ทำเนียบรัฐบาล 7 เม.ย.-ประชุม ครม.วันนี้เตรียมเคาะ พ.ร.ก.กู้เงิน เพิ่มวงเงินเยียวยาเศรษฐกิจระยะสาม ตัดงบแต่ละกระทรวงนำมาสู้โควิด-19
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) แบบเต็มคณะ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยจำกัดผู้เข้าร่วมประชุมและผู้ติดตามไม่ให้เกิดความแออัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยคาดว่า ที่ประชุมครม. วันนี้(7 เม.ย.) จะพิจารณารายละเอียดการออกพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) 3 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.ก.การให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษหรือซอฟท์โลน พ.ร.ก.การให้อำนาจธปท.ซื้อตราสารหนี้เอกชนที่ครบกำหนดชำระ และพ.ร.ก.การให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คาดว่าที่ประชุมครม.จะพิจารณาขยายกรอบวงเงินที่จะใช้ดูแลและเยียวยาเศรษฐกิจในระยะที่สาม โดยเพิ่มวงเงินมากขึ้น จากเดิมคาดว่าจะอยู่ที่ 1.6 ล้านล้านบาท เป็น 1.9 ล้านล้านบาท เนื่องจากมีความกังวลว่ากรอบวงเงินเดิมจะไม่เพียงพอในการพยุงเศรษฐกิจในช่วงต่อจากนี้ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีหารือร่วมกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายวิรไท สันติประภพผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวันนี้ จะให้แต่ละกระทรวงเสนอโครงการที่จะใช้ช่วยเหลือและเยียวยาประชาชน รวมถึงให้เสนอโครงการที่เกี่ยวข้องกับด้านสาธารณสุข เพื่อสรุปตัวเลขเม็ดเงินที่จะใช้อีกครั้งโดยจะไม่มีมาตรการออกมาอย่างชัดเจน แต่จะปรับเปลี่ยนให้แต่ละกระทรวงเสนอมาเหมือนกับการขอใช้งบประมาณประจำปี เพื่อเป็นการกระจายความช่วยเหลือให้ตรงจุด ซึ่งคณะรัฐมนตรีอาจจะหารือถึงรายละเอียดเรื่องการตัดงบประมาณจากทุกกระทรวงเพื่อมาใช้แก้ปัญหาวิกฤติโควิด-19
ขณะที่กระทรวงการคลังจะเสนอร่างประกาศกระทรวงการคลังเรื่องการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับของที่นำเข้ามาเพื่อใช้รักษาวินิจฉัยหรือป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้านกระทรวงศึกษาธิการ เตรียมขออนุมัติหลักการโครงการส่งเสริมการพัฒนาโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในโครงการตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีให้มีคุณภาพ และวาระเพื่อทราบเรื่องผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารงานของรัฐบาล ปี 2563 ครบ 6 เดือนของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) .-สำนักข่าวไทย
