ผัวคลั่งสาดกระสุนใส่เมีย อุ้มหนีข้ามจังหวัด

ชลบุรี 19 เม.ย.-ผัวคลั่งทะเลาะเมีย ก่อนสาดกระสุนใส่เจ็บปางตาย เมียร้องขอชีวิตแต่ไม่ฟังอุ้มร่างขึ้นกระบะขับหนีข้ามจังหวัดไปโผล่ จ.กาญจนบุรี เพื่อนเผย หลังเกิดเหตุฝ่ายหญิงวิดีโอคอลมาหาน้ำเสียงสั่นเครือบอก “ขอเห็นหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้ายหน่อย”

ภาพวงจรปิด ช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. จับภาพ น.ส.ธิดาพร หรือสมาย มีปากเสียงกับ นายครัช ผู้เป็นสามี จนฝ่ายหญิงมีการพูดในทำนองว่า “มึงทำอะไร มึงรู้ไหมกูทำงานหาเงิน มันเหนื่อยแค่ไหน” ก่อนที่นายครัช จะเดินมานั่งหน้าห้อง จากนั้น น.ส.สมาย พยายามเดินเข้าไปหา นายครัชชักอาวุธปืนยิงใส่พื้น 1 นัด ก่อนจะหันกระบอกปืนจ่อยิงขาซ้าย 1 นัด จน น.ส.สมาย ล้มไปกองกับพื้น จน น.ส.สมาย ส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสาร จากนั้นนายครัช ก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งถือปืนแกว่งไปมา และลั่นไกยิงขู่ อีกหลายนัด ก่อนจะอุ้ม น.ส.สมาย ขึ้นรถกระบะแล้วขับออกไป


เจ้าหน้าที่ สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุยิงกันภายในห้องแถว ซอยเทพประสิทธิ์ 15 หมู่ 11 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งรีบรุดทำการตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถว พบรอยคราบเลือดอยู่ที่พื้นหน้าห้อง และพบปลอกกระสุน ขนาด 11 มม. ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จำนวน 5 ปลอก ตำรวจจึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน โดยมี นายปรีชา อายุ 56 ปี พ่อฝ่ายหญิง ยืนรอให้การกับตำรวจว่า เมื่อช่วงเวลาเกือบจะ 1 ทุ่ม ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนบ้านว่าให้รีบกลับมาที่ห้องเช่าด่วน เพราะได้ยินเสียงปืนดังติดต่อกันหลายนัด และมีเสียงผู้หญิงขอความช่วยเหลือ จึงรีบขี่รถกลับมาดู พอมาถึงก็พบว่าลูกสาวหายตัวไปพร้อมกับรถกระบะสี่ประตู สีส้ม


อีกทั้งยังพบกองเลือด และปลอกกระสุนปืนตกอยู่เกลื้อนพื้น ตอนนั้นคิดว่าคงเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับลูกสาวแน่ๆ และเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของลูกเขย ที่คบหากันได้ประมาณ 1 ปี โดยก่อนหน้านี้ลูกสาวพยายามบอกเลิกและตีตัวออกห่าง เพราะลูกเขยมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและไม่ช่วยลูกสาวทำมาหากิน โดยลูกสาวเพิ่งจะส่งตัวลูกเขยให้กลับไปอยู่บ้านเกิดที่ จ.กาญจนบุรี แต่จู่ ๆ วันนี้ทั้งคู่ก็กลับมาอยู่ด้วยกันอีกจนมาเกิดเรื่องดังกล่าว

ด้าน น.ส.แนน (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี เพื่อนรุ่นพี่คนสนิทกับ น.ส.สมาย ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ สมายได้นำลูกสาวมาฝากตนเองเลี้ยง จนช่วงเวลา 19.35 น. สมายได้วิดีโอคอลผ่านเฟซบุ๊กมาหาตนเอง โดยพูดในน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ขอเห็นหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้ายหน่อย” ตอนนั้นยอมรับว่าช็อกมากเพราะสมายพูดเหมือนเป็นร่าง จึงหันกล้องไปให้ดูหน้าลูกสาว ซึ่งมีบางช่วง สมายพยายามหันกล้องให้เห็นหน้าสามี ซึ่งอยู่ในสีหน้าคล้ายคนกำลังคลุ้มคลั่ง พอวางสายจาก สมายตนก็รีบเดินทางมาบอกพ่อสมายทันที

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ สภ.เมืองพัทยา ได้หลักฐานสำคัญเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด และได้ประสานให้ทำการสกัดจับรถคันดังกล่าวแล้ว แต่ก็ไร้วี่แวว จนล่าสุด ช่วงประมาณ 22.10 น. วานนี้ นายครัช (ผู้ก่อเหตุ) ยอมปล่อยตัว น.ส.สมาย แล้วโดยนำตัวไปส่งไว้ที่โรงพยาบาลพนมทวน จ.กาญจนบุรี ห่างจากเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ระยะทางรวม 262 กม. ขณะนี้ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเจ้าตัวมีการหวาดกลัวตลอดเวลา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ สภ.เมืองพัทยา กำลังรวบรวามพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]