สถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในไทย

กรุงเทพฯ 8 ก.พ.- “อนุทิน” มาดุ! ไม่พอใจต่างชาติไม่รับหน้ากากอนามัย ส่วนรัฐบาลปัดโก่งราคา “หน้ากากอนามัย” ที่เชียงใหม่นักท่องเที่ยวสวมหน้ากากอนามัยชมรถบุปผชาติ


“อนุทิน” มาดุ! ไม่พอใจต่างชาติไม่รับหน้ากากอนามัย

เมื่อวานนี้ (7 ก.พ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินสายแจกหน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม โดยช่วงระหว่างแจกหน้ากากอนามัย มีนักท่องเที่ยวต่างชาติปฏิเสธ รับหน้ากากอนามัย ทำให้นายอนุทินให้สัมภาษณ์ด้วยอาการ “หลุด” เพราะเป็นห่วงว่าการไม่รับหน้ากากอนามัยจะส่งผลต่อการป้องกันและควบคุมในที่สาธารณะที่มีคนจำนวนมาก


อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน ได้โพสต์ Facebook ขอโทษกรณีดังกล่าวด้วยข้อความว่า ขออภัยที่วันนี้มีอาการ “หลุด” ใส่ชาวต่างชาติแถบยุโรป บางคนที่แสดงอาการรังเกียจคนไทยใส่ Mask และไม่ร่วมมือในการใส่ Mask ในขณะที่พวกเรากำลังรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา เราไม่สามารถรู้ได้ว่าคนต่างชาติคนนั้นมาจากประเทศไหนก่อนมาประเทศไทยและมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน การให้เกียรติและให้ความร่วมมือการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค คือสิ่งที่เราคาดหวัง ไม่ใช่การปัดมือและมองด้วยสายตาเหยียดหยาม เช่นที่ผมและคณะกระทรวงได้รับวันนี้ ขอขอบคุณและขออภัยชาวต่างชาติทุกท่านที่ให้ความร่วมมือป้องกันการแพร่ระบาด

รัฐบาลปัดโก่งราคา “หน้ากากอนามัย”

ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (8 ก.พ.) ยังมีการจำหน่ายหน้ากากอนามัยที่หน้าประตู 6 และที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ โดยเมื่อวานเป็นวันแรกของการเปิดจำหน่าย จำนวน 20,000 ชิ้น แพ็คละ 10 ชิ้น ราคา 25 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 2.50 บาท พบว่าประชาชนให้ความสนใจจำนวนมาก แต่เกิดกระแสวิจารณ์ หลังมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ขายแพงกว่าขององค์การเภสัชกรรมที่ราคาชิ้นละ 1 บาท 


นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล ชี้แจงว่าเกิดจากต้นทุนที่สูงขึ้นจากการผลิตใหม่และบวกกับค่าขนส่งที่จะนำไปขายที่ร้านธงฟ้าทั่วประเทศกว่า 120,000 ชิ้นที่จะเริ่มขายวันนี้ (8 ก.พ.) พร้อมย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้โก่งราคา ส่วนขององค์การเภสัชฯ เป็นหน้ากากอนามัยที่มีอยู่ในสตอก จึงจำหน่ายในราคาถูกได้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบผู้มีพฤติกรรมปั่นราคาขายหน้ากากอนามัยตามที่มีการร้องเรียน ซึ่งรายงานจากกรมการค้าภายในพบว่า มีการจับกุมผู้กระทำผิดไป 8 คน ส่งให้ตำรวจดำเนินคดี มีโทษสูงสุด คือ จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

นักท่องเที่ยวสวมหน้ากากอนามัยชมรถบุปผชาติ

งานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ ซึ่งเป็น 1 ในเทศกาลท่องเที่ยวระดับโลกของจังหวัดเชียงใหม่ จัดขึ้นช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว สมกับเป็นเมืองแห่งดอกไม้บานตลอดปี โดยขบวนรถบุปผชาติ 25 ขบวน ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตกแต่งด้วยดอกไม้นานาพันธุ์หลากสีสันบานสะพรั่ง

เป็นที่น่าสังเกตว่านักท่องเที่ยวที่มาชมงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับที่เชียงใหม่ ปีนี้ นอกจากเป็นนักท่องเที่ยวไทย ยังมีนักท่องเที่ยวจากโซนยุโรปและเอเชีย ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเคยเป็นนักท่องเที่ยวหลัก ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา และผู้คนที่มาเที่ยวชมงานสวมหน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อโรค 

ส่วนที่สวนสาธารณะหนองบวกหาด มีการจัดสวนสวย โดยนำดอกไม้ประดับหายากจากต่างประเทศมาตกแต่งพื้นที่ เช่น ดอกทิวลิป ลิลลี่ และกุหลาบพันปี มีกำแพงดอกไม้ความยาวกว่า 60 เมตร รวมทั้งทุ่งดอกทิวลิป 5 สี และสวนอังกฤษ สร้างบรรยากาศให้นักท่องเที่ยวเหมือนเดินเล่นอยู่ในสวนต่างประเทศ 

ททท. สำนักงานเชียงใหม่ ระบุว่าจากวิกฤตไวรัสโคโรน่า ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไป โดยเฉพาะกรุ๊ปทัวร์ คงเหลือนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวด้วยตนเอง แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวจากยุโรปมาทดแทน ส่วนกระแสเงินสะพัดในของการจัดงาน ไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่เชื่อว่าลดลงจากปีก่อนแน่นอน

ด้านนายมานพ แซ่เจีย นายกสมาคมมัคคุเทศก์เชียงใหม่ บอกว่านักท่องเที่ยวจีนที่เป็นกรุ๊ปทัวร์ เริ่มหายไปจากเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม เป็นต้นมา ผู้โดยสารชาวจีนที่เดินทางเข้ามายังเชียงใหม่ ผ่านท่าอากาศยานปัจจุบันเหลือวันละกว่า 300 คน ส่วนมากเป็นญาติพี่น้องของนักเรียน นักศึกษาที่มาเรียนและอาศัยอยู่ที่เชียงใหม่ เกือบ 8,000 คน รวมทั้งเป็นนักธุรกิจ นายทุนที่มาทำธุรกิจในเชียงใหม่ ซึ่งต้องเดินทางไปมาระหว่างเชียงใหม่กับเมืองต่างๆ ของจีนอยู่ และพบว่าบริษัททัวร์จีน ยกเลิกทัวร์มาเชียงใหม่และประเทศไทยยาวไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้

ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชียงใหม่มอบหน้ากากอนามัยให้จีน

ปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย เริ่มมีให้เห็นมากขึ้น วันนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชียงใหม่ มอบเงินบริจาคและหน้ากากอนามัยช่วยเหลือชาวจีน โดยตัวแทนกงสุลจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ ซาบซึ้งน้ำใจคนไทยที่ส่งกำลังใจ    ในยามที่จีนต้องเผชิญภาวะวิกฤต

ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ ระดมเงินบริจาค 1 แสนบาท และส่งมอบหน้ากากอนามัย ให้ชาวจีน ผ่านรักษาการแทนกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่

นางสวี่ เชี้ยน รักษาการแทนกงสุลจีน ขอบคุณคนไทยที่ร่วมส่งกำลังใจให้ชาวจีนก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้โดยเร็ว พร้อมขอบคุณชาวเชียงใหม่ที่ต้อนรับและดูแลนักท่องเที่ยวจีนอย่างอบอุ่น ยืนยันว่า สถานกงสุลจีนมีระบบรองรับสถานการณ์วิกฤตจากไวรัสโคโรนาในพื้นที่ภาคเหนือของไทย สร้างความมั่นใจให้คนไทยและชาวจีนที่พำนักอยู่

ห้างในตัวเมืองตรังขาดแคลน “หน้ากากอนามัย”

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่สำรวจการจำหน่ายหน้ากากอนามัย ในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ในจังหวัดตรัง หลังจากร้านจำหน่ายหน้ากากอนามัย ทั้งร้านค้าส่งอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ หรือร้านขายยาทั่วไป รวมทั้งร้านสะดวกซื้อ ขาดแคลนทั้งหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ โดยเฉพาะภายในห้างเทสโกโลตัส สาขาตรัง สินค้าหมด ขึ้นป้ายจำกัดการซื้อ 1 ท่านไม่เกิน 10 ชิ้นไว้ชัดเจน ขณะนี้เหลือเฉพาะสำหรับเด็ก และกันฝุ่นพิษ PM 2.5 รองผู้จัดการเทสโกโลตัส สาขาตรังบอกว่า สินค้าขาดตลาดมา 1 สัปดาห์แล้ว และรับแจ้งว่า สินค้าอาจจะมาถึงในอีก 2 – 3 วันข้างหน้า ส่วนร้านจำหน่ายยา ภายในห้างบิ๊กซี หน้ากากอนามัย หน้ากาก PM 2.5  รวมทั้งแอลกอฮอล์ เจลล้างมือขายหมดเกลี้ยง  โดยสินค้าหมดขาดแคลนมาแล้วถึง 2 สัปดาห์   

กระบี่หน้ากากอนามัย-เจลล้างมือขาดแคลน

ที่กระบี่ เจ้าหน้าที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค นำโดยพาณิชย์จังหวัดกระบี่ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และผู้เกี่ยวข้อง ออกตรวจร้านยาและสถานที่จำหน่ายหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือ หลังราชกิจจานุเบกษา กำหนดสินค้าควบคุมเป็นระยะเวลา 1 ปี  

จากการออกตรวจร้านบริเวณถนนมหาราช และถนนมหาราช พบว่าบางร้านไม่มีสินค้าจำหน่าย ขณะที่บางร้านมีสินค้าเพียงเล็กน้อย บางร้านมีสินค้าวางจำหน่ายเป็นจำนวนมาก และขายเป็นแพ็ก ไม่ติดราคาจำหน่าย รวมทั้งติดราคาจำหน่ายเกินกว่าราคาที่ติดไว้ข้างขวด เป็นต้น นอกจากนั้น จากการตรวจสอบพบว่าสินค้าบางชนิดไม่ระบุแหล่งผลิต บางชนิดส่งมาจากประเทศจีน ไม่แจ้งวันหมดอายุ เจ้าหน้าที่จำหน่ายสินค้าผิดประเภท ซึ่งในการตรวจครั้งนี้เป็นการออกตรวจเพื่อให้คำแนะนำ ให้ความรู้ในข้อกฎหมาย พร้อมให้ปรับแก้การดำเนินการให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เอารัดเอาเปรียบและให้เป็นไปตามกฎหมาย

กระบี่นักท่องเที่ยวลดลงมาก

ส่วนเรือหางยาว เรือสปีดโบ๊ท เรือนำเที่ยวจำนวนมาก จอดลอยลำ อยู่ในอ่าว หลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ หลังจากไม่มีนักท่องเที่ยวใช้บริการ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงมาก มีการยกเลือกเที่ยวบิน จากจีนไม่ต่ำกว่า 50 เที่ยว  

ผู้บริหารบริษัทเกาะพีพี ทัวร์ จำกัด ระบุว่าพบปัญหานักท่องเที่ยวชาวยุโรปบางรายไม่ต้องการเดินทางร่วมกับชาวจีน ต้องแยกลำเรือ หรือต้องแยกรถกัน ทำให้เพิ่มค่าใช้จ่าย รายรับลดลงถึงร้อยละ 50 ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว ได้เพิ่มความถี่ทำความสะอาด รถ เรือ ห้องน้ำ ฉีดยาฆ่าเชื้อ ทุกวัน จัดอบรมพนักงานเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ 

สถิตินักท่องเที่ยวจีนที่ยังอยู่ในไทย

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยจำนวนคนจีนที่ยังในประเทศไทย สถิติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ มีคนจีนเข้าไทยทั้งหมด 1,004,067 คน ออกไปแล้ว 889,567 คน ยังอยู่ในไทย 114,491 คน คนที่มาจากเมืองอู่ฮั่น 23,933 คน ออกไปแล้ว 21,895 คน ยังอยู่ในไทย 2,038 คน  

สำหรับอุปกรณ์การตรวจสอบบุคคลเข้าออกประเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยเฉพาะเครื่องตรวจลายนิ้วมือระบบไบโอเมทริกซ์ได้สั่งการให้ทำความสะอาดทุก 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ในทุกด่านตรวจคนเข้าเมือง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้