สถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในไทย

กรุงเทพฯ 8 ก.พ.- “อนุทิน” มาดุ! ไม่พอใจต่างชาติไม่รับหน้ากากอนามัย ส่วนรัฐบาลปัดโก่งราคา “หน้ากากอนามัย” ที่เชียงใหม่นักท่องเที่ยวสวมหน้ากากอนามัยชมรถบุปผชาติ


“อนุทิน” มาดุ! ไม่พอใจต่างชาติไม่รับหน้ากากอนามัย

เมื่อวานนี้ (7 ก.พ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินสายแจกหน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม โดยช่วงระหว่างแจกหน้ากากอนามัย มีนักท่องเที่ยวต่างชาติปฏิเสธ รับหน้ากากอนามัย ทำให้นายอนุทินให้สัมภาษณ์ด้วยอาการ “หลุด” เพราะเป็นห่วงว่าการไม่รับหน้ากากอนามัยจะส่งผลต่อการป้องกันและควบคุมในที่สาธารณะที่มีคนจำนวนมาก


อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน ได้โพสต์ Facebook ขอโทษกรณีดังกล่าวด้วยข้อความว่า ขออภัยที่วันนี้มีอาการ “หลุด” ใส่ชาวต่างชาติแถบยุโรป บางคนที่แสดงอาการรังเกียจคนไทยใส่ Mask และไม่ร่วมมือในการใส่ Mask ในขณะที่พวกเรากำลังรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา เราไม่สามารถรู้ได้ว่าคนต่างชาติคนนั้นมาจากประเทศไหนก่อนมาประเทศไทยและมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน การให้เกียรติและให้ความร่วมมือการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค คือสิ่งที่เราคาดหวัง ไม่ใช่การปัดมือและมองด้วยสายตาเหยียดหยาม เช่นที่ผมและคณะกระทรวงได้รับวันนี้ ขอขอบคุณและขออภัยชาวต่างชาติทุกท่านที่ให้ความร่วมมือป้องกันการแพร่ระบาด

รัฐบาลปัดโก่งราคา “หน้ากากอนามัย”

ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (8 ก.พ.) ยังมีการจำหน่ายหน้ากากอนามัยที่หน้าประตู 6 และที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ โดยเมื่อวานเป็นวันแรกของการเปิดจำหน่าย จำนวน 20,000 ชิ้น แพ็คละ 10 ชิ้น ราคา 25 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 2.50 บาท พบว่าประชาชนให้ความสนใจจำนวนมาก แต่เกิดกระแสวิจารณ์ หลังมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ขายแพงกว่าขององค์การเภสัชกรรมที่ราคาชิ้นละ 1 บาท 


นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล ชี้แจงว่าเกิดจากต้นทุนที่สูงขึ้นจากการผลิตใหม่และบวกกับค่าขนส่งที่จะนำไปขายที่ร้านธงฟ้าทั่วประเทศกว่า 120,000 ชิ้นที่จะเริ่มขายวันนี้ (8 ก.พ.) พร้อมย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้โก่งราคา ส่วนขององค์การเภสัชฯ เป็นหน้ากากอนามัยที่มีอยู่ในสตอก จึงจำหน่ายในราคาถูกได้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบผู้มีพฤติกรรมปั่นราคาขายหน้ากากอนามัยตามที่มีการร้องเรียน ซึ่งรายงานจากกรมการค้าภายในพบว่า มีการจับกุมผู้กระทำผิดไป 8 คน ส่งให้ตำรวจดำเนินคดี มีโทษสูงสุด คือ จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

นักท่องเที่ยวสวมหน้ากากอนามัยชมรถบุปผชาติ

งานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ ซึ่งเป็น 1 ในเทศกาลท่องเที่ยวระดับโลกของจังหวัดเชียงใหม่ จัดขึ้นช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว สมกับเป็นเมืองแห่งดอกไม้บานตลอดปี โดยขบวนรถบุปผชาติ 25 ขบวน ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตกแต่งด้วยดอกไม้นานาพันธุ์หลากสีสันบานสะพรั่ง

เป็นที่น่าสังเกตว่านักท่องเที่ยวที่มาชมงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับที่เชียงใหม่ ปีนี้ นอกจากเป็นนักท่องเที่ยวไทย ยังมีนักท่องเที่ยวจากโซนยุโรปและเอเชีย ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเคยเป็นนักท่องเที่ยวหลัก ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา และผู้คนที่มาเที่ยวชมงานสวมหน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อโรค 

ส่วนที่สวนสาธารณะหนองบวกหาด มีการจัดสวนสวย โดยนำดอกไม้ประดับหายากจากต่างประเทศมาตกแต่งพื้นที่ เช่น ดอกทิวลิป ลิลลี่ และกุหลาบพันปี มีกำแพงดอกไม้ความยาวกว่า 60 เมตร รวมทั้งทุ่งดอกทิวลิป 5 สี และสวนอังกฤษ สร้างบรรยากาศให้นักท่องเที่ยวเหมือนเดินเล่นอยู่ในสวนต่างประเทศ 

ททท. สำนักงานเชียงใหม่ ระบุว่าจากวิกฤตไวรัสโคโรน่า ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไป โดยเฉพาะกรุ๊ปทัวร์ คงเหลือนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวด้วยตนเอง แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวจากยุโรปมาทดแทน ส่วนกระแสเงินสะพัดในของการจัดงาน ไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่เชื่อว่าลดลงจากปีก่อนแน่นอน

ด้านนายมานพ แซ่เจีย นายกสมาคมมัคคุเทศก์เชียงใหม่ บอกว่านักท่องเที่ยวจีนที่เป็นกรุ๊ปทัวร์ เริ่มหายไปจากเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม เป็นต้นมา ผู้โดยสารชาวจีนที่เดินทางเข้ามายังเชียงใหม่ ผ่านท่าอากาศยานปัจจุบันเหลือวันละกว่า 300 คน ส่วนมากเป็นญาติพี่น้องของนักเรียน นักศึกษาที่มาเรียนและอาศัยอยู่ที่เชียงใหม่ เกือบ 8,000 คน รวมทั้งเป็นนักธุรกิจ นายทุนที่มาทำธุรกิจในเชียงใหม่ ซึ่งต้องเดินทางไปมาระหว่างเชียงใหม่กับเมืองต่างๆ ของจีนอยู่ และพบว่าบริษัททัวร์จีน ยกเลิกทัวร์มาเชียงใหม่และประเทศไทยยาวไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้

ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชียงใหม่มอบหน้ากากอนามัยให้จีน

ปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย เริ่มมีให้เห็นมากขึ้น วันนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชียงใหม่ มอบเงินบริจาคและหน้ากากอนามัยช่วยเหลือชาวจีน โดยตัวแทนกงสุลจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ ซาบซึ้งน้ำใจคนไทยที่ส่งกำลังใจ    ในยามที่จีนต้องเผชิญภาวะวิกฤต

ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ ระดมเงินบริจาค 1 แสนบาท และส่งมอบหน้ากากอนามัย ให้ชาวจีน ผ่านรักษาการแทนกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่

นางสวี่ เชี้ยน รักษาการแทนกงสุลจีน ขอบคุณคนไทยที่ร่วมส่งกำลังใจให้ชาวจีนก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้โดยเร็ว พร้อมขอบคุณชาวเชียงใหม่ที่ต้อนรับและดูแลนักท่องเที่ยวจีนอย่างอบอุ่น ยืนยันว่า สถานกงสุลจีนมีระบบรองรับสถานการณ์วิกฤตจากไวรัสโคโรนาในพื้นที่ภาคเหนือของไทย สร้างความมั่นใจให้คนไทยและชาวจีนที่พำนักอยู่

ห้างในตัวเมืองตรังขาดแคลน “หน้ากากอนามัย”

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่สำรวจการจำหน่ายหน้ากากอนามัย ในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ในจังหวัดตรัง หลังจากร้านจำหน่ายหน้ากากอนามัย ทั้งร้านค้าส่งอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ หรือร้านขายยาทั่วไป รวมทั้งร้านสะดวกซื้อ ขาดแคลนทั้งหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ โดยเฉพาะภายในห้างเทสโกโลตัส สาขาตรัง สินค้าหมด ขึ้นป้ายจำกัดการซื้อ 1 ท่านไม่เกิน 10 ชิ้นไว้ชัดเจน ขณะนี้เหลือเฉพาะสำหรับเด็ก และกันฝุ่นพิษ PM 2.5 รองผู้จัดการเทสโกโลตัส สาขาตรังบอกว่า สินค้าขาดตลาดมา 1 สัปดาห์แล้ว และรับแจ้งว่า สินค้าอาจจะมาถึงในอีก 2 – 3 วันข้างหน้า ส่วนร้านจำหน่ายยา ภายในห้างบิ๊กซี หน้ากากอนามัย หน้ากาก PM 2.5  รวมทั้งแอลกอฮอล์ เจลล้างมือขายหมดเกลี้ยง  โดยสินค้าหมดขาดแคลนมาแล้วถึง 2 สัปดาห์   

กระบี่หน้ากากอนามัย-เจลล้างมือขาดแคลน

ที่กระบี่ เจ้าหน้าที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค นำโดยพาณิชย์จังหวัดกระบี่ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และผู้เกี่ยวข้อง ออกตรวจร้านยาและสถานที่จำหน่ายหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือ หลังราชกิจจานุเบกษา กำหนดสินค้าควบคุมเป็นระยะเวลา 1 ปี  

จากการออกตรวจร้านบริเวณถนนมหาราช และถนนมหาราช พบว่าบางร้านไม่มีสินค้าจำหน่าย ขณะที่บางร้านมีสินค้าเพียงเล็กน้อย บางร้านมีสินค้าวางจำหน่ายเป็นจำนวนมาก และขายเป็นแพ็ก ไม่ติดราคาจำหน่าย รวมทั้งติดราคาจำหน่ายเกินกว่าราคาที่ติดไว้ข้างขวด เป็นต้น นอกจากนั้น จากการตรวจสอบพบว่าสินค้าบางชนิดไม่ระบุแหล่งผลิต บางชนิดส่งมาจากประเทศจีน ไม่แจ้งวันหมดอายุ เจ้าหน้าที่จำหน่ายสินค้าผิดประเภท ซึ่งในการตรวจครั้งนี้เป็นการออกตรวจเพื่อให้คำแนะนำ ให้ความรู้ในข้อกฎหมาย พร้อมให้ปรับแก้การดำเนินการให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เอารัดเอาเปรียบและให้เป็นไปตามกฎหมาย

กระบี่นักท่องเที่ยวลดลงมาก

ส่วนเรือหางยาว เรือสปีดโบ๊ท เรือนำเที่ยวจำนวนมาก จอดลอยลำ อยู่ในอ่าว หลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ หลังจากไม่มีนักท่องเที่ยวใช้บริการ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงมาก มีการยกเลือกเที่ยวบิน จากจีนไม่ต่ำกว่า 50 เที่ยว  

ผู้บริหารบริษัทเกาะพีพี ทัวร์ จำกัด ระบุว่าพบปัญหานักท่องเที่ยวชาวยุโรปบางรายไม่ต้องการเดินทางร่วมกับชาวจีน ต้องแยกลำเรือ หรือต้องแยกรถกัน ทำให้เพิ่มค่าใช้จ่าย รายรับลดลงถึงร้อยละ 50 ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว ได้เพิ่มความถี่ทำความสะอาด รถ เรือ ห้องน้ำ ฉีดยาฆ่าเชื้อ ทุกวัน จัดอบรมพนักงานเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ 

สถิตินักท่องเที่ยวจีนที่ยังอยู่ในไทย

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยจำนวนคนจีนที่ยังในประเทศไทย สถิติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ มีคนจีนเข้าไทยทั้งหมด 1,004,067 คน ออกไปแล้ว 889,567 คน ยังอยู่ในไทย 114,491 คน คนที่มาจากเมืองอู่ฮั่น 23,933 คน ออกไปแล้ว 21,895 คน ยังอยู่ในไทย 2,038 คน  

สำหรับอุปกรณ์การตรวจสอบบุคคลเข้าออกประเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยเฉพาะเครื่องตรวจลายนิ้วมือระบบไบโอเมทริกซ์ได้สั่งการให้ทำความสะอาดทุก 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ในทุกด่านตรวจคนเข้าเมือง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% ไม่พอใจเข้มปราบแก๊งคอลฯ

กระทรวงวัฒนธรรม 26 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดใจ ขอคนไทยรักกัน หันไปทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน ชี้ขัดแย้งกันเองยังรอได้ แฉกัมพูชาไม่พอใจไทยร่วมมือลาว – เมียนมา ปราบคอลเซ็นเตอร์ เผยสื่อนอกยังตั้งข้อสังเกต “กพช.” สั่งปิด รร.ยิงวันแรก เหมือนรู้ล่วงหน้าจะมีการรบ ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามมาตรการการรับมือ และช่วยช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยนางสาวแพทองธารได้ยืนยันแถลงการณ์ของรัฐบาล ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แถลงไปเมื่อวานนี้ ที่ระบุว่ากัมพูชาถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง วิธีการต่าง ๆ ขัดต่อหลักสันติวิธีของกฎหมายระหว่างประเทศ และขัดหลักมนุษยธรรมที่ได้ปฏิบัติมาตลอด สถานการณ์ความรุนแรง เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ย้ำตลอดว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุด คือชีวิตของประชาชน เป็นสิ่งที่เรายึดถือ และพยายามไม่ให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ จนฝ่ายกัมพูชาได้ยิงก่อน ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา นางสาวแพทองธารยังกล่าวว่า มีสำนักข่าวต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า จริงๆ แล้วเรามีหลักฐาน มีดิจิทัลฟุตปริ้นท์ที่สามารถทำให้เห็นว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน และมีการตั้งข้อสังเกตว่าในวันนั้นนักเรียนของเราที่อยู่ชายแดนไปโรงเรียนตามปกติ […]

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย