สอบปากคำแล้ว 39 ปาก คดี ผญบ.ยิงพระ-ญาติเชื่อจัดฉาก

สุราษฎร์ธานี, ชุมพร 30 เม.ย.- ตำรวจสอบปากคำแล้ว 39 ปาก คดีผู้ใหญ่บ้านยิงเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ถ้ำเขาเพ-ลา มรณภาพ และชาวบ้านเสียชีวิตอีก  1 คน โดยอ้างว่าฝ่าเคอร์ฟิวออกมาตีผึ้ง จึงถูกจับขณะชักปืนจะยิงต่อสู้ ด้านครอบครัวเจ้าอาวาสวอนขอความเป็นธรรม เชื่อไม่ใช่การวิสามัญ แต่เป็นการจัดฉาก เพราะเจ้าอาวาสเป็นคนถนัดขวา และสภาพศพในมือขวายังกำโทรศัพท์ไว้แน่น



ความคืบหน้าคดีนายมานพ โกปิน อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ใช้ปืนลูกซองยิงพระชลธาร ถาวโร กาญจนบุตร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ถ้ำเขาเพ-ลา อ.ท่าชนะ พระนักพัฒนาชื่อดัง มรณภาพ และยิงนายชูรัตน์ คงคล้าย อายุ 47 ปี เสียชีวิตกลางดึก วันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นคาดว่าปมขัดแย้งเรื่องการเก็บน้ำผึ้งบนต้นไม้เขตสำนักสงฆ์


วันนี้ ผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่า พระชลธาร ไม่ได้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว แต่ผู้ใหญ่บ้านพยายามยื้อเวลา และล้อมหน้าล้อมหลัง ไม่ให้กลับขึ้นกุฏิ จนเกิดการโต้เถียงกันขึ้น กระทั่งชุดเคลื่อนที่เร็วฝ่ายปกครองมาถึง จึงเกิดการยิงกันขึ้น ยืนยันพระชลธารกับนายชูรัตน์ ไม่ได้ขัดขืน ล่าสุด วันนี้พยานในเหตุการณ์เข้าให้ปากคำว่า ผู้ใหญ่บ้านยิงนายชูรัตน์ ก่อน ขณะที่ถูกบังคับให้นั่งอยู่ที่พื้นข้างรถ จนเสียชีวิต ก่อนจะหันไปยิงพระชลธารเข้าที่ท้ายทอย และพระวิ่งหนีไป จนล้มลงมรณภาพ  ขณะที่พระวิ่งไปล้มนั้น ปลัดอำเภอไปตรวจสอบพบว่า พระชลธารยังไม่มรณภาพ  จึงสั่งให้คนในทีมงานไปถอยรถ เพื่อนำร่างพระชลธาร ไปส่งโรงพยาบาล ขณะกำลังถอยรถ ผู้ใหญ่บ้านตามเข้าไปยิงซ้ำจนพระมรณภาพท่ามกลางสายตา ของปลัดอำเภอและเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเหตุการณ์กว่า 10 นาย


ด้านนายสมบูรณ์ ทองพัฒน์ รองประธานสภาทนายความภาค 8 ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลคดีนี้ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนสอบปากคำไปแล้ว 39 ปาก เหลือเพียงรอผลพิสูจน์หลักฐาน 9 เมื่อศาลไต่สวนแล้ว จะส่งสำนวนกลับไปที่ให้พนักงานสอบสวน สรุปสำนวนคดีก่อนที่จะสั่งฟ้องต่อไป ขณะที่ครอบคัวและลูกศิษย์ของพระชลธาร มีมติให้เก็บศพพระชลธาร ไว้โดยไม่มีกำหนด จนกว่าผลการชันสูตรศพจะออกมา หรือจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะประเด็นที่ผู้ต้องหาอ้างว่าพระชักปืนต่อสู้ ซึ่งขัดแย้งกับคำให้การของพยาน

ครอบครัวพระทำใจไม่ได้ ถูกปัดเป็นคดีวิสามัญ


ด้านนางประกอบ กาจนบุตร อายุ 79 ปี แม่ของพระชลธาร กล่าวทั้งน้ำตาว่า ทันทีที่ทราบว่ามีการตั้งข้อหาผู้ใหญ่บ้านเป็นคดีวิสามัญ รู้สึกรับไม่ได้ และไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากเป็นการยิงด้านหลังพระ ยิงที่ท้ายทอย และไม่เชื่อว่าพระจะพกปืน กลัวพระตายฟรี “ในวันนี้ยังคงเสียใจที่ได้สูญเสียลูกชายไป ทั้งที่เคยห้ามก่อนหน้านี้แล้ว แต่พระลูกชายบอกว่าไม่กลัว เพราะทำเพื่อชาวบ้าน ทำงานให้เพื่อรักษาป่าไม้ ตายไปก็จบ” นางประกอบ กล่าวทั้งน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาตลอดเวลา  

นายวิรัตน์ ขวัญใจ พี่ชายของพระ กล่าวว่า “จะเป็นการวิสามัญได้อย่างไร ในเมื่อพระอยู่ในสภาพสวมเพียงสบง จะพกปืนไปในที่เกิดเหตุได้อย่างไร อีกทั้งพระน้องชายถนัดมือขวา ในมือขวากำโทรศัพท์ไว้แล้วจะใช้มือไหนยิง จึงเชื่อว่าเป็นการจัดฉาก ขณะนี้ยังไม่เผาศพพระ ต้องการเก็บไว้ เนื่องจากคาดเดาไว้แล้วว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และนำศพแห่ไปประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรม ที่หน้า สภ.ท่าชนะ

ยังไม่สรุปสำนวนคดี ผญบ.ยิงพระนักพัฒนา


พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยคดีนี้ว่า เบื้องต้นเหตุมาจากปมขัดแย้งเรื่องการเก็บน้ำผึ้งบนต้นไม้เขตสำนักสงฆ์ โดยพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาต่อนายมานพ ผู้ใหญ่บ้าน ส่วนพระและชาวบ้านถูกตั้งข้อหาฝ่าฝืนเคอร์ฟิว

คดีนี้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีรายงานว่า พนักงานสอบสวน สภ.ท่าชนะ แบ่งเป็นสำนวนสอบสวน 3 สำนวน คือ ชันสูตรพลิกศพพระ, สำนวนคดีผู้ใหญ่บ้านยิงพระ ซึ่งได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ใหญ่บ้านในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯไปแล้ว และสำนวนคดีฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ซึ่งทั้ง 3 สำนวนยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานบุคคล ทั้งฝ่ายพระและฝ่ายผู้ใหญ่บ้าน  ที่เกี่ยวข้องให้ครอบคลุม ชัดเจน ทุกประเด็น และรอพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบสำนวน จึงยังไม่สามารถสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการได้ในขณะนี้ แต่ยืนยันจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนส่งให้อัยการได้ทันตามกรอบเงื่อนไขของกฎหมาย และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.ออกแถลงการณ์กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

30 ก.ค.- กองทัพบกออกแถลงการณ์ กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงเป็นครั้งที่สอง บ่อนทำลายการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี ขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบ ย้ำจะดำเนินการอย่างเหมาะสม เด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยไทย ตามที่รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการประกาศหยุดยิง เพื่อยุติการปะทะทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 นาฬิกา ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 นั้น กองทัพบกขอยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด โดยได้ระงับการใช้กำลังทุกรูปแบบ และลดกิจกรรมทางทหารในพื้นที่ เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งสันติภาพ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความร่วมมือที่สร้างสรรค์ระหว่างทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ตาม กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า ในวันที่ 29 – 30 กรกฎาคม 2568 กองทัพกัมพูชาได้กระทำการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ การกระทำของกองทัพกัมพูชาในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง นับเป็นครั้งที่สองภายหลังจากที่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ และสะท้อนถึงพฤติกรรมที่ไม่เคารพต่อพันธกรณีระหว่างประเทศ ตลอดจนเป็นการบ่อนทำลายความพยายามในการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความไว้วางใจที่ควรมีระหว่างสองประเทศ กองทัพบกขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบของกองทัพกัมพูชาอย่างถึงที่สุด และขอแจ้งให้ทราบว่า ฝ่ายไทยจะยังคงดำรงตนอยู่บนหลักแห่งความอดกลั้น สันติภาพ และมนุษยธรรมอย่างสูงสุด อย่างไรก็ดี หากมีการละเมิดต่อเนื่อง กองทัพบกจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมและจำเป็นอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนไทยโดยไม่ละเว้น จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน -สำนักข่าวไทย

กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เปิดแนวปะทะพื้นที่ “อานม้า-ภูมะเขือ”

30 ก.ค. – กัมพูชากลับกลอก ละเมิดข้อตกลงอีก เปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ “อานม้า และภูมะเขือ” ขณะที่ ทบ.เผยทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็ก สลับระเบิดขว้าง เมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยก่อนอีกแล้ว ละเมิดข้อตกลงถึง 2 ครั้ง โดยเปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ที่ อานม้า และภูมะเขือ ทบ.เปิดเผยว่า ทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็กสลับระเบิดขว้าง โดยเมื่อเวลา 20.45 น. แหล่งข่าวฝ่ายมั่นคงรายงานว่า ช่องอานม้า มีเหตุปะทะ กัมพูชาเปิดฉากยิง หวังยึดพื้นที่ ฝ่ายไทยตอบโต้ ขณะที่ช่วงเวลา 22.19 น. พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบขั้นต้นเกิดเหตุปะทะที่ภูมะเขือ และช่องอานม้า โดยมีปืนเล็กกับระเบิดขว้างเข้ามาที่ฐานฝั่งไทย ประมาณ 30 นาที ขณะที่เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์ไม่ต้องนอน ตามคาด! กัมพูชาละเมิดอีกแล้ว อานม้าปะทะภูมะเขือ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสาน-กลาง-ตอ.ฝนตกหนัก กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย