fbpx

ศูนย์ EOC สุวรรณภูมิ เผยผลคัดกรองผู้โดยสาร

กรุงเทพฯ  25 มี.ค. – ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ EMERGENCY OPERATION CENTER : EOC (COVID-19) ขอรายงานผลการสรุปจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเข้า – ออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ประจำวันที่ 25 มีนาคม 2563 โดยมีรายละเอียดดังนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 24 มี.ค.63 เวลา 00.00 – 23.59 น.) จำนวน 369 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 210 เที่ยวบิน ขาออก 106 เที่ยวบิน ขาเข้า 104 เที่ยวบิน  และเที่ยวบินภายในประเทศ 159 เที่ยวบิน ขาออก 78 เที่ยวบิน ขาเข้า 81 เที่ยวบิน 


ผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเข้า – ออก ณ ทสภ. 27,596 คน  ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 16,282 คน แบ่งเป็นขาออก 13,798 คน  ขาเข้า 2,484 คน และผู้โดยสารภายในประเทศ 11,314 คน แบ่งเป็นขาออก 3,447 คนขาเข้า 7,867 คน เมื่อเปรียบเทียบตัวเลขเที่ยวบินและผู้โดยสารจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว พบว่า ทสภ. มีจำนวนเที่ยวบินลดลงร้อยละ 85.3 และจำนวนผู้โดยสารลดลงร้อยละ 66.1

ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ทสภ.ได้ดำเนินการคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ 2,484 คน ไม่พบผู้โดยสารเข้าเกณฑ์ PUI แต่เก็บตัวอย่างผู้โดยสารคนไทยที่มีประวัติเสี่ยงสัมผัสเชื้อส่งตรวจ 9 คน รอผล Lab ผู้โดยสารขาเข้าชาวต่างชาติที่เอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณาเข้าเมืองไม่ครบตามที่กำหนดและถูกปฏิเสธการเข้าเมือง 18 ราย สำหรับผู้โดยสารที่เป็นแรงงานไทยที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีใต้ 46 คน เป็นผู้โดยสารที่มีวีซ่าการเดินทางหมดอายุ (Overstay)  20 ราย ไม่พบผู้โดยสารเข้าเกณฑ์ PUI 


ทั้งนี้ วันที่ 24 มีนาคม 2563 มีเที่ยวบินที่มาจากประเทศเกาหลี 3 เที่ยวบิน (สายการบินไทย 1 เที่ยวบิน  KOREAN AIRLINES 2 เที่ยวบิน) ผู้โดยสาร 132 คน เป็นคนไทย 46 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้โดยสารที่เป็นแรงงานไทยที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีมีวีซ่าการเดินทางหมดอายุ (Overstay)  16 คนและตรวจไม่พบผู้โดยสารที่เข้าเกณฑ์ PUI 

นอกจากนี้ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ทสภ. ยังได้ดำเนินการคัดกรองผู้โดยสารขาออก 13,798 คน ไม่พบผู้โดยสารเข้าเกณฑ์ PUI รวมถึงได้มีการเก็บตัวอย่างบุคลากรใน ทสภ. ส่งตรวจ  2 คน โดยอยู่ในระหว่างรอผล Lab .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้