สมุทรสงคราม 22 เม.ย.- กรณีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหญิงถูกสามียิงดับ ขณะนอนกล่อมลูกวัย 9 เดือน หลังมาขอเงินซื้อเหล้า แต่ผู้ตายไม่ให้จนมีปากเสียงกัน ตำรวจยังเร่งสืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ด้านน้องสาวผู้ตายลั่นไม่ให้อภัยพี่เขย วอนเข้ามอบตัว
ความคืบหน้ากรณีนางยุพาพร พูลพิพิศ อายุ 36 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.แพรกหนามแดง อ.อัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม วัย 36 ปี นอนกล่อมลูกชายวัย 9 เดือนในมุ้ง จู่ๆ นายวินัย ใหม่ละออ อายุ 35 ปี สามี เข้ามามีปากเสียงกัน สุดท้ายสามียิงเสียชีวิตคาที่นอน ต่อหน้าลูกชายวัย 9 เดือน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นางยุพาพร ผู้ตาย อยู่กินกับนายวินัย ผู้ก่อเหตุ มานานประมาณ 2 ปี มีลูกชายด้วยกัน 1 คนอายุ 9 เดือน ประกอบอาชีพค้าขายทั่วไปตามตลาดนัด แต่มาระยะหลังประสบปัญหาการระบาดของโควิด-19 ทำให้ขายของไม่ได้ ขาดแคลนรายได้ ประกอบกับนายวินัย ชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ จนทำให้เกิดทะเลาะเป็นประจำ
ก่อนเกิดเหตุ นางยุพาพร ผู้ตาย นอนอยู่กับลูกในมุ้ง ขณะที่ผู้ก่อเหตุนั่งดื่มกินสุราบริเวณหน้าบ้าน พอสุราหมด นายวินัย ผู้ก่อเหตุ ก็เดินเข้าไปเรียกผู้ตายเพื่อขอเงินมาซื้อสุรา แต่ผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ไม่ให้เนื่องจาก จ.สมุทรสงคราม ห้ามจำหน่ายสุรา และอยู่ในช่วงประกาศเคอร์ฟิว ทำให้มีปากเสียงกัน ผู้ก่อเหตุจึงใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงผู้ตายเสียชีวิตดังกล่าว และหลบหนีไป
บรรยากาศล่าสุดที่บริเวณบ้านที่เกิดเหตุ เป็นไปอย่างเงียบเหงา เนื่องจากญาติๆ นำร่างของนางยุพาพร ไปเตรียมประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดวันดาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี มีเพียง น.ส.ปิยภรณ์ เขียวสะอาด น้องสาวผู้ตาย อยู่กับสามี ช่วยดูแลหลานชายวัย 9 เดือน มีตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม และชุดสืบสวน สภ.ยี่สาร สลับกันมาสืบสวนหาพยานหลักฐานติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
น.ส.ปิยภรณ์ กล่าวว่า นางยุพาพร พี่สาวของตน เป็นคนขยันทำหากิน มีความรับผิดชอบสูง จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และตั้งใจทำหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านมาโดยตลอด เหตุการณ์ครั้งนี้ตนไม่คาดคิดว่าจะเกิดกับพี่สาวของตน และไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด รู้เพียงพี่เขยกับพี่สาวทะเลาะกันเป็นประจำในเรื่องภาวะเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ในครั้งนี้ตนไม่ขอให้อภัยพี่เขย ขอให้มามอบตัวโดยเร็ว
นายทวีป อมศิริ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแพรกหนามแดง ยังพาเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรสงคราม มาติดตามให้ความช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิต เบื้องต้นประสานไปยังยุติธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม ให้ได้รับเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอาชญากรรมประมาณ 110,000 บาท ส่วนแนวทางช่วยเหลือเด็กน้อยวัย 9 ขวบ เบื้องต้นวันนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรสงครามมาให้สำรวจพื้นที่เพื่อพาเด็กน้อยวัย 9 ขวบไปดูแล แต่พบว่ามีญาติๆ ดูแลอย่างดีและอบอุ่น จึงจะให้ความช่วยเหลือเป็นอุปกรณ์ในการดูแลเด็ก เช่น นม และผ้าอ้อมสำเร็จรูป เป็นต้น ส่วนแนวทางการช่วยเหลือระยะยาวประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้ามาช่วยเหลือตามระเบียบทางราชการต่อไป.-สำนักข่าวไทย