BIG STORY : เปิดสาเหตุบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิด-19 สูง

กทม. 9 เม.ย. – วันนี้เป็นครั้งแรกที่ ศบค. เปิดเผยถึงแหล่งแพร่เชื้อที่ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิด-19 สูงถึง 80 ราย พบติดเชื้อมากสุด คือ พยาบาล และแพทย์ ซึ่งมีความเสี่ยงสูง มาจากหลายสาเหตุ 


การแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 เกิดขึ้นได้ทั้งจากการสัมผัสสิ่งคัดหลั่งที่เป็นละอองฝอยขนาดใหญ่ เช่น น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ และจากการทำหัตถการ เช่น การตรวจหาเชื้อ ใส่เครื่องช่วยหายใจ และการดูดเสมหะ ซึ่งจะทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อในอากาศไปได้ไกล ความเสี่ยงทั้งสองแบบนี้ เป็นสิ่งที่บุคลากรทางการแพทย์ต้องเผชิญทุกวัน และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขามียอดติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวันเช่นกัน


    

ข้อมูลตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง 8 เมษายน (ศบค.) ระบุว่ามีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขติดเชื้อโควิด-19 แล้วถึง 80 ราย คิดเป็น 3.4% ของผู้ป่วยทั้งหมด แบ่งเป็นติดเชื้อในโรงพยาบาล 50 ราย หรือคิดเป็น 62% จากการรักษาผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน แผนกฉุกเฉิน ทันตกรรม ห้องปฏิบัติการ และพนักงานสนับสนุน ติดในชุมชน 18 ราย ที่เหลืออยู่ระหว่างการสอบสวน ในจำนวนนี้เป็นพยาบาล และผู้ช่วยพยาบาล 36 ราย แพทย์ 16 ราย ที่เหลือเป็นเภสัชกร ทันตแพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง


อุปนายกสภาการพยาบาล บอกว่า สาเหตุที่พยาบาลมียอดติดเชื้อสูงที่สุด ไม่ใช่ไม่รู้ทักษะในการป้องกันตัวเอง แต่เป็นเพราะพวกเขามีความเสี่ยงมาก ต้องสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยเป็นระยะเวลายาวนานกว่าแพทย์และเจ้าหน้าที่สาขาอื่นๆ

อีกสาเหตุหลัก คือ อุปกรณ์ป้องกันตัวที่มีไม่เพียงพอ ตอนนี้มีความต้องการใช้มากขึ้นตามจำนวนยอดผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย และชุด PPE เช่นเดียวกับจำนวนบุคลากรที่ยังขาดแคลน เมื่อพยาบาลในสาขาอื่นๆ ต้องเข้ามาช่วยงานในส่วนของโรคติดเชื้อ ก็อาจไม่ได้มีความชำนาญมากพอ เช่น การสวมใส่และถอดชุด PPE หากทำผิดวิธีก็จะมีโอกาสติดเชื้อสูงมาก เช่นเดียวกับการที่พยาบาลต้องไปทำหน้าที่เก็บสิ่งส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19

ภาระงานที่หนักและเหนื่อยเกินกำลัง อุปกรณ์ป้องกันที่มีไม่เพียงพอ ยังเป็นความเสี่ยงที่พยาบาลและแพทย์ต้องเผชิญระหว่างช่วยชีวิตผู้ป่วยโควิด-19 สิ่งที่ทุกคนช่วยได้เพื่อไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่านี้ คือ การให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันของรัฐ และไม่ปกปิดข้อมูลซึ่งอาจทำให้บุคลากรทางการแพทย์ต้องติดเชื้อ หรือถูกกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการเป็นร้อยรายเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในจังหวัดชุมพรและภูเก็ต. -สำนักข่าวไทย 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว