เชียงใหม่ 7 เม.ย.- ในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด หลายอาชีพต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ รวมทั้งตำรวจที่ต้องสกัดจับคนร้าย ซึ่งอาจจะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 จึงต้องปรับการทำงาน เพิ่มอุปกรณ์ และเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น อย่างตำรวจภูธรภาค 5 จัดชุดปฏิบัติการพิเศษที่ใช้สกัดจับคนร้ายกลุ่มเสี่ยงโรคโควิด-19 ในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อลดความเสี่ยงตำรวจติดเชื้อ ขณะเข้าจับกุม
จากสถานการณ์จำลอง เมื่อคนร้ายหรือผู้ต้องสงสัยที่มีอาการคล้ายผู้ป่วย หรือมาจากพื้นที่เสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด-19 แหกด่าน หรือหลบหนีการจับกุม ชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมกับชุดปฏิบัติการรับมือคนร้ายที่เสี่ยงติดเชื้อพร้อมอุปกรณ์จะเข้าไปปฏิบัติการทันทีในการจับกุมคนร้าย
โดยชุดปฏิบัติการยุทธวิธีในเครื่องแบบปกติ จะทำงานร่วมกับชุดปฏิบัติการรับมือคนร้ายเสี่ยงโควิด-19 ซึ่งสวมชุดป้องกันเชื้อส่วนบุคคล หรือพีพีอี สวมถุงมือยาง และหน้ากากป้องกันเชื้อครบชุด พร้อมกับไม้ค้ำยัน และอุปกรณ์พิเศษที่ดัดแปลงจากไม้ห่วงสวมถุงพลาสติก ในการจับกุมคนร้ายด้วยอุปกรณ์ที่ใช้ในระยะห่าง และขณะควบคุมตัวจะใช้ถุงพลาสติกครอบศีรษะคนร้ายไว้ทันที เพื่อป้องกันสารคัดหลั่งหรือการพ่นถ่มน้ำลาย ซึ่งเสี่ยงทำให้ตำรวจติดเชื้อได้
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ยืนยันว่า ชุดปฏิบัติการรับมือกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีทั้งในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน จะเข้าไปช่วยในกรณีกลุ่มเสี่ยงที่ฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิว ตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน กลุ่มที่ไม่ยอมกักตัว รวมทั้งกลุ่มเสี่ยงที่หลบหนีจากสถานที่กักตัว ซึ่งจำเป็นต้องให้ตำรวจเข้าไปช่วยจับกุมด้วย
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ยังปล่อยขบวนรถประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ไม่ฝ่าฝืนกฎหมายออกนอกเคหสถานตามเวลาที่กำหนด ซึ่ง 8 จังหวัดภาคเหนือดำเนินคดีไปแล้ว 278 ราย และตักเตือนอีกเกือบ 40 คน.-สำนักข่าวไทย