กรุงเทพฯ 17 เม.ย. -“ศักดิ์สยาม” รมว.คมนาคม ดันแผนฟื้นฟู ขสมก.ฟื้นกิจการรถเมล์ ตอบโจทย์ 5 ข้อ ดันเช่ารถ EV เต็มฟีด 2,500 คัน ค่าเช่าไม่เกินปีละ 5,000 ล้านบาท ขณะที่ ขสมก.มั่นใจมีภาระใช้เงินชดเชย PSO อีกไม่เกิน 9,000 ล้านบาท EBITDA เป็นบวกหลังปี 2572
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงบ่ายวันนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เรียกผู้บริหารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) หารือสรุปแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. เพื่อให้การดำเนินการหลังจากนี้เป็นไปตามกรอบเวลาที่กระทรวงคมนาคมวางเป้าหมายไว้
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า หลังจากให้ ขสมก.กลับไปปรับปรุงแผนฟื้นฟูฯ เพื่อให้การดำเนินการสามารถบริหารจัดการต่อไปได้ โดยเป็นภาระของภาครัฐน้อยที่สุด จนถึงไม่ต้องรับความช่วยเหลือจากรัฐเลยในอนาคตนั้น ขณะนี้แผนฟื้นฟู ขสมก.ดังกล่าวได้มีการปรับปรุง เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาตามสถานการณ์ที่แท้จริงเรียบร้อยแล้วทุกด้าน และล่าสุดได้มีการเสนอแผนฟื้นฟูฯ ไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลังแล้ว หลังจากนี้ตามขั้นตอนหาก สคร.เห็นชอบแผนก็จะเสนอกลับมายังกระทรวงคมนาคมก่อนที่กระทรวงคมนาคมจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบต่อไป และยืนยันว่าแผนฟื้นฟูฯ ดังกล่าวจะเสนอ ครม.ได้ภายในสิ้นปี 2563 แน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับข้อสรุปแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.ที่ดำเนินการตามกรอบที่นายศักดิ์สยาม ได้ให้นโยบาย 5 ข้อ คือ 1.การเดินรถ ขสมก.จะเก็บค่าโดยสารแบบเหมาจ่าย 30 บาทตลอดวัน (รถปรับอากาศ) 2.การแก้ปัญหาลดมลพิษ PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ 3.แก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด 4.แก้ภาระขาดทุนสะสมของ ขสมก. และ 5.การดำเนินการของ ขสมก.จะต้องไม่ให้เกิดภาระต่องบประมาณรัฐในอนาคต
ซึ่งเมื่อเคาะรายละเอียดตามกรอบของแผนฟื้นฟูดังกล่าว เป็นที่มาที่ ขสมก.ได้ปรับแผนการจัดเช่ารถเมล์ ให้การเช่ารถเมล์นั้น เป็นการเช่ารถพลังงานไฟฟ้า หรือ EV ทั้ง 2,500 คัน เมื่อนำมารวมกับรถ NGV 489 คันที่เคยจัดหามาก่อนหน้านี้ ก็จะรวมเป็นฟีดรถที่ ขสมก.มีทั้งหมด 2,989 คัน โดย ขสมก.ได้สรุปแผนว่า การใช้รถ EV ทั้งหมดในการเดินรถนั้นจะมีต้นทุนการเดินรถที่ 23 บาทต่อกิโลเมตร และ ขสมก.จะใช้งบประมาณในการจ่ายค่าเช่าให้เอกชนที่จัดหารถมาวิ่งปีละไม่เกิน 5,000 บาท โดยวงเงินดังกล่าวจะรวมค่าบำรุงรักษาและการประกันภัยด้วย
ส่วนรูปแบบการเดินรถใน กทม.นั้น การจัดเก็บค่าโดยสารจะใช้แบบเหมาจ่าย 30 บาทต่อวัน ทำให้ ขสมก.สามารถตัดเส้นทางเดินรถเป็นระยะสั้น ๆ แต่ประชาชนเดินทางได้ไม่จำกัดสอดรับกับการเปิดใช้ระบบขนส่งทางรางในอนาคต รวมทั้งใช้รถ EV ก็จะดีต่อการลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้ยั่งยืนด้วย
ส่วนการแก้ไขปัญหาการจราจรนั้น ขสมก.จะดำเนินการตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดช่อง “บัสเลน” ในถนนสายที่มีลักษณะกายภาพ (ช่องจราจร)เหมาะสม ทำให้ ขสมก.เดินรถได้ตรงตามเวลาจูงใจให้ประชาชนมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น ซึ่งภาพรวมทั้งหมดนี้เมื่อแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.ชัดเจน และรัฐบาลเข้ามาช่วยแบกรับภาระผลขาดทุนสะสมที่ ขสมก.มีอยู่เดิมกว่า 100,000 ล้านบาท ฝ่ายบริหาร ขสมก.มั่นใจว่าเมื่อเดินตามแผนนี้หลังปี 2572 EBITDA (กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาฯ) จะกลับมาเป็นบวก โดยระหว่างก่อนถึงปี 2572 ขสมก.ขอให้รัฐชดเชยการเดินรถเพื่อการให้บริการสังคม (PSO) ในวงเงินรวมไม่เกิน 9,000 ล้านบาท (นำมาหารเฉลี่ย/ปี) หลังจากนั้น ขสมก.จะบริหารจัดการเองโดยไม่ขอรับเงินสนับสนุน PSO อีก.-สำนักข่าวไทย