กทม.7 เม.ย.- รองโฆษกอัยการสูงสุดเผยสถิติ 4 วัน หลังประกาศเคอร์ฟิว มีผู้ฝ่าฝืน 438 คดี โดยทุกคดี อัยการขอให้ศาลลงโทษสถานหนัก
นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุภาพรวมทั้งประเทศในการดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกจากพื้นที่เวลา 22.00-04.00 น.ตั้งแต่วันที่ 3-6 เมษายน พบมีการฝ่าฝืนทั้งสิ้น 438 คดี มีผู้ถูกดำเนินคดี 623 คน ซึ่งทุกคดีพนักงานอัยการได้มีคำขอให้ศาลลงโทษสถานหนัก ศาลได้ใช้ดุลยพิจลงโทษจำเลยตามคำขอ เช่น ศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา ลงโทษจำคุก 2-4 เดือน โดยไม่รอการลงอาญา และศาลแขวงจังหวัดอุบลราชธานี จำคุก 15 วัน เปลี่ยนเป็นกักขังแทน 15 วัน ในสถานกักกันของกรมราชทัณฑ์ ช่วงอายุที่กระทำผิดมากที่สุด อายุระหว่าง 20-35 ปี รองลงมาคือช่วง 35-55 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุที่กระทรวงสาธารณสุขให้ระมัดระวังการแพร่เชื้อโควิด-19
สำหรับขั้นตอนการดำเนินคดี เนื่องจากเป็นกรณี ยังคับใช้กฎหมาย ตาม อำนาจ พ.ร.ก .ฉุกเฉิน พนักงานสอบสวนต้องสรุปสำนวนส่งต่อ พนักงานงานอัยการ ภายใน 48 ชั่วโมง จากนั้นคดีจะขึ้นสู่ศาลแขวง เนื่องจากเป็นคดีมีอัตราโทษไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท อย่างไรก็ตามทุกคดีพนักงานอัยการได้ส่งให้ศาลพิจารณาหมดแล้ว พร้อมเตือนประชาชนให้เคารพกฎหมาย เพราะเจ้าพนักงานจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และลงโทษสถานหนักเท่านั้น .-สำนักข่าวไทย