กทม. 14 เม.ย. – มาตรการปิดร้านสถานบันเทิง เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนทำงานกลางคืน นักดนตรีก็เช่นกัน ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ พวกเขาต้องเอาตัวรอดท่ามกลางวิกฤตินี้อย่างไร
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกๆ ปี ร้านอาหารสถานบันเทิงจะคึกคักไปด้วยผู้คนมากมาย ปีนี้ร้านรวงเงียบสงัด ตาข่ายสีดำถูกขึงพาดยาวปิดหน้าร้าน ขึ้นป้ายประกาศปิดทำการชั่วคราวตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ชีวิตคนทำงานกลางคืนถือเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะนักดนตรี
สุรุจ เล่าว่า ปกติตระเวนเล่นดนตรีคืนละ 2 แห่ง มีรายได้ 1,000-2,000 บาท เมื่อร้านปิดรายได้เท่ากับศูนย์ ยิ่งมีลูกน้อยวัย 2 เดือน จะรอช้าไม่ได้ ใช้ความรู้คอมพิวเตอร์ที่มีเล่นดนตรีเปิดหมวกออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดีย มีผู้ชมร่วมสมทบทุนบริจาคทำให้พอมีรายได้เข้ามาจุนเจือ ยอมรับดนตรีคืออาชีพเดียวที่ทำเลี้ยงชีพ ตอนนี้ยังพอมีเงินเก็บจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ทว่าหากสถานการณ์ยืดเยื้อ คงต้องยอมทิ้งอาชีพที่รักไปหางานอื่นทำแทน
เช่นเดียวกับ จิรายุ ผู้ประกาศข่าวกีฬา สำนักข่าวไทย ที่อีกด้านเล่นดนตรีกลางคืนหารายได้เลี้ยงครอบครัว แม้จะโชคดีกว่าเพื่อนร่วมอาชีพหลายคน แต่รายได้จากงานดนตรีที่หายไป ก็สวนทางกับรายจ่ายประจำที่ต้องใช้จ่ายทุกเดือน
เสียงสะท้อนจากความเดือดร้อนของหนึ่งอาชีพที่ได้รับผลกระทบท่ามกลางวิกฤติโควิด-19ที่ยังไม่รู้จะจบลงเมื่อใด หากรอมาตรการเยียวยาช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ คงไม่ทันกาล ในเมื่อชีวิตยังต้องเดินหน้าหารายได้มาต่อลมหายใจ พวกเขาก็ได้แต่ภาวนาและหวังว่าสงครามโรคระบาดนี้จะจบโดยเร็ว เพื่อได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย