fbpx

โฆษก ศบค.ชี้การคลายล็อก ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.-โฆษก ศบค. ชี้การคลายล็อก ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ไม่อยากให้เกิดการระบาดรอบสอง ระบุทีมที่ปรึกษา ศบค.ด้านเศรษฐกิจ อยู่ระหว่างประเมินก่อนส่งให้นายกฯ-ครม.พิจารณา


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.กล่าวถึงมาตรการของประเทศไทยในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 เมื่อเทียบจำนวนการพบผู้ติดเชื้อกับต่างประเทศ โดยไทยพบผู้ติดเชื้ออยู่ที่หลักสิบคน ว่า มาตรการที่ไทยใช้มีหลายส่วนประกอบกัน โดยให้ความสำคัญกับชุดข้อมูล และนำมารายงานให้ประชาชนได้เข้าใจสถานการณ์นำไปสู่ความร่วมมือ รวมถึงการบริหารจัดการตั้งแต่ระดับประเทศ ลงไปสู่ระดับจังหวัด ก่อนส่งต่อไปยังประชาชน ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี ประกอบกับระบบสาธารณสุขที่ดี และมีทีมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ลงพื้นที่ดูแลประชาชน 1 คนต่อ 10 ครัวเรือน ซึ่งการจะประสบความสำเร็จในการป้องกันโรคตัวเลขที่ผู้ติดเชื้อต้องใกล้เคียง 90 -100% และเครดิตนี้รางวัลสู่ความสำเร็จ ไม่ได้อยู่ใครคนใดคนหนึ่ง แต่เกิดจากการร่วมมือกันของทุกฝ่าย

ส่วนที่หลายจังหวัดเริ่มประกาศให้สถานประกอบการ สถานที่บางประเภทกลับมาเปิดให้บริการ การจะคลายล็อกมีแนวโน้มอย่างไร แต่ละจังหวัดสามารถออกประกาศได้เองเลยหรือไม่ หรือต้องประสานกับ ศบค.ก่อน นั้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เรื่องที่ต้องตัดสินใจในระดับสูงสุด คือ นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. โดยต้องนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งจะเป็นการออกกฎใหญ่ของประเทศ แต่เรื่องการผ่อนคลายเป็นเรื่องของจังหวัดที่จะพิจารณาตามกันมา และขณะนี้มีการตั้งคณะที่ปรึกษา ศบค.ด้านธุรกิจภาคเอกชน โดยเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธาน และมีภาคส่วนต่าง ๆ ด้านธุรกิจเข้าร่วม ซึ่งการควบคุมโรคเข้าไปควบคุมพฤติกรรมของคน ด้วยการให้อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ทำให้ระบบเศรษฐกิจได้รับผลกระทบ ดังนั้นการจะผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาว่ากิจการ หรือกิจกรรมใดที่จะได้รับการผ่อนปรนก่อน จากนั้นจึงส่งให้ ศบค.และ ครม.พิจารณา สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เมื่อออกมาแล้ว คนส่วนใหญ่ต้องเห็นด้วย ไม่กระทบการแพร่ระบาดของโรค


“มีหลายคนบอกว่าเรามีเงินไม่พอ ตอนนี้เราต้องกู้กันมา เราจะเกิด Second Wave Third Wave หรือคลื่นภูเขาลูกที่ 2 ลูกที่3 ตามมาไม่ได้อีกแล้ว เพราะจะสูญเสียเรื่องการเจ็บไข้ การเสียชีวิต และการเสียงบประมาณ ก่อนหน้านี้เคยมีการประเมินเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยต่อคนอยู่ที่ 1 ล้านบาท และตอนนี้มีผู้ป่วยกว่า 2 พันคน เท่ากับว่างบประมาณที่ใช้ไปมากกว่า 2 พันล้านบาท หากตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งกลับเป็นหลักพัน หลักหมื่นเหมือนต่างประเทศ ก็ต้องใช้งบประมาณอีกจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็มีผลกระทบด้านเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น จึงต้องชั่งน้ำหนักระหว่างปัจจัยนี้ประกอบกัน บางคนบอกว่ายอมเสียเงินดีกว่าจะให้มีการเสียชีวิต หรือมาเจ็บไข้ เป็นญาติเรา เราก็ไม่ยอม และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหมือนต่างประเทศที่ต้องตัดสินใจให้ใครอยู่ใครไป เพราะเป็นความสะเทือนใจของแพทย์ ดังนั้นสถานการณ์นี้ต้องคิดอย่างรอบคอบ” โฆษก ศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ ยังย้ำถึงค่ารักษาและเกณฑ์ในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ว่า คนที่จะได้ตรวจฟรีต้องมีอาการร่วมกับปัจจัยเสี่ยง ดังนี้ 1.ประวัติมีไข้ มีอุณหภูมิกายตั้งแต่ 37.5 องศา 2.มีอาการไอ เจ็บ คอ หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก และเป็นผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ  มีประวัติในช่วง 14 วัน ก่อนหรือเริ่มป่วยอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ เดินทางไป หรืออยู่อาศัยในพื้นที่เกิดโรคโควิด-19 มีอาชีพสัมผัสชาวต่างชาติ สถานที่แออัด หรือติดต่อกับคนจำนวนมาก ไปในที่ชุมชน เช่น ตลาด ห้างสรรพสินค้า สถานพยาบาล หรือ สัมผัสผู้ป่วยโควิด-19 โดยการตรวจรักษาสามารถไปตามสิทธิ์ที่แต่ละคนมี

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการลงพื้นที่บริจาคของให้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรวมกลุ่มกันหลายพื้นที่จัดทำเป็นโมเดล เช่น วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือพื้นที่ในกรุงเทพฯ ผู้ที่ต้องการบริจาคสามารถเข้าไปลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ BKK HELP สามารถเลือกพื้นที่ในการบริจาคได้ จะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และแนะนำวิธีการแจกของที่ถูกต้องและปลอดภัยทั้งผู้ให้และผู้รับ ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดสามารถติดต่อไปยังศาลากลางจังหวัดและท้องที่ได้


“อยากให้ทุกคนออกแบบวิถีชีวิตแบบใหม่ หรือ New Norm ในสถานการณ์โควิด-19 ต้องสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงภาคธุรกิจต่าง ๆ ต้องปรับเปลี่ยน ต้องออกแบบวิถีกันใหม่ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ เพราะยังต้องอยู่กับไวรัสตัวนี้อีกระยะหนึ่ง” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Made in Thailand แดนไทยเท่ : เสน่ห์ผ้าทอชาวเขา สู่แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของเชียงใหม่

ผ้าทอชาวเขาและเครื่องแต่งกายชนเผ่าต่างๆ ของไทยที่มีลวดลายสวยงามแปลกตาไม่เหมือนใคร ทำให้ดีไซเนอร์ชาวเชียงใหม่ นำมาออกแบบตัดเย็บ กลายเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นที่ทันสมัย

ศาลปกครองอุบลราชธานี ไม่รับฟ้องกรณีนักศึกษาไม่ได้รับเงิน

กรุงเทพฯ 3 พ.ค.-ศาลปกครองอุบลราชธานี ไม่รับฟ้อง กรณีนักศึกษา ไม่ได้รับเงิน ยืนยันโอนเงินให้เแล้ว 

พายุฤดูร้อนถล่ม 31 จังหวัด ฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง วันนี้ (3 พ.ค.) ได้รับผลกระทบ 31 จังหวัด ในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยประเทศไทยมีพายุฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง

กรุงเทพฯ 7 พ.ค. – กรมอุตุฯ เผยบริเวณประเทศไทยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง 30%

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า แนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และด้านตะวันออกของภาคเหนือและภาคกลาง ขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่อาจจะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย

สำหรับลมตะวันตกเฉียงเหนือและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนชาวเรือควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 8-10 พ.ค. 67 แนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง รวมทั้งมีฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 27-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

จ่อหมายจับเพิ่มอีก 3 คน ผู้ร่วมขบวนการรีดทรัพย์ชาวจีน

เร่งล่าตัว “จ่าแจ๊ค” แก๊งตำรวจอุ้มรีดทรัพย์นักธุรกิจจีน และชาวจีนที่หลบหนี พร้อมจ่อหมายจับเพิ่มผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน

เปิดโกดังข้าวโครงการรับจำนำ เล็งประมูลสัปดาห์หน้า

“ภูมิธรรม” พาสื่อเปิดโกดังข้าวโครงการรับจำนำรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พิสูจน์ข้าว 10 ปี ยังกินได้ เป็นที่ต้องการแถบแอฟริกา พร้อมจัดเมนูพิเศษตามคำขอ ข้าวกะเพราไข่เจียว ให้ผู้สังเกตการณ์ทดสอบ เล็งเปิดประมูลสัปดาห์หน้า

นายกฯ ปัดแนวคิดแก้ พ.ร.บ. ลดอำนาจผู้ว่าฯ ธปท.

นายกฯ ยันเสียงแข็ง ไม่เคยคิดปลดผู้ว่าฯ ธปท. ยังไงท่านก็ยังอยู่ตรงนี้ รับเห็นต่างเรื่องลดดอกเบี้ย มองเป็นเรื่องธรรมดา โนคอมเมนต์ #saveผู้ว่าแบงก์ชาติ ย้ำชัดไม่เคยมีแนวคิดแก้ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย