ทำเนียบฯ 4 เม.ย.- ศบค.ให้ 152 คนไทยที่กลับจากต่างประเทศ คืนวานนี้ แล้วไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการกักตัวในสถานที่ที่รัฐจัดให้ รายจัวภายใน 18.00 น. วันนี้ ที่ ECO หรือ ศูนย์ดำรงธรรม
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลง กรณีคนไทยจำนวน 158 คน เดินทางกลับจากต่างประเทศ คืนวานนี้ (3 เม.ย.) แล้วไมม่ยอมเข้าสู่กระบวนการกักตัว 14 วัน ในสถานที่ที่รัฐจัดไว้ให้ (state quarantine) ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ว่า 158 คน มาจากญี่ปุ่น 103 คน การ์ต้า 11 คน สิงคโปร์ 44 คน ในจำนวนนี้ มี 6 คน ยินยอมเข้าสู่กระบวนการกักตัว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วน 152 คน ที่ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการกักตัว วันนี้จะมีคำสั่งตามตัวกลับมาทั้งหมด เพื่อเข้าสู่กระบวนการกักตัว ซึ่งมีชุดข้อมูลอยู่ว่าอยู่ในพื่นที่ กทม. นนทบุรี และชลบุรี และขณะนี้ตำรวจในพื้นที่รับทราบแล้ว จึงขอให้ผู้ที่อยู่ใน กทม.และปริมณฑล มารายงานตัวที่ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ EOC โทรศัพท์สอบถามที่ 02-1329950 และ 063-234 -4734 ส่วนคนที่อยู่ต่างจังหวัดให้ติดต่อไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ภายในเวลา 18.00 น.ของวันนี้
“หากไม่ทำตามจะถือว่าฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ จะถูกลงโทษทางกฎหมาย ขณะที่ ญาติของทั้ง 152 คน ขอให้เดินทางมารายงานตัวด้วย เพื่อลงบันทึกและเข้าสู่กระบวนการกักตัวที่บ้าน 14 วัน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับคนที่อยู่ระหว่างเดินทางกลับประเทศไทย และเข้าประเทศไม่ได้ ขอให้ติดต่อไปยังสถานทูตไทย ณ ประเทศที่เดินมา หรือสถานทูตไทย ในประเทศที่ต่อเครื่อง เนื่องจากกรมการบินพลเรือนได้ออกประกาศห้ามสายการบินเข้าท่าอากาศยานไทย ระหว่างวันที่ 4-6 เม.ย. นี้ เพื่อขอความช่วยเหลือจากสถานทูต ส่วนคนไทยที่ขออนุญาตเดินทางไว้แล้ว เป็นกลุ่มร่วมพิธีทางศาสนากว่า 100 คน จากมาเลเซีย 83 คน และนักเรียนแลกเปลี่ยน afs หลักร้อยคน ซึ่งทุกคนเมื่อกลับมาแล้ว ทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัวที่ภาครัฐจัดให้ ซึ่งจะมีหนังสือยินยอมให้เซ็นรับทราบ
นพ.ทวีศิลป์ ยอมรับว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามตัวคนไทย 152 คนที่ไม่เข้าสู่กระบวนการกักตัว เมื่อคืนวานนี้ เพราะเป็นห่วง ไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก และไม่ต้องการให้มีการละเมิดกฎระเบียบ โดยมอบให้ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ประชุมด่วนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อเช้าวันนี้ (4 เม.ย.) เพื่อให้รู้ว่ารัฐบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือกับการประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิววันแรกด้วย
ด้าน พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รายงานผลการปฎิบัติหน้าที่ หลังประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหสถานเวลา 22.00 – 04.00 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นวันแรก ว่า มียานพาหนะที่ผ่านจุดตรวจ 7,590 จุด จำนวน 16,010 คน ส่วนใหญ่เป็นการขนส่งสินค้าและขนส่งทางการเกษตร พบการฝ่าฝืนคำสั่งกรณียานพาหนะ 144 คัน จำนวนคน 177 คน รวมกลุ่มชุมนุมมั่วสุมที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค มีการดำเนินคดี 42 คดี เน้นในกลุ่มมั่วสุมแข่งรถและสังสรรค์ ส่วนกรณีการเดินทางข้ามจังหวัด และมีการปิดพื้นที่เข้า-ออกจังหวัด ประชาชนขอให้ประชาชนสอบถามไปที่สายด่วน 1599 และ 191 .- สำนักข่าวไทย