เสนอรัฐ “อัดยาแรง”รองรับผลกระทบCOVID-19 รอบนี้หนักกว่าต้มยำกุ้ง

กรุงเทพฯ 20 มี.ค. – เอกชนส่งสัญญาณถึงรัฐบาล อัดยาแรงพยุงเศรษฐกิจรองรับผลกระทบ COVID-19 ซึ่งจะหนักกว่าวิกฤติต้มยำกุ้ง แนะรัฐออกพันธบัตรดูดสภาพคล่องเตรียมการันตีเงินเดือนผู้ตกงาน ช่วยผู้ประกอบการ  รวมทั้งควรลดภาษีมูลค่าเพิ่ม  


นายสารัชถ์ รัตนาวะดี  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากสถานการณ์ระบาดของโรค COVID-19 ครั้งนี้ จะรุนแรงกว่าวิกฤติต้มยำกุ้งปี2540 เนื่องจากกระทบมายังผู้ประกอบขนาดกลางและขนาดเล็ก ในขณะที่ต้มยำกุ้งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ เพราะฉะนั้นทาง ทางรัฐบาลจะต้องเตรียมงานให้ดี มีมาตรการรองรับกระตุ้นโดยใช้ยาแรงเหมือนกับหลายประเทศดำเนินการ โดยเฉพาะการอัดเงินเข้าระบบ ซึ่งในขณะนี้ประเทศไทยมีสภาพคล่องสูงมาก  รัฐบาลต้องวางแผนใช้ส่วนนี้ให้เป็นประโยชน์ เพราะภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ ผู้ประกอบการจะแบกรับภาระได้ 1-2 เดือนเท่านั้น จากนั้นก็จะขาดภาพคล่อง และต้องมีการปลดพนักงานตาม ซึ่งจะเป็นภาวะลูกโซ่ในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ การเงินของภาครัฐ-เอกชนมีเป็นจำนวนมาก ก็ควรหารือและออกมาตรการโดยเร็ว เพราะ หากผู้ประกอบการปิดกิจการเป็นจำนวนมาก และยาวนาน การฟื้นตัวจะยาก

“ภาครัฐต้องเตรียมงานให้ดี อัดยาแรง เพราะจากนี้ไปผลกระทบจะเห็นในวงกว้างจากภาคท่องเที่ยว ภาคขนส่ง เอสเอ็มอี ลงไปจนถึงเกษตรกร แบงก์จะไม่กล้าปล่อยกู้หนี้ต่างๆ จะกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล ดั้งนั้น ภาครัฐต้องดูดสภาพคล่องมาใช้ โดยออกพันธบัตรมาการันตีเงินกู้ที่ขาดสภาพคล่อง การันตีเงินเดือนผู้ตกงานซักครึ่งหนึ่ง รวมไปถึงการควรพิจารณานอกจากลดดอกเบี้ยแล้ว ก็ลดภาษี ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม” นายสารัชถ์กล่าว


ส่วนผลกระทบต่อกลุ่มกัลฟ์ นั้น นายสารัชถ์ ระบุ ธุรกิจไฟฟ้ายังไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากโรงงานอุตสาหกรรมยังเดินเครื่องผลิตเช่นเดิม การใช้ไฟฟ้ายังมีต่อเนื่อง แม้สถานที่ทำงานหลายแห่งให้ทำงานอยู่กับบ้านก็ตาม ประชาชนอยู่กับบ้านก็ยังใช้ไฟฟ้าต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนผลกระทบมีเพียงการติดต่อกับต่างชาติที่เข้าทำงานร่วมในด้านต่างๆ ก็ให้เลื่อนระยะเวลาออกไป รวมทั้งโครงการเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าจากชุมชนต่างๆก็ให้ระงับไปก่อน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ส่วนโครงการลงทุนระยะยาว จะกระทบหรือไม่นั้น คงต้องรอดูเรื่องผลกระทบของโควิด-19 ว่าจะกระทบนานมากน้อยขนาดไหน ซึ่งในขณะนี้ไม่มีใครระบุได้

ส่วนโครงการพื้นฐาน ที่กลุ่ม ปตท.และกัลฟ์ร่วมทุนในโครงการท่าเรือมาบตาพุดระยะที่ 3 ยังเดินหน้าตามแผนงานเดิม ไม่ชะลอการลงทุน เพราะเป็นโครงสร้างพื้นฐานช่วยเรื่องการจ้างงาน ส่วน โครงการท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 นั้น อยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองกับภาครัฐ โดยการที่ กลุ่มผู้ลงทุนเสนอผลประโยชน์ตอบแทนเพียง 12,000 ล้านบาท จากที่ ครม.กำหนดกรอบผลตอบแทนแก่รัฐ 32,000 ล้านบาทนั้น ในเรื่องนี้ต้องมาดูภาพรวมเพราะการประมูลรอบแรกไม่มีผู้เสนอประมูล การประมูลรอบนี้เป็นการประมูลครั้งที่ 2 ผลตอบแทนก็พิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งในขณะนั้นการส่งออกชะลอตัว เงินบาทแข็งค่า จึงเสนอผลตอบแทนที่ต่ำกว่าที่ภาครัฐกำหนด -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ