3-10 เม.ย.ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 4,138 คดี

กทม.10 เม.ย.- สถิติฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั่วประเทศ ระหว่าง 3- 10 เมษายน มีทั้งสิ้น 4,138 คดี ผู้ต้องหา 5,264 คน 


นายประยุทธ   เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด  เปิดเผยสถิติคดีผู้ฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 3-10 เมษายนมีคดีทั้งหมด 4,138 คดี, ผู้ต้องหา 5,264 คน  เป็นชาย 4,054 คน  หญิง 1,210  คน จำแนกตามช่วงอายุ ต่ำกว่า 18  ปี มี  91 คน ,อายุ 18-20  มี 470 คน  , อายุ 20-35 ปี ช่วงวัยทำงาน  2,537 คน อายุ 35-55  ปี  ช่วงวัยทำงาน  1,764  คน และอายุมากกว่า 55 ปี  402 คน สูงสุดคือ ฝ่าฝืนเวลาเคอร์ฟิว ส่วนผู้กระทำผิดที่เป็นเด็กและเยาวชน มีมาตรการพิเศษ ดำเนินการกับคนกลุ่มนี้ ในผู้กระทำผิดที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18  ปี  จะลงโทษโดยหลีกเลี่ยงการฟ้องคดีขึ้นสู่ชั้นศาล  


ส่วนมาตรการเพื่อความปลอดภัยในแนวทางของสำนักงานอัยการสูงสุด มอบหมายให้พนักงานอัยการทั่วประเทศ ที่ฟ้องคดีให้มีคำขอต่อศาลบังคับใช้วิธีการเพื่อความปลอดภัย โดยให้มีคำขอท้ายฟ้องให้ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก หรือกรณีโทษปรับและให้รอการลงโทษ  ขอให้มีคำสั่ง ลงโทษกักกันจำเลยในเคหะสถานทุกคดี   ตามจำนวนวันที่ศาลเห็นสมควร เพื่อลดการแพร่กระจายของโรคโควิด-19  เช่น คดีในจังหวัดน่าน ศาลสั่งกักกันจำเลยในเคหะสถานเป็นเวลา 7         วัน เป็นต้น 

นอกจากนี้ มีผลการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาคดีบ่อนพนัน จ.นนทบุรี เมื่อวันที่  9  เมษายนที่ผ่านมา โดยศาลจังหวัดนนทบุรี ได้รับสำนวนคดีจากพนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาจำนวน 122  คน  พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวงนนทบุรี ยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมบรรยายขอให้ศาลลงโทษสถานหนัก การพิจารณาในชั้นศาลจำเลยให้การสารภาพ  ศาลมีคำพิพากษาจำคุกเจ้าบ้าน 6 เดือน 15 วัน  จำคุกผู้จัดให้มีการเล่นพนัน  3 เดือน 15 วัน  ส่วนผู้เล่นพนันจำนวน 97  คน  ลงโทษกักขังเป็นเวลา 15 วัน พร้อมสั่งปรับ คนละ 1,000 บาท  

โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด  ระบุ ถึงโทษกักกัน หรือกักขัง ว่า แม้จะเป็นโทษที่ไม่ได้ส่งตัวจำเลยเข้าเรือนจำ แต่เป็นการสูญเสียอิสรภาพเช่นกัน  แม้จะกักกันในบ้านจำเลยเอง  หากพบว่ามีการฝ่าฝืนโทษกักกันจะมีโทษทางกฎหมายอีกด้วย โดยหากฝ่าฝืนไม่อยู่ในเคหะสถาน ตามคำพิพากษาศาล มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระบะชนต้นไม้

สังเวย 7 ศพ กระบะหักหลบรถรับ-ส่งนักเรียน พุ่งชนต้นไม้

รถกระบะเสียหลักจะชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน คนขับตัดสินใจหักหลบ ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน

สลด! รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยวเบตง ชนต้นไม้ ดับ 8 ราย

รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา เสียหลักไถลลงร่องกลางถนนชนต้นไม้บนถนนสาย 41 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

ข่าวแนะนำ

ผบก.น.3 เผยมี 26 คนจีนเข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง

ผบก.น.3 เผยมีคนจีน 26 คน เข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง กำลังไล่สอบเส้นเงินเข้ากระเป๋าใคร ส่วนตำรวจที่ไปอบรมน่าจะได้เงินค่าจ้างจริง

ดีเอสไอประชุมนัดแรกร่วม ตร.นครบาล 1 คดี “นพ.บุญ”

ดีเอสไอรับคดี “นพ.บุญ” กับพวกเป็นคดีพิเศษ เปิดประชุมนัดแรกร่วมตำรวจนครบาล 1 แย้มรู้พิกัด “หมอบุญ” ที่หลบหนีแต่ยังไม่ขอเปิดเผย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจตั้งด่าน เจ็บ 6 นาย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจขณะตั้งด่าน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี บาดเจ็บ 6 นาย เด็ก 3 ขวบ เจ็บ 1 ราย เชื่อสร้างสถานการณ์ ก่อนครบรอบ 21 ปี ไฟใต้