นนทบุรี 4 ก.ย. – กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จัดพิธีมอบโล่รางวัลและหนังสือรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ ประจำปี 2568 แก่ธุรกิจที่ผ่านการประเมิน พร้อมขับเคลื่อนภาคธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนและแข่งขันได้ในระดับสากล
นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีเชิดชูเกียรติธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์การรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจ ประจำปี 2568 โดยระบุว่ากระทรวงพาณิชย์มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าส่งเสริมธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการปลูกฝังแนวคิดธรรมาภิบาลที่ไม่มุ่งแสวงหากำไรเพียงอย่างเดียว แต่คำนึงถึงสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม และการนำนวัตกรรมมาเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เพื่อสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน
“การยกระดับมาตรฐานในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม แรงงาน ความโปร่งใสของกระบวนการผลิต และแหล่งที่มาวัตถุดิบ จะช่วยให้ภาคธุรกิจไทยแข่งขันได้ในตลาดที่มีมาตรฐานสูง เช่น สหภาพยุโรป การน้อมนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้จึงถือเป็นแต้มต่อสำคัญ สร้างภูมิคุ้มกัน และนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน” นายฉันทวิชญ์ กล่าว
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวถึงกิจกรรมส่งเสริมธุรกิจ SME เข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจว่า กรมได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 โดยมีธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์รวมแล้ว 270 ราย และในปี 2568 มีธุรกิจสมัครเข้าร่วมจากทั่วประเทศรวม 117 ราย ผ่านการคัดเลือกขั้นสุดท้ายทั้งสิ้น 112 ราย แบ่งเป็นธุรกิจรายใหม่ 27 ราย และธุรกิจต่ออายุใบรับรอง 85 ราย
กระบวนการคัดเลือกเป็นไปอย่างเข้มข้น โดยคณะกรรมการกำกับมาตรฐานธรรมาภิบาล ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ทรงคุณวุฒิ ดำเนินการประเมินตามหลักธรรมาภิบาล 6 ด้าน ได้แก่ 1.หลักนิติธรรม 2.หลักคุณธรรม 3.หลักความโปร่งใส 4.หลักการมีส่วนร่วม 5.หลักความรับผิดชอบ 6.หลักความคุ้มค่า
พร้อมทั้งมีการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอก อาทิ ศาลฎีกา ป.ป.ช. กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และสำนักงานประกันสังคม เพื่อกลั่นกรองอย่างรอบด้านก่อนออกใบรับรอง
หนังสือรับรองธรรมาภิบาลธุรกิจที่ออกให้ มีอายุ 3 ปี และสามารถนำเครื่องหมายรับรองไปใช้ควบคู่กับเครื่องหมายการค้าของกิจการได้ทันที อีกทั้งกรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังใส่หมายเหตุในหนังสือรับรองนิติบุคคลเพื่อรับรองสถานะธรรมาภิบาลของธุรกิจ เพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่คู่ค้า นักลงทุน และประชาชน
ทั้งนี้ กรมยังได้เตรียมประชาสัมพันธ์รายชื่อธุรกิจที่ได้รับรางวัลผ่านทุกช่องทางที่มี เพื่อเผยแพร่ผลสัมฤทธิ์ของกิจกรรม และส่งเสริมให้เป็นต้นแบบในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป. -512 -สำนักข่าวไทย