กนอ.ระบุไวรัสโควิดไม่กระทบลงทุนนิคมฯ

กรุงเทพฯ 26 ก.พ. – กนอ.เชื่อหากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ถูกยกสู่ระดับ 3 นักลงทุนจะเข้าไทยเพิ่มขึ้น เตรียมพื้นที่รองรับการลงทุนอุตสาหกรรม New-S-Curve เกือบ 10,000 ไร่ เสนอ รมว.อุตฯ พิจารณาเร็ว ๆ นี้


นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวถึงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า ในแง่การเข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมนั้น กนอ.มองว่าหากประเทศไทยไม่ถูกยกระดับของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จากระดับ 2 สู่ระดับ 3  หรือระบาดรุนแรงเท่ากับประเทศจีน ประเทศไทยก็จะได้รับผลดีมากกว่า โดยไทยจะเป็นแหล่งลงทุนที่บรรดานักลงทุนจากหลายประเทศอยากที่จะเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้น 

“ตอนนี้ กนอ.อยู่ระหว่างสรุปยอดขายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมไตรมาสแรกปีงบ 2563 และเร่งประมวลเป้าหมายยอดขายพื้นที่นิคมปีงบ 2563 ซึ่งปกติแต่ละปีจะตั้งไว้ที่ 3,000 ไร่ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจส่งผลต่อเป้าหมายลดลงหรือเพิ่มขึ้นได้บ้างเล็กน้อย เพราะยังมีปัจจัยอื่นเกี่ยวข้อง เช่น ค่าเงินบาท และอื่น ๆ” นางสาวสมจิณณ์ กล่าว


ส่วนผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ยังเห็นไม่ชัดเจน  โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไทยอยู่ระดับ 2 หากทุกคนร่วมมือกันระดับความรุนแรงของการแพร่ระบาดจะไม่ถูกยกขึ้นไปเป็นระดับ 3 ด้านผลกระทบจะไม่มาก แต่หากสถานการณ์ถูกยกขึ้นเป็นระดับ 3 ผลกระทบจะเกิดขึ้นหลายด้าน ทั้งการท่องเที่ยวที่จะลดลง  การคมนาคมขนส่ง และอื่น ๆ ตามมา ขณะที่ผลกระทบด้านอุตสาหกรรมจะเป็นลำดับรองลงไป เนื่องจากมีต่างชาติในกลุ่ม 9 ประเทศที่มีการระบาดอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเช่นกัน ซึ่งทุกคนจะต้องร่วมมือป้องกัน เพื่อให้สามารถผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปให้ได้ 

“ผลกระทบจากการแพร่ระบาดนั้น ขณะนี้เกิดขึ้นทั่วโลก เพียงแต่ประเทศไทยกระทบน้อยกว่า เนื่องจากมีอากาศร้อน ผลกระทบจะอยู่ในช่วง 2-3 เดือนนี้ พออากาศในไทยร้อนมาก ๆ ในช่วงต่อไป เชื่อว่าสถานการณ์แพร่ระบาดจะหมดไปในที่สุด  ขณะนี้ กนอ.อยู่ระหว่างจัดทำประกาศให้ทุกนิคมอุตสาหกรรมป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่รู้จักดูแลตัวเองและระมัดระวังไม่ให้มีการแพร่เชื้อไปสู่บุคคลอื่น” นางสาวสมจิณณ์ กล่าว

นางสาวสมจิณณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีโรงงานอุตสาหกรรมปิดตัวลง เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ปิดตัวลงจากสาเหตุของการถูกเทคโนโลยีดิสรัปทีฟ เช่น เชฟโรเลต บริษัท จีเอ็ม เลิกการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย เนื่องจาก GWM จากจีนเข้ามาซื้อศูนย์ผลิตรถยนต์และยกระดับเปลี่ยนสายการผลิตไปสู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เบื้องต้นประเมินว่าเร็ว ๆ นี้ จะมีอีกหลายบริษัทผลิตรถยนต์จะปรับสายการผลิตด้วย


 ผู้ว่าฯ กนอ. กล่าวด้วยว่า ขณะนี้สถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยจัดทำรายงานผลการศึกษาเบื้องต้นของการเตรียมพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อรองรับการเข้ามาลงทุนของอุตสาหกรรม New S-Curve แล้ว  พื้นที่รวมเกือบ 10,000 ไร่ รวม  4 แปลง  แบ่งเป็นพื้นที่บนบก 2 แปลง และพื้นที่ที่เกิดจากการถมทะเลอีก 2 แปลง ซึ่งนับเป็นการเตรียมไว้ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขึ้นสูง รวมถึงอุตสาหกรรมสมัยใหม่อื่น ๆ เช่น ยานยนต์สมัยใหม่ เป็นต้น ขณะนี้รายงานผลการศึกษาดังกล่าวอยู่ระหว่างตรวจแก้ไขก่อนเสนอนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พิจารณาเร็ว ๆ นี้ 

ส่วนการเตรียมการรับมือกับปัญหาภัยแล้งนั้น ก่อนหน้านี้ประสานความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในกลุ่มมาบตาพุดคอมเพล็กซ์แล้ว ล่าสุดสามารถลดการใช้น้ำภาพรวมได้แล้วกว่าร้อยละ 10 จากที่ใช้อยู่เดิม ซึ่งปกติมีการใช้น้ำอย่างประหยัดอยู่แล้ว เนื่องจากปรับสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่ประหยัดทรัพยากรต่าง ๆ ลง เช่น ลดการใช้น้ำ ลดการใช้พลังงาน ส่วนจะลดการใช้มากกว่านี้ทำได้ยาก เพราะก่อนหน้านี้ลดลงมาแล้วร้อยละ 20-30 สำหรับช่วงฤดูแล้งนี้ มั่นใจว่าจะผ่านพ้นสถานการณ์ไปได้ เพราะการนิคมฯ ร่วมมือกับบริษัท อีสท์วอเตอร์ ซึ่งทำธุรกิจจัดหาน้ำในภาคตะวันออกวางท่อส่งน้ำเพิ่มเติม และมีการผันน้ำจากจันทบุรีเข้ามาเพิ่มเติมในพื้นที่ภาคตะวันออก ขณะที่บางส่วนมีการนำน้ำทะเลมาผลิตน้ำจืดใช้ แต่สัดส่วนไม่ถึงร้อยละ 10 ของปริมาณความต้องการใช้น้ำทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

กลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ อ่านแถลงการณ์ เรียกร้องนายกฯ ลาออก

28 มิ.ย. – กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย ไม่หวั่นฝนตก ชุมนุมเต็มพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ทั้งบนถนนและสะพานลอย ฟังแกนนำปราศรัยและอ่านแถลงการณ์เรียกร้องนายกฯ แพทองธาร ลาออกทันที เหตุมีพฤติการณ์เป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศ​ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวทันที​ หลังจากผู้ชุมนุมกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ได้ร่วมกันเคารพธงชาติ นายนิติธร​ ล้ำเหลือ เป็นตัวแทน​อ่านแถลงการณ์ระบุว่า สถานการณ์การเมืองการปกครองของไทย ตั้งแต่ พ.ศ.2475 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน นับเป็นระยะเวลา 93 ปี บัดนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า บรรดาฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ โดยเฉพาะคณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง การแต่งตั้ง การรัฐประหาร หรือการเลือกกันเอง มิได้มีเจตนารมณ์ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งมิได้ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนอย่างแท้จริง จนก่อให้เกิดวิกฤตด้านการเมือง เศรษฐกิจ กระบวนการยุติธรรม ความมั่นคง ดุลสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้านคุณธรรม จริยธรรม และสังคมอย่างกว้างขวางลึกและรุนแรง เหตุมาจากการที่มีผู้ไม่นำพา ไม่นับถือยำเกรงกฎหมาย กฎเกณฑ์การปกครองบ้านเมือง ทุจริตฉ้อฉล บิดเบือนอำนาจ ขาดความตระหนัก สำนึกรับผิดชอบต่อประเทศชาติและประชาชน จนทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นผล ให้ความสำคัญกับรูปแบบและวิธีการ ยิ่งกว่าหลักการพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย […]

ปะทะเดือด! คนร้ายบุกถล่มฐาน ชคต. เจ้าหน้าที่เจ็บ 2

นราธิวาส 28 มิ.ย. – ปะทะเดือด! กลุ่มคนร้ายราว 50 คน ขว้างไปป์บอมบ์และยิงอาวุธปืนสงครามถล่มฐานชุดคุ้มครองตำบลเกรียร์ จ.นราธิวาส จนเกิดการปะทะกันนานกว่า 20 นาที เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 2 นาย วินาทีเจ้าหน้าที่อีโอดีใช้เครื่องแรงดันน้ำพลังสูงยิงทำลายไปป์บอมบ์ 2 ลูก ที่ตกอยู่บริเวณฐานชุดคุ้มครองตำบลเกียร์ อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส หลังเมื่อเวลา 05.50 น. วันนี้ (28 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.สุคิริน ได้รับแจ้งคนร้ายใช้ระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์และอาวุธปืนสงครามบุกโจมตีฐานชุดคุ้มครองตำบลเกียร์ จึงร่วมกับทหาร ฉก.นราธิวาส, ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด, เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบพบลูกระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ของคนร้ายที่ขว้างเข้าไปในฐานแต่ไม่ทำงาน จำนวน 3 ลูก ลูกแรกตกอยู่ที่พื้นที่ด้านหลังหอสูงด้านซ้ายมือของฐาน ลูกที่ 2 อยู่ที่พื้นหน้าอาคารกองบังคับการ และลูกที่ 3 อยู่บริเวณด้านหลังของเรือนนอน และในระหว่างรอเจ้าหน้าที่อีโอดีเข้าเก็บกู้ ไปป์บอมบ์ลูกแรกก็เกิดระเบิดขึ้นเองเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากเจ้าหน้าที่กันพื้นที่ไว้แล้ว ส่วนระเบิดไปป์บอมบ์อีก 2 ลูก […]

มวลชนไม่ท้อ! ฝนถล่มกางร่มฟังปราศรัย

28 มิ.ย.- ไม่ท้อ! อนุสาวรีย์ชัยฯ ฝนตกหนัก มวลชนกางร่มฟังปราศรัย ปักหลักชุมนุมต่อเนื่อง เตรียมร่วมกิจกรรมร้องเพลงชาติไทย เวลา 18.00 น. วันนี้ (28 มิ.ย. 68) เวลาประมาณ 16.30 น. ฝนตกหนักบางช่วงในพื้นที่ชุมนุมของกลุ่ม “รวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยไทย” บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขณะที่ แกนนำสลับกันขึ้นเวทีปราศรัย พร้อมประกาศ 3 ข้อเรียกร้องหลัก คือ ให้นายกรัฐมนตรีลาออก พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และประชาชนลุกขึ้นปกป้องอธิปไตย สำหรับไฮไลท์ช่วงเย็นวันนี้ หลังร้องเพลงชาติ เวลา 18.00 น.​ จะมีการอ่านแถลงการณ์และมีแกนนำขึ้นปราศรัยใหญ่ ก่อนยุติการชุมนุมในเวลา 21.00 น. -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมพญาเม็งรายเริ่มลด แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน

เชียงราย 28 มิ.ย.- เริ่มคลี่คลาย! สถานการณ์น้ำท่วมพญาเม็งราย จ.เชียงราย เช้านี้ระดับน้ำลดลงแล้วกว่า 80% แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย เช้าวันนี้ เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงไปแล้วกว่า 80% เหลือเพียงคราบโคลนจำนวนมากที่ยังปกคลุมที่อยู่อาศัยและถนนหลายสาย เช้านี้มีฝนตกโปรยปรายต่อเนื่อง  ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ยังคงเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ เนื่องจากขาดแคลนสิ่งจำเป็น เช่น น้ำสะอาด อุปกรณ์ทำครัว และแหล่งพลังงาน จึงขอรับการสนับสนุนอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงฟื้นฟูพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้มณฑลทหารบกที่ 37 ลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็นเบื้องต้นแล้ว ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเกิดฝนตกหนักอีกครั้ง -สำนักข่าวไทย