Chinese Finance Minister Lan Fo'an

จีนเปิดมาตรการรับประกันการใช้จ่ายการคลังที่จำเป็น

ปักกิ่ง 12 ต.ค.- นายหลัน โฝอัน รัฐมนตรีคลังจีนแถลงมาตรการ 3 ประการเพื่อมุ่งรักษาสมดุลการคลังของประเทศในปีนี้ ควบคู่ไปกับการทำให้การดำเนินการทางการคลังมีเสถียรภาพ และรับประกันการใช้จ่ายในนโยบายที่สำคัญ สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี (CCTV) ของทางการจีนรายงานว่า ในการแถลงข่าววันนี้นายหลันได้ย้ำว่า รัฐบาลจีนจะมุ่งเน้นเรื่องการเพิ่มความแข็งแกร่งทางการคลังของรัฐบาลท้องถิ่น การสร้างความมั่นใจว่าจะมีการใช้จ่ายในนโยบายที่สำคัญ และการนำทุนที่ระดมจากพันบัตรหลากหลายรูปแบบมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ นายหลันระบุว่า ช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีการใช้จ่ายภาครัฐทั้งหมด 20.18 ล้านล้านหยวน (ราว 95 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้ภาครัฐต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้เมื่อต้นปี จึงต้องดำเนินมาตรการทุกอย่างเพื่อให้รายรับและรายจ่ายสมดุลในปีนี้ ขณะเดียวกันรัฐบาลกลางจะสนับสนุนรัฐบาลท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหาหนี้สินและใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินที่มีอยู่เพื่อให้สามารถใช้จ่ายทางการคลังที่จำเป็น รัฐบาลกลางจะส่งเสริมการใช้จ่ายด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการศึกษา จะเพิ่มเงินบำนาญให้แก่คนในเขตเมืองและชนบทรวมถึงบริการสาธารณสุข จะให้การสนับสนุนอย่างแข็งขันแก่ยุทธศาสตร์หลักอย่างการฟื้นฟูชนบท การพัฒนาสีเขียว และการพัฒนาภูมิภาคอย่างประสานกัน เพื่อสร้างความมั่นใจว่านโยบายทุกประการของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จะได้รับการปฏิบัติตามอย่างเต็มที่ รัฐมนตรีคลังจีนเผยด้วยว่า กระทรวงกำลังเร่งการใช้ทุนที่ระดมได้จากการออกพันธบัตรเพิ่มเติม และกำลังออกพันธบัตรพิเศษระยะยาวที่มีมูลค่ารวม 2.3 ล้านล้านหยวน (ราว 10.83 ล้านล้านบาท).-814.-สำนักข่าวไทย  

ธนาคารกลางญี่ปุ่นยุติดอกเบี้ยติดลบ

โตเกียว 19 มี.ค.- ธนาคารกลางของญี่ปุ่นหรือบีโอเจ (BOJ) ประกาศยุติการใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายติดลบที่ใช้มานาน 8 ปี และมาตรการอื่น ๆ ในวันนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนนโยบายครั้งประวัติศาสตร์ หลังจากมุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยมาตรการทางการเงินขนานใหญ่มาหลายสิบปี บีโอเจประกาศในวันนี้โดยเป็นไปตามที่ตลาดคาดหมายว่า ได้ตัดสินใจยุตินโยบายที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2559 เรื่องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมร้อยละ 0.1 กับเงินสำรองส่วนเกินบางส่วนที่สถาบันการเงินฝากไว้กับบีโอเจ และได้กำหนดให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมข้ามคืนระหว่างธนาคารเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายใหม่ โดยให้เคลื่อนไหวในกรอบร้อยละ 0-0.1 เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ชี้ก่อนหน้านี้ว่า จะถือว่าเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 17 ปี ซึ่งจะมีความสำคัญอย่างมากในเชิงสัญลักษณ์ แม้ว่าจะมีผลต่อเศรษฐกิจน้อยมากก็ตาม บีโอเจยังได้ตัดสินใจยุตินโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (yield curve control) ที่ใช้ควบคุมอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้อยู่ในกรอบร้อยละ 0 มาตั้งแต่ปี 2559 แต่จะเดินหน้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลในจำนวนเท่ากับที่ผ่านมา และซื้อเพิ่มในกรณีที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันได้ตัดสินใจยุติการซื้อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น กองทุนเปิดที่ซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์หรืออีทีเอฟ (ETF) กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือกองรีท (REITs).-814.-สำนักข่าวไทย  

รัฐบาลสหรัฐเข้าแทรกแซงหวังสกัดวิกฤตธนาคาร

วอชิงตัน 13 มี.ค.- รัฐบาลสหรัฐดำเนินมาตรการพิเศษหวังหยุดยั้งวิกฤตธนาคารที่อาจจะเกิดขึ้น หลังจากสั่งปิดธนาคารใหญ่ 2 แห่ง กระทรวงคลังสหรัฐ ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด และสถาบันคุ้มครองเงินฝากรัฐบาลกลางสหรัฐหรือเอฟดีไอซี (FDIC) ออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐ หวังเรียกความเชื่อมั่นในระบบธนาคารของประเทศว่า ผู้ฝากเงินของธนาคารซิลิคอนวัลลีย์แบงก์หรือเอสวีบี (SVB) ที่ถูกสั่งปิดและอายัดทรัพย์สินเมื่อวันศุกร์ และธนาคารซิกเนเจอร์แบงก์ที่ถูกสั่งปิดและอายัดทรัพย์สินเมื่อวันอาทิตย์จะได้รับความคุ้มครองทุกคน และจะสามารถเบิกถอนเงินได้ในวันจันทร์ รวมถึงเงินฝากที่เกินจากวงเงินคุ้มครอง 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.62 ล้านบาท) ด้วย ขณะเดียวกันเฟดยังได้ประกาศโครงการให้สินเชื่อฉุกเฉินแบบครอบคลุมแก่ธนาคารพาณิชย์ เพื่อสกัดกระแสการแห่ถอนเงิน (bank run) ที่จะสั่นคลอนเสถียรภาพของระบบธนาคารและเศรษฐกิจในภาพรวม โครงการนี้จะช่วยให้ธนาคารมีเงินสดให้ลูกค้าเบิกถอน ด้วยการนำพันธบัตรไปค้ำประกันการกู้ยืมจากเฟด โดยไม่ต้องขายพันธบัตรในราคาขาดทุน เอสวีบีมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองซานตาคลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย ตั้งขึ้นในปี 2526 เป็นธนาคารใหญ่อันดับที่ 16 ของสหรัฐ มีสินทรัพย์ทั้งหมด 209,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.27 ล้านล้านบาท) ส่วนซิกเนเจอร์แบงก์มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก ตั้งขึ้นในปี 2544 มีสินทรัพย์มากกว่า 110,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 3.79 […]

เกาหลีใต้จะหาทางลดกระทบจากเหตุปิดธนาคารใหญ่ในสหรัฐ

โซล 12 มี.ค.- กระทรวงคลังเกาหลีใต้จะเพิ่มการเฝ้าติดตามและออกมาตรการรับมืออย่างทันการเพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นเศรษฐกิจเกาหลีใต้ จากกรณีที่ทางการสหรัฐสั่งปิดธนาคารซิลิคอนวัลลีย์แบงก์หรือเอสวีบี (SVB) เมื่อวันศุกร์ กรณีของเอสวีบีเป็นประเด็นหลักในการประชุมรัฐมนตรีคลังกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านเศรษฐกิจเกาหลีใต้ในวันนี้ กระทรวงคลังออกแถลงการณ์หลังการประชุมว่า ไม่สามารถมองข้ามความเป็นไปได้ที่ตลาดการเงินจะผันผวนและไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น อันเกิดจากวิกฤตสภาพคล่องและการปิดกิจการของเอสวีบี ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่า กรณีนี้จะไม่ลุกลามและจะไม่สร้างความเสียหายให้แก่ระบบการธนาคารและการเงินของสหรัฐ แต่อาจมีผลกระทบต่อตลาดการเงินโลกและท้องถิ่น รวมถึงภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงในยามที่ตลาดโลกยังมีความผันผวนสูง เนื่องจากเศรษฐกิจขนาดใหญ่ใช้มาตรการเข้มงวดทางการเงินอย่างรุนแรง รัฐบาลเกาหลีใต้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และดำเนินมาตรการรับมืออย่างทันการหากจำเป็น เพื่อสกัดไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ กลุ่มการเงินเอสวีบีที่เป็นบริษัทแม่ของธนาคารเอสวีบีก่อตั้งขึ้นในปี 2526 เชี่ยวชาญเรื่องการธนาคารสำหรับสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี ถือเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดที่ต้องปิดตัวนับจากวิกฤตการเงินโลกปี 2551 แหล่งข่าวเผยว่า สถาบันคุ้มครองเงินฝากรัฐบาลกลางสหรัฐหรือเอฟดีไอซี (FDIC) ที่เข้ายึดเงินฝากทั้งหมดเมื่อวันศุกร์ พยายามหาธนาคารที่พร้อมควบรวมกิจการเอสวีบี แต่ค่อนข้างยาก เนื่องจากเอสวีบีเป็นธนาคารใหญ่อันดับที่ 16 ของสหรัฐ มีสินทรัพย์ทั้งหมด 209,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.27 ล้านล้านบาท) การปิดกิจการของเอสวีบีเป็นผลจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย จนทำให้พันธบัตรระยะยาวที่เอสวีบีถืออยู่ในช่วงที่ดอกเบี้ยต่ำเกือบศูนย์มีผลตอบแทนต่ำกว่าพันธบัตรระยาวในปัจจุบัน ประกอบกับผู้ฝากเงินที่ส่วนใหญ่เป็นสตาร์ทอัพแห่ถอนเงินเนื่องจากขาดแคลนเงินสนับสนุนจากธุรกิจเงินร่วมลงทุนหรือวีซี (VC) เอสวีบีประกาศเมื่อวันพุธว่า ได้ขายพันธบัตรในราคาขาดทุนและจะออกหุ้นใหม่เพื่อเสริมสภาพคล่อง ทำให้ราคาหุ้นเริ่มดิ่งในวันพฤหัสบดีและถูกระงับการซื้อขายในวันศุกร์ ทางการสหรัฐจึงต้องเข้ามาแทรกแซงและสั่งปิดกิจการให้ไปอยู่ภายใต้การดูแลของเอฟดีไอซี.-สำนักข่าวไทย

ธอส.เผยทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรที่ AAA

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เผยทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรในระดับ AAA เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน และแนวโน้มอันดับเครดิตของ ธอส. ที่ระดับคงที่ สะท้อนความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงินของธนาคาร

นายกฯ หญิงอังกฤษยืนยันแผนเศรษฐกิจเดินถูกทางแล้ว

ลอนดอน 29 ก.ย.- นายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ของอังกฤษปกป้องแผนเศรษฐกิจของเธอที่ทำให้ตลาดเงินปั่นป่วนว่า เธอพร้อมจะดำเนินมาตรการที่จุดกระแสถกเถียงเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และจะไม่หันหลังกลับเพราะเป็นการเดินถูกทางแล้ว นายกรัฐมนตรีทรัสส์ วัย 47 ปี ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุของบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) ว่า แผนเศรษฐกิจที่กำหนดไว้เป็นแผนที่ถูกต้องแล้ว เธอไม่ยอมรับข้อสันนิษฐานที่ว่า งบประมาณของเธอที่มีมาตรการลดภาษีครั้งใหญ่และงบรายจ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นสาเหตุที่ทำให้ตลาดปั่นป่วน ขณะนี้เป็นช่วงเวลายากทางลำบากทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัญหาระดับโลก การที่รัฐบาลก้าวเข้ามาดำเนินการจึงเป็นสิ่งถูกต้องที่สุด แน่นอนว่าจะต้องมีการตัดสินใจที่เป็นประเด็นถกเถียงและยากลำบาก รัฐบาลจึงได้ดำเนินอย่างเร่งด่วนและเด็ดขาดในการปกป้องครัวเรือนและธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากค่าก๊าซและค่าไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเธอในฐานะนายกรัฐมนตรีคือ การทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไป ตลาดเงินเกิดความปั่นป่วนเมื่อสัปดาห์ก่อน เมื่อนายควาซี ควาร์เทง รัฐมนตรีคลังอังกฤษเสนอแผนการลดภาษี โดยไม่แจกแจงรายละเอียดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับฐานะการคลัง หรือวิธีการที่รัฐบาลจะปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการเติบโต ส่งผลให้เงินปอนด์อังกฤษอ่อนค่า และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับสูงขึ้น ธนาคารกลางอังกฤษจึงต้องนำนโยบายซื้อคืนพันธบัตรกลับมาใช้เป็นการฉุกเฉินเมื่อวันพุธ.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียจะจ่ายหนี้ยูโรบอนด์แบบเดียวกับที่รับค่าก๊าซเป็นรูเบิล

มอสโก 30 พ.ค.- สื่อรัสเซียรายงานอ้างนายอันตอน ซิลวานอฟ รัฐมนตรีคลังรัสเซียว่า รัสเซียจะชำระหนี้พันธบัตรที่ออกขายในตลาดยูโรหรือยูโรบอนด์ โดยใช้กลไกเดียวกับที่ให้ประเทศคู่ค้าชำระค่าก๊าซของรัสเซียเป็นสกุลเงินรูเบิลของรัสเซีย แต่ทำในลักษณะกลับกัน หนังสือพิมพ์เวโดมอสตีอ้างคำกล่าวของนายซิลวานอฟว่า ผู้ถือยูโรบอนด์ที่ต้องการรับการชำระหนี้จากรัสเซียจะต้องเปิดบัญชีเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศและบัญชีเงินฝากสกุลเงินรูเบิลกับธนาคารรัสเซีย เป็นกลไกเดียวกับที่ประเทศคู่ค้าชำระค่าก๊าซธรรมชาติที่รัสเซียคิดเป็นสกุลเงินต่างประเทศ แล้วรัสเซียแปลงเป็นเงินรูเบิลแทนคู่ค้า การชำระหนี้ยูโรบอนด์จะทำในลักษณะกลับกัน ด้วยการที่รัสเซียชำระเป็นสกุลเงินรูเบิลแล้วแปลงเป็นสกุลเงินต่างประเทศแทนผู้ถือพันธบัตร การใช้กลไกแบบนี้ช่วยให้รัสเซียสามารถหลีกเลี่ยงการใช้ระบบการชำระเงินของชาติตะวันตก เพราะทำผ่านศูนย์รับฝากเงินแห่งชาติของรัสเซียที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน เนื่องจากสถาบันการเงินของรัสเซียถูกชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรจากเรื่องสงครามยูเครน รัฐมนตรีคลังรัสเซียยืนยันเมื่อวันศุกร์ว่า รัสเซียจะชำระหนี้ต่างประเทศเป็นสกุลเงินรูเบิลต่อไป และใช้ทุกวิถีทางรักษาสถานะความเป็นลูกหนี้ที่เชื่อถือได้.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียจะใช้รูเบิลจ่ายหนี้พันธบัตรรัฐบาล

มอสโก 18 พ.ค.- รัสเซียจะชำระหนี้พันธบัตรรัฐบาลให้แก่เจ้าหนี้ต่างชาติเป็นสกุลเงินรูเบิลของรัสเซีย หากสหรัฐขัดขวางการชำระด้วยวิธีอื่น และจะไม่ประกาศผิดนัดชำระหนี้ นายอันตอน ซิลวานอฟ รัฐมนตรีคลังรัสเซียกล่าวในการสัมมนาแห่งหนึ่งว่า รัสเซียจะไม่ประกาศผิดนัดชำระหนี้เพราะมีเงินที่จะชำระ และจะเลือกชำระหนี้เจ้าหนี้ต่างชาติเป็นเงินรูเบิลเป็นทางเลือกสุดท้าย หากชาติตะวันตกทำให้รัสเซียไม่สามารถชำระหนี้ผ่านโครงสร้างทางการเงินของตะวันตก นายซิลวานอฟกล่าวเรื่องนี้หลังจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐเผยว่า ทางการกำลังคิดขัดขวางไม่ให้รัสเซียสามารถชำระหนี้พันธบัตรรัฐบาลแก่เจ้าหนี้ในสหรัฐ เพื่อเพิ่มแรงกดดันทางการเงิน ด้วยการไม่ต่ออายุข้อยกเว้นที่สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างชาติ กระทรวงคลังสหรัฐประกาศเมื่อวันที่ 2 มีนาคม และจะหมดอายุในวันที่ 25 พฤษภาคม เป็นข้อยกเว้นที่เปิดทางให้รัสเซียสามารถชำระหนี้แก่ผู้ถือพันธบัตรในต่างประเทศ แม้ว่าชาติตะวันตกห้ามการทำธุรกรรมกับกระทรวงคลัง ธนาคารกลาง และกองทุนความมั่นคั่งแห่งชาติของรัสเซียเพื่อคว่ำบาตรรัสเซียที่รุกรานยูเครนก็ตาม อย่างไรก็ดี หากรัฐบาลสหรัฐไม่ต่ออายุข้อยกเว้นก็จะทำให้ชาวอเมริกันที่เป็นเจ้าหนี้พันธบัตรรัสเซียไม่ได้รับการชำระหนี้ รัสเซียมีหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ต้องชำระทั้งหมด 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.38 ล้านล้านบาท) โดยต้องชำระเกือบ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 69,265 ล้านบาท) ภายในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ดี รัสเซียไม่เคยผิดนัดชำระหนี้เลยนับตั้งแต่การปฏิวัติรัสเซียในปี 2460.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4
...