สถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในไทย

กรุงเทพฯ 8 ก.พ.- “อนุทิน” มาดุ! ไม่พอใจต่างชาติไม่รับหน้ากากอนามัย ส่วนรัฐบาลปัดโก่งราคา “หน้ากากอนามัย” ที่เชียงใหม่นักท่องเที่ยวสวมหน้ากากอนามัยชมรถบุปผชาติ


“อนุทิน” มาดุ! ไม่พอใจต่างชาติไม่รับหน้ากากอนามัย

เมื่อวานนี้ (7 ก.พ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินสายแจกหน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม โดยช่วงระหว่างแจกหน้ากากอนามัย มีนักท่องเที่ยวต่างชาติปฏิเสธ รับหน้ากากอนามัย ทำให้นายอนุทินให้สัมภาษณ์ด้วยอาการ “หลุด” เพราะเป็นห่วงว่าการไม่รับหน้ากากอนามัยจะส่งผลต่อการป้องกันและควบคุมในที่สาธารณะที่มีคนจำนวนมาก


อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน ได้โพสต์ Facebook ขอโทษกรณีดังกล่าวด้วยข้อความว่า ขออภัยที่วันนี้มีอาการ “หลุด” ใส่ชาวต่างชาติแถบยุโรป บางคนที่แสดงอาการรังเกียจคนไทยใส่ Mask และไม่ร่วมมือในการใส่ Mask ในขณะที่พวกเรากำลังรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา เราไม่สามารถรู้ได้ว่าคนต่างชาติคนนั้นมาจากประเทศไหนก่อนมาประเทศไทยและมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน การให้เกียรติและให้ความร่วมมือการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค คือสิ่งที่เราคาดหวัง ไม่ใช่การปัดมือและมองด้วยสายตาเหยียดหยาม เช่นที่ผมและคณะกระทรวงได้รับวันนี้ ขอขอบคุณและขออภัยชาวต่างชาติทุกท่านที่ให้ความร่วมมือป้องกันการแพร่ระบาด

รัฐบาลปัดโก่งราคา “หน้ากากอนามัย”

ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (8 ก.พ.) ยังมีการจำหน่ายหน้ากากอนามัยที่หน้าประตู 6 และที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ โดยเมื่อวานเป็นวันแรกของการเปิดจำหน่าย จำนวน 20,000 ชิ้น แพ็คละ 10 ชิ้น ราคา 25 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 2.50 บาท พบว่าประชาชนให้ความสนใจจำนวนมาก แต่เกิดกระแสวิจารณ์ หลังมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ขายแพงกว่าขององค์การเภสัชกรรมที่ราคาชิ้นละ 1 บาท 


นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล ชี้แจงว่าเกิดจากต้นทุนที่สูงขึ้นจากการผลิตใหม่และบวกกับค่าขนส่งที่จะนำไปขายที่ร้านธงฟ้าทั่วประเทศกว่า 120,000 ชิ้นที่จะเริ่มขายวันนี้ (8 ก.พ.) พร้อมย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้โก่งราคา ส่วนขององค์การเภสัชฯ เป็นหน้ากากอนามัยที่มีอยู่ในสตอก จึงจำหน่ายในราคาถูกได้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบผู้มีพฤติกรรมปั่นราคาขายหน้ากากอนามัยตามที่มีการร้องเรียน ซึ่งรายงานจากกรมการค้าภายในพบว่า มีการจับกุมผู้กระทำผิดไป 8 คน ส่งให้ตำรวจดำเนินคดี มีโทษสูงสุด คือ จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

นักท่องเที่ยวสวมหน้ากากอนามัยชมรถบุปผชาติ

งานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ ซึ่งเป็น 1 ในเทศกาลท่องเที่ยวระดับโลกของจังหวัดเชียงใหม่ จัดขึ้นช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว สมกับเป็นเมืองแห่งดอกไม้บานตลอดปี โดยขบวนรถบุปผชาติ 25 ขบวน ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตกแต่งด้วยดอกไม้นานาพันธุ์หลากสีสันบานสะพรั่ง

เป็นที่น่าสังเกตว่านักท่องเที่ยวที่มาชมงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับที่เชียงใหม่ ปีนี้ นอกจากเป็นนักท่องเที่ยวไทย ยังมีนักท่องเที่ยวจากโซนยุโรปและเอเชีย ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเคยเป็นนักท่องเที่ยวหลัก ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา และผู้คนที่มาเที่ยวชมงานสวมหน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อโรค 

ส่วนที่สวนสาธารณะหนองบวกหาด มีการจัดสวนสวย โดยนำดอกไม้ประดับหายากจากต่างประเทศมาตกแต่งพื้นที่ เช่น ดอกทิวลิป ลิลลี่ และกุหลาบพันปี มีกำแพงดอกไม้ความยาวกว่า 60 เมตร รวมทั้งทุ่งดอกทิวลิป 5 สี และสวนอังกฤษ สร้างบรรยากาศให้นักท่องเที่ยวเหมือนเดินเล่นอยู่ในสวนต่างประเทศ 

ททท. สำนักงานเชียงใหม่ ระบุว่าจากวิกฤตไวรัสโคโรน่า ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไป โดยเฉพาะกรุ๊ปทัวร์ คงเหลือนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวด้วยตนเอง แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวจากยุโรปมาทดแทน ส่วนกระแสเงินสะพัดในของการจัดงาน ไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่เชื่อว่าลดลงจากปีก่อนแน่นอน

ด้านนายมานพ แซ่เจีย นายกสมาคมมัคคุเทศก์เชียงใหม่ บอกว่านักท่องเที่ยวจีนที่เป็นกรุ๊ปทัวร์ เริ่มหายไปจากเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม เป็นต้นมา ผู้โดยสารชาวจีนที่เดินทางเข้ามายังเชียงใหม่ ผ่านท่าอากาศยานปัจจุบันเหลือวันละกว่า 300 คน ส่วนมากเป็นญาติพี่น้องของนักเรียน นักศึกษาที่มาเรียนและอาศัยอยู่ที่เชียงใหม่ เกือบ 8,000 คน รวมทั้งเป็นนักธุรกิจ นายทุนที่มาทำธุรกิจในเชียงใหม่ ซึ่งต้องเดินทางไปมาระหว่างเชียงใหม่กับเมืองต่างๆ ของจีนอยู่ และพบว่าบริษัททัวร์จีน ยกเลิกทัวร์มาเชียงใหม่และประเทศไทยยาวไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้

ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชียงใหม่มอบหน้ากากอนามัยให้จีน

ปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย เริ่มมีให้เห็นมากขึ้น วันนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชียงใหม่ มอบเงินบริจาคและหน้ากากอนามัยช่วยเหลือชาวจีน โดยตัวแทนกงสุลจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ ซาบซึ้งน้ำใจคนไทยที่ส่งกำลังใจ    ในยามที่จีนต้องเผชิญภาวะวิกฤต

ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ ระดมเงินบริจาค 1 แสนบาท และส่งมอบหน้ากากอนามัย ให้ชาวจีน ผ่านรักษาการแทนกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่

นางสวี่ เชี้ยน รักษาการแทนกงสุลจีน ขอบคุณคนไทยที่ร่วมส่งกำลังใจให้ชาวจีนก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้โดยเร็ว พร้อมขอบคุณชาวเชียงใหม่ที่ต้อนรับและดูแลนักท่องเที่ยวจีนอย่างอบอุ่น ยืนยันว่า สถานกงสุลจีนมีระบบรองรับสถานการณ์วิกฤตจากไวรัสโคโรนาในพื้นที่ภาคเหนือของไทย สร้างความมั่นใจให้คนไทยและชาวจีนที่พำนักอยู่

ห้างในตัวเมืองตรังขาดแคลน “หน้ากากอนามัย”

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่สำรวจการจำหน่ายหน้ากากอนามัย ในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ในจังหวัดตรัง หลังจากร้านจำหน่ายหน้ากากอนามัย ทั้งร้านค้าส่งอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ หรือร้านขายยาทั่วไป รวมทั้งร้านสะดวกซื้อ ขาดแคลนทั้งหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ โดยเฉพาะภายในห้างเทสโกโลตัส สาขาตรัง สินค้าหมด ขึ้นป้ายจำกัดการซื้อ 1 ท่านไม่เกิน 10 ชิ้นไว้ชัดเจน ขณะนี้เหลือเฉพาะสำหรับเด็ก และกันฝุ่นพิษ PM 2.5 รองผู้จัดการเทสโกโลตัส สาขาตรังบอกว่า สินค้าขาดตลาดมา 1 สัปดาห์แล้ว และรับแจ้งว่า สินค้าอาจจะมาถึงในอีก 2 – 3 วันข้างหน้า ส่วนร้านจำหน่ายยา ภายในห้างบิ๊กซี หน้ากากอนามัย หน้ากาก PM 2.5  รวมทั้งแอลกอฮอล์ เจลล้างมือขายหมดเกลี้ยง  โดยสินค้าหมดขาดแคลนมาแล้วถึง 2 สัปดาห์   

กระบี่หน้ากากอนามัย-เจลล้างมือขาดแคลน

ที่กระบี่ เจ้าหน้าที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค นำโดยพาณิชย์จังหวัดกระบี่ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และผู้เกี่ยวข้อง ออกตรวจร้านยาและสถานที่จำหน่ายหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือ หลังราชกิจจานุเบกษา กำหนดสินค้าควบคุมเป็นระยะเวลา 1 ปี  

จากการออกตรวจร้านบริเวณถนนมหาราช และถนนมหาราช พบว่าบางร้านไม่มีสินค้าจำหน่าย ขณะที่บางร้านมีสินค้าเพียงเล็กน้อย บางร้านมีสินค้าวางจำหน่ายเป็นจำนวนมาก และขายเป็นแพ็ก ไม่ติดราคาจำหน่าย รวมทั้งติดราคาจำหน่ายเกินกว่าราคาที่ติดไว้ข้างขวด เป็นต้น นอกจากนั้น จากการตรวจสอบพบว่าสินค้าบางชนิดไม่ระบุแหล่งผลิต บางชนิดส่งมาจากประเทศจีน ไม่แจ้งวันหมดอายุ เจ้าหน้าที่จำหน่ายสินค้าผิดประเภท ซึ่งในการตรวจครั้งนี้เป็นการออกตรวจเพื่อให้คำแนะนำ ให้ความรู้ในข้อกฎหมาย พร้อมให้ปรับแก้การดำเนินการให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เอารัดเอาเปรียบและให้เป็นไปตามกฎหมาย

กระบี่นักท่องเที่ยวลดลงมาก

ส่วนเรือหางยาว เรือสปีดโบ๊ท เรือนำเที่ยวจำนวนมาก จอดลอยลำ อยู่ในอ่าว หลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ หลังจากไม่มีนักท่องเที่ยวใช้บริการ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงมาก มีการยกเลือกเที่ยวบิน จากจีนไม่ต่ำกว่า 50 เที่ยว  

ผู้บริหารบริษัทเกาะพีพี ทัวร์ จำกัด ระบุว่าพบปัญหานักท่องเที่ยวชาวยุโรปบางรายไม่ต้องการเดินทางร่วมกับชาวจีน ต้องแยกลำเรือ หรือต้องแยกรถกัน ทำให้เพิ่มค่าใช้จ่าย รายรับลดลงถึงร้อยละ 50 ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว ได้เพิ่มความถี่ทำความสะอาด รถ เรือ ห้องน้ำ ฉีดยาฆ่าเชื้อ ทุกวัน จัดอบรมพนักงานเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ 

สถิตินักท่องเที่ยวจีนที่ยังอยู่ในไทย

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยจำนวนคนจีนที่ยังในประเทศไทย สถิติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ มีคนจีนเข้าไทยทั้งหมด 1,004,067 คน ออกไปแล้ว 889,567 คน ยังอยู่ในไทย 114,491 คน คนที่มาจากเมืองอู่ฮั่น 23,933 คน ออกไปแล้ว 21,895 คน ยังอยู่ในไทย 2,038 คน  

สำหรับอุปกรณ์การตรวจสอบบุคคลเข้าออกประเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยเฉพาะเครื่องตรวจลายนิ้วมือระบบไบโอเมทริกซ์ได้สั่งการให้ทำความสะอาดทุก 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ในทุกด่านตรวจคนเข้าเมือง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากระเบิดกัมพูชา ทำพิธีลอยอังคาร

ชลบุรี 24 ส.ค. – 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวดตกใส่ ทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณกลางอ่าวสัตหีบ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดของกัมพูชา เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ประกอบด้วย ครอบครัวประชัน ซึ่งสูญเสียนางสาวรุ่งรัศ เด็กหญิงทักษพร และเด็กชายพงศภัค ครอบครัวเด็กชายกิตติศักดิ์ คำวัง ครอบครัวนางสาวอรุณรัตน์ วันศรี ครอบครัวนายสมศรี ลาภบุญ และครอบครัวนางสาวสาวิตรี อ่อนทรวง นำอัฐิผู้เสียชีวิต เดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ มายังกองเรือยุทธการ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก สนับสนุนที่พัก รวมทั้ง จัดเรือกร.702 นำครอบครัวผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกลางอ่าวสัตหีบ พิธีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมเกียรติ ทุกคนต่างบอกว่า แม้จะผ่านมา 1 เดือน แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะครอบครัวประชัน ที่ต้องภรรยาและลูกอีก 2 คนไปพร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]