนำกำลังไปดักนิมนต์ได้ที่แยกไฟแดงพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนเจรจาพร้อมนำหลักฐานคลิปและภาพออกมาแสดงให้เจ้าตัวรับทราบ จนทำให้จำนนต่อหลักฐาน ยอมตัดสินใจลาสิกขา เพื่อรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนิมนต์เดินทางต่อมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อกล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าองค์พระประทานในพระอุโบสถวัดไตรมิตร ขณะเดียวกันในส่วนของการติดตามหาตัวผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เบื้องต้นทราบว่าติดตามเจอตัวที่วัดพระธาตุสุนันทา ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา แสดงหลักฐานให้เจ้าตัวได้รับทราบ เพื่อให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการยอมสึกขาดจากความเป็นพระด้วย […]

Thai police at the house of Kok An’s daughter in Bangkok

กัมพูชายืนยัน “ก๊ก อาน” ไม่เกี่ยวแก๊งฉ้อโกง

พนมเปญ 9 ก.ค. – ทางการกัมพูชาปฏิเสธว่า นายก๊ก อาน คนสนิทของนายฮุน เซน ไม่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และกาสิโน ขณะที่นายฮุน เซน ท้าให้ทางการไทยสอบสวน “ทักษิณ” ด้วย เพราะมีความใกล้ชิดกับเขาเช่นกัน เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ ไทม์ส ของกัมพูชา รายงานว่า หน่วยงานตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล ในกัมพูชา ยืนยันว่า ทั้งอินเตอร์โพลและทางการกัมพูชาไม่ได้รับการแจ้งจากทางการไทยเกี่ยวกับการออกหมายจับนายก๊ก อาน สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.กัมพูชา ซึ่งเป็นคนสนิทของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยไทยระบุว่า นายก๊ก อาน เป็นผู้ต้องสงสัยพัวพันกับแก๊งฉ้อโกงออนไลน์ที่ปฏิบัติการอยู่ในอาคารที่นายก๊ก อาน เป็นเจ้าของในเมืองปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย พ.ต.อ.ตู๊ด โบรา รองผู้บัญชาการอินเตอร์โพลกัมพูชา กล่าวว่า นับตั้งแต่มีรายงานของสื่อไทยเรื่องศาลไทยออกหมายจับนายก๊ก อาน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหนังสือขอความร่วมมือจากทางการไทย ทั้งที่ตามปกติแล้วเมื่อประเทศใดในภูมิภาคมีข้อมูลเกี่ยวกับอาชญากรที่หลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศอื่น หน่วยงานตำรวจสากลในประเทศนั้นจะต้องส่งหนังสือแจ้งไปยังทางการอีกประเทศหนึ่งเพื่อขอความร่วมมือในการจับกุมผู้ต้องสงสัย ดังนั้น เขาจึงไม่เชื่อรายงานข่าวดังกล่าวของสื่อไทย ด้านนายเจีย ธีริธ โฆษกพรรคประชาชนกัมพูชา ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลกัมพูชา ยืนยันว่า […]