ไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 1 คน รวมยอดสะสม 48 คน

สธ. 6 มี.ค.-สธ.เผยพบชายชาวอังกฤษติดเชื้อโควิด -19 เพิ่มอีก 1คน และพบแรงงานไทยนอกระบบเกาหลีเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 1 คน ทำให้ยอดป่วยรวม 48 คน พร้อมย้ำมาตรการเฝ้าระวังควบคุมโรค หลังประกาศพื้นที่นอกราชอาณาจักร 4 ประเทศมีผลให้ต่อไปนักท่องเที่ยวเข้าไทย แม้ไม่ป่วย มีระบบบังคับรายงานสุขภาพทุกวันและจับตา 4 ประเทศที่มีอัตราการป่วยเพิ่มขึ้นสูง สเปน-สวิตเซอร์แลนด์-เนเธอร์แลนด์-สหรัฐอเมริกา ส่วนแรงงานนอกระบบเกาหลีใต้ หากมาจาก 2 เมือง ระบาดหนักแทกู-คย็องซังเหนือ ต้องเฝ้าระวังเข้ม รับผิดชอบต่อสังคม พบไม่ปฏิบัติตามกฎ เฝ้าระวัง 14 วัน หากลงเฟซบุ๊กเชิญแยกมากักตัว 



นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า ขณะนี้พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก1คน เป็นชายชาวอังกฤษ เดินทางมาจากเขตปกครองพิเศษฮ่องกง หลังจากเริ่มรู้ตัวว่าป่วยมีอาการไข้ ไอ มีเสมหะ เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ได้รักษาที่ รพ.เอกชน ขณะนี้ย้ายมารักษาที่สถาบันโรคทรวงอกทำให้มียอดผู้ป่วยรวมแล้ว 48 คน  รักษาหายแล้ว 31 คน เหลือรักษาตัวที่ รพ.16 คน ขณะเดียวกันได้รับรายงานว่ามีแรงงานนอกระบบเกาหลีใต้ เดินทางกลับเข้าไทยแล้วมีอาการไข้ เป็นหญิงอายุ 30 ปีจึงนำตัวอยู่ในข่ายเฝ้าระวัง รอผลการตรวจยืนยันจากห้องปฏิบัติการณ์ 

นพ.สุขุม กล่าวว่า ยอมรับสถานการณ์หน้ากากอนามัยในบุคลากรทางการ แพทย์ไม่เพียงพอ เหลือใช้เพียงพอแค่ 2-3 สัปดาห์ถึง1เดือนเท่านั้น จึงได้มีการประสานกรมการค้าภายใน และเร่งมีการสตอกหน้ากากอนามัยเพิ่ม ให้เพียงพอประมาณ 1แสนถึง 1.5 แสนชิ้น พร้อมสั่งซื้อ ชุดป้องกันเชื้อโรคจำนวน 4แสนชุด เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์มีเพียงพอในการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 โดยจะทยอยนำเข้าก่อน 4 หมื่นชุด 


ด้าน นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการหลังกระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศท้องถิ่นนอกราชอาณาจักรเป็นเขตต่อต่อโรคโควิด -19  จำนวน 4 ประเทศ ได้แก่ จีน (รวม มาเก๊า ฮ่องกง),เกาหลีใต้ , อิตาลี, อิหร่าน มีผลให้ผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศเหล่านี้ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีเป็นคนไทยหากไม่มีไข้ต้องเฝ้าระวังตนเอง 14 วันที่บ้าน แต่หากเป็นคนต่างชาติ เดินทางเข้าไทย จาก 4 ประเทศนี้จะมีระบบบังคับให้รายงานสุขภาพกับเจ้าหน้าที่ทุกวัน ตลอดอยู่ไทยจนครบ 14วัน ทั้งแบบแอปพลิเคชันหรือสายด่วน 1422 

เช่นเดียวกับกลุ่มแรงงานนอกระบบเกาหลีใต้ ทั้งจากเมืองแทกู ,คย็องซังตอนเหนือ หากมีไข้ ไอ น้ำมูก เข้ามาตรการเฝ้าระวังที่สถานพยาบาล ส่วนคนที่กลับมาปกติไม่มีไข้ ก็จะต้องนำตัวไปเฝ้าระวังพื้นที่ที่รัฐบาลจัดไว้ และมีมาตรการดูแล แบบใกล้ชิด ส่วนแรงงานที่เดินทางกลับมาก่อนนั้น และมีการโพสต์เดินทางไปที่ไหน ทางกระทรวงจะประสานและนำตัวมาติดตามไว้ในระบบ ไม่อนุญาตให้เฝ้าระวังที่บ้านอีกต่อไป 

นพ.ธนรักษ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนผู้ที่เดินทางมาจาก 9  ประเทศเสี่ยง ที่ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้คำแนะนำเลี่ยงการเดินทาง ได้แก่ จีน (มาเก๊า ฮ่องกง)ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ อิตาลี ฝรั่งเศล เยอรมนี อิหร่าน ขณะนี้ยังคงเป็นการขอความร่วมมือ หากเดินทางกลับมา 14 วัน ต้องเฝ้าระวังตนเองที่บ้าน ทั้งมาตรการพิจารณาประกาศพื้นที่นอกราชอาณาจักร ติดเชื้อโควิด-19 นั้น พิจารณาตามความเหมาะสมและสถานการณ์การระบาดในปัจจุบัน พร้อมจับตาดู 4 ประเทศที่มีการพบอัตราป่วยเพิ่มขึ้น ได้แก่ สเปน สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา  ก็ขอให้เลี่ยงการเดินทางเช่นกัน เพราะหากเดินทางมีโอกาสติดเชื้อ ได้ 

นพ.ธนรักษ์ กล่าวถึงกรณีสื่อออสเตรเลีย รายงานมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทย ติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานขอข้อมูลทางออสเตรเลียอยู่ ยังไม่ทราบรายละเอียด ส่วนการติดตามเฝ้าระวังในกลุ่มนักศึกษาในจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่เดินทางมาจาก อิหร่าน ขณะนี้ได้มีการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดได้หมดแล้ว  พร้อมยืนยันการติดเชื้อโควิด-19 มาจากละอองฝอยขนาดใหญ่จากการไอจามเท่านั้น และต้องในรัศมี1 เมตร หากไม่ใช่เกณฑ์ตามนี้ก็ไม่ใช่ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กลับบ้านพร้อมหน้า

อุบลราชธานี 8 ส.ค. – ฝนชะล้างความเศร้า ชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กลับเข้าบ้านเรือนเกือบหมดแล้ว ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้งในรอบกว่า 2 สัปดาห์ นับตั้งแต่เกิดเหตุไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา .-สำนักข่าวไทย

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]