กรุงเทพฯ 21 ก.พ.- ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ ระบุแม้โรคโควิด-19 ในไทยจะยังไม่เข้าสู่การแพร่ระบาดระยะที่ 3 แต่ก็การ์ดตกไม่ได้ ต้องเตรียมพร้อมรับมือทุกๆ ด้าน เช่น มีมาตรควบคุมการเเพร่เชื้อในชุมชน และประกาศให้เป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 14 เพื่อชะลอเข้าสู่ระยะที่ 3 ให้ช้าที่สุด บุคลากรทางการแพทย์จะได้รับมือไหว
แม้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ 2019 หรือโควิด-19 ในไทย จะยังคงที่อยู่ที่ 35 คน สถานการณ์คล้ายคลื่นลมสงบ ตัวเลขไม่ได้พุ่งสูงขึ้นเหมือนประเทศอื่น แต่ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติบอกว่า เป็นการสงบลงชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากไม่มีคนจีนเดินทางเข้ามาเพิ่ม การแพร่ระบาดในไทยตอนนี้อยู่ในช่วงเริ่มต้นของระยะที่ 2 ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ควบคุมโรคให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นน้อยที่สุด เพราะหากขยายวงกว้างเข้าสู่ระยะที่ 3 ซึ่งคาดการณ์ว่าอาจมีผู้ป่วยมากกว่าวันละ 1,000 คน และมีผู้เสียชีวิตทุกวัน บุคลากรทางการแพทย์จะได้รับมือไหว แนวโน้มของโรคนี้ ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มที่ไม่รุนแรง มีอาการคล้ายไข้หวัด มีเพียง 15% ที่อาการรุนแรงต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล และอีก 3-5% ต้องรักษาตัวในห้อง ICU
พร้อมแนะให้เตรียมกลยุทธ์ควบคุมการเเพร่เชื้อในชุมชน เช่น ให้ทำงานที่บ้าน งดการชุมนุมขนาดใหญ่ ควบคุมการระบาดในสถานที่ที่มีคนมาก และควรประกาศให้โรคนี้เป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 14 เพื่อช่วยให้การควบคุมป้องกันโรคทำได้ง่ายขึ้น
สำหรับยา “ฟาวิลาเวียร์” ที่ทางการจีนอนุมัติให้ใช้เป็นยาต้านไวรัสโควิด-19 หลังทดลองใช้รักษาผู้ป่วย 70 ราย พบว่ามีประสิทธิภาพและมีผลข้างเคียงน้อย ตอนนี้มีการจดทะเบียนแล้วในญี่ปุ่นและจีน ส่วนในไทยมีการนำเข้ามาสำรองไว้ใช้ แต่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการ
อีกแนวทางที่ช่วยได้ ควรเลี่ยงเดินทางไปต่างประเทศในช่วงนี้ หรือถ้าจำเป็นต้องไป ควรปฏิบัติตามมาตรการของแต่ละประเทศอย่างเคร่งครัด เมื่อกลับมาแล้วถ้าป่วยต้องรีบไปพบแพทย์ หากไม่ป่วยก็ต้องกักกันตัวเองให้พ้นระยะเฝ้าระวัง เพื่อช่วยยืดระยะเวลาการแพร่ระบาดออกไปให้นานที่สุด ไม่ให้เข้าสู่การระบาดในระยะที่ 3 เร็วเหมือนกับประเทศอื่นๆ.-สำนักข่าวไทย